บทที่ 4 เงาในตา
ไม่อยากทำให้คนที่บ้านสงสัย พราวระวีจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านของกล้าตะวัน เพราะทุกคนต่างคิดว่าคนที่เธอแต่งงานด้วยคือกัณภัทร หญิงสาวจึงต้องเล่นไปตามบท จากที่ตั้งใจว่า จะให้กัณภัทรย้ายไปอยู่บ้านเธอตามที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อคนที่เธอแต่งงานด้วยคือกล้าตะวัน จึงไม่อยากให้เขาไปวุ่นวายที่บ้าน เพราะกลัวพ่อกับแม่จะจับได้ กล้าตะวันกับ กัณภัทรนิสัยต่างกัน
“กลับมากันแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างจ๊ะหนูพราว พี่กล้า ทำอะไรให้หนูพราวไม่พอใจหรือเปล่า” มารตรีถามลูกสะใภ้ แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอ เนื้อตัวส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมามีแต่รอยเขียวช้ำ ทั้งรอยฟัน รอยนิ้วมือ และถ้าดูไม่ผิดรอยแดงตามลำคอนั่นน่าจะเป็นรอยดูด พราวระวีหลบตา จากสภาพที่เห็นมารตรีคงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“กล้า!” หันไปตวาดลูกชาย ที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ ข้างหลังหญิงสาว
“อะไรกันคุณเสียงดังลั่นบ้านเลย กลับกันมาแล้วเหรอ...กล้า! หนูพราว!” อนันต์ก็ตกใจไม่แพ้มารตรี เมื่อเห็นสภาพของลูกชายกับลูกสะใภ้
“ขอตัวนะครับ ไปคุณ ห้องผมอยู่ทางโน้น” พูดจบก็กอดเอวคนตัวเล็ก แล้วทำท่าจะลากเธอออกไป แต่พราวระวีขืนตัวเอาไว้ แล้วแกะมือเขาออกจากเอว
“คุณพ่อคุณแม่คะ พราวไม่อยากอยู่กับเขา พราวรักกันต์”
พราวระวีบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสอง ให้ท่านช่วยหาทางออกของเรื่องนี้ จากที่ตกลงกันว่า เธอจะอยู่ที่นี่จนกว่ากัณภัทร จะกลับมา แล้วหลังจากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด เพราะเธอกับ กล้าตะวันมีความสัมพันธ์กัน คำพูดของหญิงสาวทำให้ กล้าตะวันกำหมัดแน่น
“เอ่อ...คือ...” มารตรีกับอนันต์มองหน้ากัน เมื่อเห็นใบหน้าที่บึ้งตึงของลูกชายคนโตก็พูดไม่ออก
“กล้ากับหนูพราว”
“ยังต้องให้พูดอีกเหรอแม่” กล้าตะวันพูดอย่างเบื่อหน่าย ภาพมันฟ้องขนาดนี้ แม่เขายังจะถามเอาอะไรอีก
“แม่คะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันค่ะ พราวไม่ได้มีอะไรกับคุณกล้านะคะ เราแค่...แค่ทะเลาะกันค่ะ คุณแม่ให้พราวอยู่ด้วยนะคะ พราวจะอยู่รอกันต์” พราวระวีขอร้อง เพราะไม่อยากอยู่บ้านหลังเดียวกับเขา
“กล้า แม่ว่า...”
“ผมไม่อยากแต่งงานกับเธอ แต่พ่อกับแม่ก็บังคับ แล้วยังไงครับ เข้าพิธีแต่ง จดทะเบียนสมรส นอนด้วยกันแล้ว พ่อกับแม่คิดว่าจะให้เธออยู่ที่นี่สถานะไหน ถ้าพ่อกับแม่จะให้เธอรอไอ้กันต์ ผมจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก ผมไม่นิยมใช้ของร่วม กับใคร ต่อให้คนคนนั้นเป็นน้องก็เถอะ” กล้าตะวันหยุดคำพูดไว้แค่นั้น แล้วหันมามองพราวระวี
“ถ้าอยากเป็นเมียไอ้กันต์มาก ก็รอมันอยู่ที่นี่ ผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีก” พูดจบกล้าตะวันก็เดินออกไป ทิ้งให้พราวระวียืนอยู่ตรงที่เดิม ถ้าพ่อกับแม่ยังต้องการให้เธอเป็นเมียกัณภัทร เขาจะไปจากที่นี่ ถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอ แต่คงรู้สึกไม่ดีถ้าต้องเห็นเธออยู่กับกัณภัทร ใจเขาไม่กว้างขนาดนั้น โดยเฉพาะกับเรื่องนี้ ถ้าเธอรักกัณภัทรมาก เขาก็จะปล่อยเธอไป
“อ้อ” หันมาหาพราวระวี เมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง “กิน ยาคุมด้วยนะ ผมไม่ได้ป้องกัน”
“กล้า!”
“กล้า!”
อนันต์กับมารตรีอุทานออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ พราวระวีอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
“เอ่อ... หนูพราวคะ แม่ว่า...”
“พราวไม่ได้รักคุณกล้าค่ะ พราวรักกันต์ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ พราวกับคุณกล้าตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดถึงมันอีก พราวขออยู่รอกันต์ที่นี่นะคะ พราวอยากรู้เหตุผลว่า ทำไมกันต์ถึงทำแบบนี้กับพราว”
คำพูดของหญิงสาว ทำให้คนสูงวัยกลืนน้ำลายลงคอ ดูเหมือนว่ากล้าตะวันจะไม่รับรู้เรื่องที่พราวระวีพูดเลยสักนิด เพราะลูกชายเขาเพิ่งจะพูดเรื่องคุมกำเนิด ถ้าเกิดพราวระวีกับกัณภัทรเคลียร์กันได้ และตกลงปลงใจอยู่ด้วยกัน พราวระวีจะเป็นนางพญาเทครัว ได้ทั้งพี่ได้ทั้งน้อง และถ้าสามคนนี้ตกลงจะอยู่ด้วยกัน บ้านเขาจะเป็นอย่างไร ไหนจะหลานที่จะเกิดมาอีก เขาจะทำใจได้เหรอที่ลูกของกล้าตะวันกับกัณภัทรมีแม่ คนเดียวกัน
“พ่อกับแม่ไม่มีปัญหานะ ถ้าหนูพราวจะอยู่รอเจ้ากันต์ที่นี่ แต่คนที่จะมีปัญหาน่าจะเป็นกล้าเสียมากกว่า หนูพราวตกลงกับกล้าเข้าใจแล้วใช่ไหมลูก” อนันต์ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะรู้ว่าลูกชายคนโตของเขามีนิสัยอย่างไร
“พราวไม่ได้รักคุณกล้าค่ะ” พราวระวียืนยันหนักแน่น
คำพูดของเธอทำให้คนที่ยืนพิงผนังห้องต้องถอนหายใจออกมา เมื่อเธอยืนยันชัดเจนว่า คนที่เธอรักคือกัณภัทร นี่เป็นอีกครั้งที่กล้าตะวันอยากมีตัวตนบนโลกใบนี้ ที่ผ่านมาเขาพอใจและมีความสุขที่ได้อยู่ในโลกของตัวเอง ตาคมเข้มปิดลง ภาพวันวานย้อนกลับเข้ามาในหัว เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เขาเรียนอยู่ ม.ปลาย ผู้หญิงที่เขาช่วยจากกลุ่มอันธพาลที่มาจากต่างโรงเรียน เข้าใจว่าเขาคือกัณภัทร เพราะวันนั้นเขาใส่เสื้อของกัณภัทรไปเรียน เขาไม่มีเวลาอธิบายเพราะต้องพาเธอหนี วันที่เธอมาขอบคุณ เธอมอบกล่องของขวัญให้กัณภัทร นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาอยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า มีคนชื่อกล้าตะวันอยู่บนโลกใบนี้ เขาไม่อยากเป็นเงาของกัณภัทร โดยเฉพาะเงา ที่อยู่ในตาของผู้หญิงที่ชื่อพราวระวี
