บทที่ 12 12

“ดีค่ะ”

“ตอบแบบนี้หมายความว่าเจ้าจะไปรึ” ท่านพญามัจจุราชถามเสียงสูงด้วยความแปลกใจ “เราถามเจ้าหน่อยเถอะ ทำไมเจ้าถึงไม่อยากกลับไปเกิดในภพภูมินี้ เจ้าไม่คิดถึงครอบครัวเจ้าแล้วรึ”

“ครอบครัวของฉันมีพี่น้องหลายคน พวกเขาขาดฉันไปหนึ่งคนคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันอยากอยู่กับพ่อมากกว่า” ร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว คนรักของเธอก็นอกใจเธอไปแล้ว กลับไปก็ไร้ความหมายสิ้นดี สู้ไปอยู่ชาติภพอื่นกับบิดาดีกว่า

“แค่นี้รึเหตุผลของเจ้า”

นางไม่อยากกลับไปเจอผู้ชายคนนั้น ถึงเธอไม่บอกท่านพญามัจจุราชก็ได้ยินสิ่งที่ใจเธอคิด

“ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก ยมทูตปาณะส่งนางไปเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์อีก โชคดีนะวิญญาณรนิดา”

“ขอบคุณท่านที่เมตตาฉันกับพ่อค่ะ” รนิดายกมือไหว้พญามัจจุราชแล้วยื่นมือให้ยมทูตที่พาตนมา

“เจ้าจะให้เรามัดเจ้ารึ” ยมทูตปาณะข้องใจ

“ฉันกลัวตัวเองจะเปลี่ยนใจกะทันหันแล้วหนีท่านไปอีก ทางที่ดีจับฉันไปแล้วรีบพาฉันไปสิงร่างชาวบ้านสักทีเถอะ” นางประชดนิดๆ

“ได้ๆๆ” เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ยมทูตตอบรับคำขอของดวงวิญญาณอย่างรวดเร็ว

‘ทำไมถึงอึดอัดอย่างนี้นะ แล้วใครกันนะมาร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่ข้างๆ หูฉันเนี่ย’ รนิดาได้ยินเสียงคร่ำครวญปานขาดใจของใครคนหนึ่งชัดเจนแจ่มแจ้ง ขณะที่อีกหลายเสียงกำลังแสดงความเสียใจแบบเยาะๆ เต็มสองรูหูเหมือนกัน

เธอพยายามจะลืมตาขึ้นดู พยายามจะขยับตัวแต่ก็ทำไม่ได้สักที สุดท้ายจึงนอนนิ่งๆ อยู่สักพัก

‘ท่านพญามัจผู้ยิ่งใหญ่ สรุปท่านเต็มใจส่งฉันมาสิงร่างผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าคะ ถ้าเต็มใจก็กรุณาทำให้ฉันเป็นปกติด้วยค่ะ ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้’ เธอต่อว่าผู้ยิ่งใหญ่ในนรกภูมิอย่างหงุดหงิดอยู่ในใจ

‘ใจเย็นๆ สิวิญญาณรนิดา ตอนนี้วิญญาณของเจ้ากำลังสร้างความคุ้นเคยกับร่างใหม่อยู่นะ ระหว่างนี้เจ้าก็นอนฟังคนรอบข้างไปก่อนก็แล้วกันนะแล้วเจ้าก็ไม่ต้องเรียกหาเราแล้วนะ เพราะต่อไปนี้เราถือว่าเจ้าเป็นมนุษย์แล้ว เราไม่สามารถยุ่งกับเจ้าได้อีก’

‘อย่าเพิ่งไป.. ท่านมัจจุราชได้ยินฉันไหม.. ท่านมัจจุราช..’ เขาไปแล้วจริงๆ เขาส่งเธอมาอยู่ในร่างของครอบครัวชาวจีนแล้วก็จากไป แต่บิดาเธอในชาตินี้คงมีฐานะร่ำรวยมากสินะ เธอถึงถูกเรียกว่าคุณหนูๆ แบบนี้

“ร้องไห้คร่ำครวญอยู่แบบนี้ก็มีแต่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ทางที่ดีเจ้ารีบเอาศพของคุณหนูกลับไปที่บ้านของนางดีกว่านะอาหลี่”

“แต่คุณหนูสั่งข้าไว้ว่าให้รออ๋องใหญ่กลับมาแล้วฟังคำสั่งของอ๋องใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของอ๋องใหญ่เท่านั้น”

“กว่าอ๋องใหญ่จะกลับมาศพนางคงขึ้นอืดจนดูไม่ได้ แค่นี้ก็อืดจนน่าเกลียดอยู่แล้ว”

คิกๆๆ  หลายเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน ไม่ได้สลดกับการจากไปของคนๆ หนึ่งเลยสักนิด

“พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาว่าคุณหนูของข้านะ พวกเจ้ามันก็แค่นางบำเรอ แต่คุณหนูของข้าคือพระชายาของอ๋องใหญ่แต่เพียงผู้เดียว”

“พระชายาที่ไม่เคยได้ร่วมหอกับสามีอย่างนางพวกข้าไม่สนหรอก พวกข้าต่างหากที่ท่านอ๋องเรียกหาให้อุ่นเตียงอยู่ทุกค่ำคืน”

“พวกเจ้าก็เลยกล้าทำตัวเหยียบหัวคุณหนูของข้าอย่างนั้นหรือ”

“คุณหนูของเจ้าทั้งโง่ทั้งอ่อนแอเอง จะมาโทษพวกข้าฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนะ ไม่รู้จักสู้ก็ไม่ได้หรอกชัยชนะ”

“มันจะมากไปแล้วนะ ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่ออ๋องใหญ่เมื่อท่านกลับมา”

“กว่าท่านอ๋องจะกลับมาจากชายแดนก็คงใช้เวลาเป็นเดือน ถึงเวลานั้นเจ้าอาจจะตรอมใจตายตามคุณหนูของเจ้าไปแล้วก็ได้”

“พวกเจ้าสามคนคิดจะทำร้ายข้าหรือ”

“ถ้าเจ้าไม่เสนอหน้าอยู่พบอ๋องใหญ่ข้าก็จะละเว้นเจ้าไว้ ถ้าเจ้าฉลาดก็รีบส่งข่าวไปให้ใต้เท้าเฟิ่งมารับศพลูกสาวของเขาไปดีกว่า”

“เจ้าสามคนช่างเลวร้ายยิ่งนัก คุณหนูของข้าดีต่อพวกเจ้าทุกอย่างเจ้าก็ยังทำให้นางตรอมใจจนตายจาก สักวันเวรกรรมจะตามสนองพวกเจ้าคอยดู”

“ถ้าเจ้ายังพูดมากเจ้าอาจจะไม่ได้อยู่เห็นวันนั้นก็ได้นะอาหลี่”

“เจ้าจะทำอะไรข้าน่ะสุ่ย อย่าเข้ามานะไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วยนะ”

“ใครจะมาช่วยเจ้าได้ คุณหนูผู้สูงส่งของเจ้าก็กลายเป็นผีไปแล้ว พวกเจ้าสองคนจับมันเอาไว้” สุ่ยออกคำสั่ง

เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ!

สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ถูกจับมือไว้ทั้งสองข้างจนไม่มีทางสู้ และนางก็ถูกฝ่ามือของสุ่ยฟาดใส่ใบหน้าติดๆ กันจนเจ็บระบม

“พวกเจ้าสามคนกำลังทำอะไรกัน!”

“ข้าก็แค่สั่งสอนนางนิดหน่อยเท่านั้นแม่บ้านหวัง”

“ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ถึงอ๋องใหญ่รีบออกไปให้หมด”

“แม่บ้านหวังควรจะให้เกียรติพวกข้าบ้างนะ เพราะพวกข้าคืออนุของอ๋องใหญ่”

“อ๋องใหญ่ยังไม่เคยแต่งใครเป็นอนุนอกจากแต่งคุณหนูเฟิ่งต้าชวี่เป็นพระชายา พวกเจ้ามันก็แค่นางบำเรอที่เอาไว้อุ่นเตียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น อย่ามาผยองกับข้านัก รีบไปให้พ้นหน้าข้าถ้ายังอยากอาศัยอยู่ในจวนหลังนี้”

“เจ้าค่ะ” สามสาวเสียงอ่อย รีบเดินออกไป

“เป็นอย่างไรบ้างอาหลี่ เจ็บมากไหม ดีนะที่ข้าเข้ามาทันไม่อย่างนั้นเจ้าคงโดนหนักกว่านี้”

“เจ็บสิป้าหวัง แต่เจ็บที่ใจมากกว่าหลายส่วน ฮือๆๆ ฮือๆๆ”

“อย่าร้องไห้ไปเลยนะ ร้องไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ถ้าวิญญาณของคุณหนูเจ้ายังอยู่แถวนี้ นางอาจจะไม่สบายใจนะที่ปกป้องเจ้าไม่ได้”

“ฮึกๆ แต่ป้าหวังก็ฮึกๆ มาปกป้องข้าฮึกๆ แทนนางแล้ว ฮึกๆ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะสาวใช้วิ่งไปส่งข่าว ข้าก็คงมาช่วยเจ้าไม่ทันเหมือนกัน”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป