บทที่ 3 3
“ถ้าอย่างนั้นก็ดูหนังด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับนะเจ๊” น้องสาวคนสุดท้องมองพี่สาวตาปริบๆ เมื่อร้องขอออกไปแล้ว ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างแล้วรีบกดจองตั๋วผ่านทางโทรศัพท์ เมื่ออีกฝ่ายตอบตกลงหลังจากดูนาฬิกาที่ข้อมือ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งห้าสาวก็เดินเข้าสู่โรงหนังของห้างดัง พวกเธอเดินเข้าไปนั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ในตั๋วหนัง และนั่งชมตัวอย่างไปเรื่อย ๆ
ขณะนั้นรนิดารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมากะทันหัน จึงกระซิบบอกน้องสาวคนที่นั่งใกล้ที่สุด “พี่ไปห้องน้ำก่อนนะ ปวดท้องตุ่ย ๆ ว่ะ”
“นกไปด้วย ปวดฉี่พอดีเลย” อารียาลุกตามพี่สาวออกไป.. “เสร็จแล้วนกไปรอข้างนอกนะ”
“ไม่ต้องรอหรอก เข้าไปดูหนังก่อนเลย” เพราะรู้ว่าถ้ามีคนรอแบบนี้จะทำให้เธอไม่มีสมาธิในการเข้าห้องน้ำ จึงไม่ชอบให้ใครรอ
“ก็ได้จ้ะ” อารียารับปากพี่สาวแล้วแยกย้ายกันเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากเสร็จธุระก็เดินออกมา ตั้งใจจะยืนรอพี่สาวอยู่ที่ด้านนอก “ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินตามหลังเธอออกมาและชนถูกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็รีบหันไปขอโทษเพราะรู้ว่าเป็นความผิดของตนที่หยุดเดินกะทันหัน และรีบเบี่ยงหลบให้เธอคนนั้นเดินออกไปก่อนแล้วจึงเดินตามออกไป แต่ก็ไม่วายชายตามองไปทางหญิงสาวที่ชนถูกตน
และภาพที่เห็นก็ทำให้เธอตกตะลึงถึงกับตาค้าง หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอกระโดดโลดเต้น ยิ่งกว่าครั้งที่ต้องลุ้นพี่สาวประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์เสียอีก
เธอจำผู้ชายคนนั้นได้ดีและมองเขาไม่เลิกรา มองจนเขาเดินลับตาไปกับหญิงสาวคนนั้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว และถึงแม้จะนึกได้ว่าควรตามไปดูช้าเกินไป แต่เท้าของเธอก็รีบเดินตามหนุ่มสาวคู่นั้นออกไป.. แต่เธอไม่เห็นพวกเขาแล้ว ระหว่างนั้นหัวใจของเธอยังเต้นอย่างแรงพอ ๆ กับสมองที่ครุ่นคิดอย่างหนัก สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในโรงหนัง และดูหนังแทบจะไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้
“หนังไม่สนุกเหรอนก พี่ไม่เห็นเราหัวเราะเลย” หลังจากเดินออกมาจากโรงหนัง พี่สาวคนโตก็ถามน้องสาวคนที่สองด้วยความสงสัยขณะที่รอน้องสาวอีกสามคนไปเข้าห้องน้ำ
“นกดูไม่รู้เรื่องเลยพี่หงส์ เพราะอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา”
“ไม่สบายเหรอ ตัวร้อนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกพี่หงส์ สงสัยจะเย็นแอร์” เธอบอกปัดมั่ว ๆ ไป “นกว่าจะถามพี่หงส์อยู่ว่าที่ติ๊กเขาไม่มาด้วย เพราะติดสอนจริง ๆ หรือว่าเพราะเขารู้ว่าเตี่ยเราไม่ปลื้มเขา”
“ติ๊กเขาไม่ใช่คนคิดมากขนาดนั้นหรอกนก แล้วพี่ก็ไม่เคยบอกเขาด้วยว่าเตี่ยไม่ค่อยปลื้มเขา ที่เขาไม่มาเพราะติดสอนจริง ๆ จ้ะ เมื่อกี้ก่อนที่จะดูหนังพี่โทรไปหา เขาบอกว่าเพิ่งจะสอนเสร็จ กำลังจะไปหาข้าวกินแล้วก็จะกลับที่พักไปทำรายงาน” เธอกล่าวถึงคนรักอย่างปลื้มปีติ เพราะเขากำลังมุมานะที่จะเอาปริญญาเอกมาฝากตนเป็นของขวัญครบรอบวันแต่งงานในปีหน้า
“พี่หงส์ต้องดูแลติ๊กเขามาก ๆ นะ อย่าปล่อยให้เขาอยู่นอกสายตาบ่อยๆ ล่ะ เรียนด้วยทำงานด้วยมันเครียดน่ะ” เธอพยายามเตือนพี่สาวอ้อม ๆ
“เรื่องนี้เราคุยกันแล้ว เราสัญญากันแล้วว่าถ้ามีปัญหาคาใจเราจะคุยกันตรง ๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงจ้ะ”
“ถามจริง ๆ นะ พี่หงส์กับติ๊กเจอกันบ่อยแค่ไหน อาทิตย์ละกี่ครั้ง”
“ทำไมถามแบบนี้ล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” รนิดาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของน้องสาว
“อยู่ดีๆ นกก็รู้สึกเสียดายพี่หงส์เหมือนเตี่ยอีกคนละมั้ง” แล้วเธอก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนพิรุธเมื่อเห็นสายตาจับผิดของพี่สาว “ก็เลยอยากรู้ว่าเพื่อนนกมันดีกับพี่สาวของนกแค่ไหนไง”
“ไร้สาระน่า” พี่สาวคลี่ยิ้มแล้วยีผมน้องสาวอย่างเอ็นดู “พี่เจอกับติ๊กเขาทุกครั้งที่เข้าไปสอนที่มหาลัยนั่นแหละจ้ะ แล้วเราก็จะกินข้าวด้วยกันทุกครั้งด้วย”
“แล้วนอกจากมหาลัยล่ะ”
“ก็มีเจอกันบ้างเวลาที่เราว่างตรงกัน แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก ส่วนมากจะโทรศัพท์ถึงกันมากกว่า”
“พี่จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วนะ พี่ยังห่างเหินกันอีกเหรอ”
“เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าห่างเหินกันซะหน่อยนี่ เรามีความสุขและรักกันดีออก ยังคุยกันเลยว่าหลังจากแต่งงานแล้วเราอาจจะต้องแยกกันอยู่อีกสักพักจนกว่าเขาจะเรียนจบ เพราะเขาอยากมีสมาธิอยู่กับเรื่องเรียนมากกว่า”
“แล้วพี่จะรีบแต่งงานไปทำไม รอให้เขาเรียนจบแล้วค่อยแต่งไม่ดีกว่าเหรอ”
“ก็ติ๊กเขาอยากแต่งเร็วๆ นี่นา พี่เองก็อายุมากแล้วด้วย ถ้ามีลูกช้ามันก็จะไม่เป็นผลดีกับพี่สักเท่าไหร่”
“พูดกันตามจริงแล้วพี่กับติ๊กรู้จักกันมาหลายปีแล้วก็จริง แต่ก็ผิวเผินมากๆ พี่เพิ่งจะตกลงดูใจกันไม่ถึงปีเลยนะ ทำไมพี่ถึงตัดสินใจเรื่องแต่งงานเร็วแบบนี้ล่ะ” เธอทิ้งระยะเพื่อชั่งใจสักครู่ “ถามจริงๆ พี่ท้องหรือเปล่า” พี่สาวแสนสวยของเธอถึงจะมีนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง มีแฟนก็คบกันไม่เคยยืดเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ทนความบ้างานของเธอไม่ได้ แต่กับธนายุทธทุกอย่างกลับตรงกันข้ามอย่างเหลือเชื่อ
“บ้าสินก! พี่ไม่ใช่เด็กสาวแล้วนะนกจะได้ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น”
“นกไม่อยากจะบอกพี่หงส์เลย...” ฝ่ายน้องสาวอ้ำอึ้งเพราะความลำบากใจอีกครั้ง แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่างพี่สาวของเธอก็คงไม่รู้สึกตัวว่ากำลังโดนสวมเขา “ตอนที่นกเรียนกับติ๊ก ติ๊กเขามีผู้หญิงมาติดพันเยอะนะ นกกลัว..” น้องสาวใช้สายตาสื่อความหมายของคำว่ากลัว
“พี่เชื่อใจติ๊กเขานะ”
“พี่หงส์ไม่แคร์เลยเหรอ”
“ไม่หรอก พี่ไม่เครียดกับเรื่องแบบนี้หรอก คนน่ารักแบบติ๊กไม่มีคนชอบสิแปลก”
“แล้วถ้าเขานอกใจพี่หงส์ล่ะ”
