บทที่ 2 สอนรักให้เธอร้อน บทที่ 2

“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”

กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จากอาการที่ตัวเธอเองก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงได้รู้สึกเฉย ๆ เวลาอยู่ใกล้ผู้ชาย มันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงที่ไม่อยากมีครอบครัว แต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองและเรียนรู้เรื่องรักจากใครสักคนที่ไว้ใจได้

แล้วเธอก็เห็นอาร์เธออยู่บนเวทีคอนเสิร์ต หนุ่มอเมริกันใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มที่ความดึงดูดใจนั้นสะกดสายตาของเธอตั้งแต่แรกพบ หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อได้เห็นเขา เธอปฏิเสธตัวเองว่านั่นไม่ใช่รักแรกพบ แต่เขาอาจเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกที่จะทำให้เธอเข้าใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วปฏิกิริยาที่เธอมีต่อสัตว์โลกที่เรียกว่า ผู้ชาย นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

เธอเข้าไปหาเขา ขอพบเขาหลังเวทีคอนเสิร์ตเพื่อยื่นข้อเสนอที่เธอต้องการเรียนรู้และพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการให้เขามาช่วยสอนบทเรียนรักและวิธีการที่จะทำให้ผู้ชายหลง

เขามองเธอด้วยความงงงวยเหมือนไก่ตาแตก แต่พอเธออธิบายเหตุผลให้เขาฟังอาร์เธอกลับไม่ได้มองว่าเธอกำลังทำเรื่องตลกในสายตาของเขา เขารับปากและเธอสัญญาว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจเธอจะจ่ายค่าตอบแทนให้เขาก้อนหนึ่ง

“ผมเข้าใจพีชชี่”

อาร์เธอกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“แต่ก่อนจะเข้าสู่บทเรียนผมอยากให้คุณลองพิจารณาตัวเองเสียใหม่”

“คะ?”

“ผมหมายถึง...ถ้าคุณอยากเรียนรู้เรื่อง...เอิ่ม...รัก มันต้องเริ่มจาก...การแต่งตัว”

บทที่ 2

อาร์เธอกล่าวไปตามความรู้สึกของเขา บ้าชะมัดที่เขารับปากจะเป็นเทรนเนอร์เรื่องรักให้กับหญิงสาวที่เขาไม่เคยรู้จักเธอแม้แต่น้อย แต่เขาก็เคยมีประสบการณ์สอนผู้หญิงคนอื่นมาแล้ว

แต่ไม่ใช่ในห้องที่เป็นส่วนตัวมากขนาดนี้ แถมยังโอบล้อมด้วยบรรยากาศแบบนี้ บรรยากาศโรแมนติกที่มันพร้อมจะทำลายสมาธิเขาได้ทุกเมื่อ

“คุณคงหมายถึง...ชุดลูกไม้ซีนะคะ อาร์เธอ?”

กัญชลิกาเลิกคิ้วน้อย ๆ ขณะมองหน้าเขา แดนเซอร์หนุ่มกล้ามล่ำรู้สึกร้อนขึ้นมาจนต้องถอดเสื้อสูทตัวนอกออก และนั่นทำให้เห็นมัดกล้ามหนั่นแน่นอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวชัดเจน

“โอเค...ผมจะเริ่มบทเรียนแรก ซึ่งมันก็คือเสื้อผ้าของคุณ”

“ก่อนที่หมอจะวินิจฉัยฉันแบบนั้น ฉันซื้อชุดลูกไม้แบบฝรั่งเศสเก็บไว้เยอะเลย แล้วถ้าฉันใส่มัน แล้วถ้าฉันไม่รู้สึกอะไรเลยตอนใส่มัน”

“เอาชุดที่คุณคิดว่าตัวเองจะเซ็กซี่ที่สุด”

ชายหนุ่มแทรกขึ้นท่ามกลางบทสนทนาที่เห็นได้ชัดว่ากัญชลิกาปราศจากความมั่นใจในตัวเอง เขาให้กำลังใจเธออย่างนั้นซีนะ หญิงสาวชาวไทยค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนเดินหายเข้าไปในห้องของเธออีกชั่วครู่

อาร์เธอบอกตัวเองว่าเขาไม่ได้ต้องการค่าตอบแทนที่กัญชลิกาเสนอให้ แต่เธอทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างแรงกล้าขึ้นมา นั่นคือการช่วยเธอพิสูจน์ตัวเองว่า เธอ...ก็ยัง ร้อน เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ในโลก

“อาร์เธอ...มันโอเครึเปล่า?”

เสียงที่ดังขึ้นทำลายภวังค์คิดของชายหนุ่มอีกครั้ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้สมาธิของเขาถูกทำลายจนกระจัดกระจายไร้ทิศเมื่อร่างเล็กบอบบางที่เห็นภายนอกอวดโฉมสะคราญภายในที่อลังการไม่น้อย

ร่างของกัญชลิกาอ้อนแอ้นสะโอดสะองอยู่ในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้เนื้อสแปนเด็กซ์รัดรูปที่เน้นให้เห็นทรวดทรวงองเอวของเธออย่างชัดเจน แน่นอนว่าภายใต้ชุดลูกไม้แสนสวยนั้นโนบรา ยอดอกอิ่มสวยชูชันดันผ่านเนื้อผ้าลูกไม้แสนเย้ายวน เอวคอดกิ่วและสะโพกผาย กระโปรงสั้นจนเห็นเนินสามเหลี่ยมรำไรตรงหน้า อาร์เธอมีอาการเหมือนถูกมนต์สะกดของแม่มดสาวแสนสวยก่อนที่เขาจะเรียกสติกลับคืน

“นะ...นั่งลงก่อนซี”

“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”

เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา

“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”

พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย

“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”

อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิต

ปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว

“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มันทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะอย่างช่วยไม่ได้

“คุณเคย...จูบผู้ชายมั้ย?”

พออาร์เธอตั้งคำถามนั้นกัญชลิกาก็มีสีหน้าแปลกเปลี่ยน

“จูบงั้นเหรอ...แบบนี้ใช่มั้ย?”

ว่าแล้วเธอก็ยื่นหน้าเข้าไปที่ข้างแก้มชายหนุ่ม ประทับริมฝีปากลงบนแก้มสากด้วยขนสั้น ๆ หนึ่งครั้ง

“โอเค...นี่เรียกว่าหอม” อาร์เธอยิ้มอย่างใจเย็นทั้งที่เขารู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตเข้าอย่างจังตั้งแต่เมื่อครู่ ตอนที่ปากอิ่มประทับลงบนแก้มของเขา กลิ่นหอมของไม้เมืองร้อนจากน้ำหอมชั้นดีอบอวลอยู่รอบ ๆ มันเป็นกลิ่นที่ปลุกกำหนัดเหมือนฟีโรโมนอย่างไรอย่างนั้น

“แล้วแบบไหน...ที่เรียกว่า...จูบ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป