บทที่ 7 บทที่ 7 จับไข้
พราวระวีรู้สึกตัวเมื่อไอเย็นจากผ้าขนหนูผืนนุ่มสัมผัสลงมาบนผิวกาย เจ็บร้าวจนขยับตัวไม่ไหว โดยเฉพาะศีรษะ เปลือกตาหนักจนลืมไม่ขึ้น พยายามปัดป้อง เมื่อผ้าผืนนุ่มเลื่อนต่ำลงไปตามหน้าท้องแบนราบ แล้วไปหยุดที่ใจกลางความเป็นหญิง มือหยาบกร้านจับขาเรียวแยกออกจากกัน ใช้ผ้าหมาด เช็ดคราบน้ำรักที่เปรอะเปื้อนตามโคนขา พราวระวีหนีบขาเข้าหากัน น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา กล้าตะวันรังแกเธออีกแล้ว และครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ป้องกันอีก ตามเคย
“ปล่อย...” เสียงที่หลุดออกมาเบาเหมือนเสียงกระซิบ มือบางปัดมือหนาออก เมื่อกล้าตะวันวางฝ่ามือลงบนหน้าผากของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมา เมื่อฝ่ามือสัมผัสกับความร้อน ร่างสูงขยับลงจากเตียง หยิบยาแก้ไข้ในกล่องปฐมพยาบาล แล้วเดินกลับมาที่เตียงกว้าง
“พราวลุกขึ้นมากินยาก่อน คุณมีไข้”
ไม่มีเสียงตอบจากคนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง มีเพียงน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย ตายไปได้ก็ดีเพราะตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว กล้าตะวันทำเหมือนเธอไม่ใช่คน ครั้งแรกพอเข้าใจได้ว่าเธอเมา ครั้งที่สองเพราะอารมณ์พาไป แต่ครั้งนี้เธอมีสติดีและพยายามขัดขืน แต่เขาก็ยัดเยียดสิ่งนี้ให้เธอ
“พราว!” เสียงห้าวเข้มขึ้น เมื่อไม่ได้ดังใจ
“อย่ามายุ่งกับฉัน!” พยุงตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน อยากไปให้พ้นหน้าเขา
“อย่าดื้อ” เสียงเข้มอ่อนลง เมื่อเห็นร่องรอยบนตัวเธอ โดยเฉพาะใจกลางความเป็นหญิง ที่ทั้งแดงและบวมช้ำ
“สะใจคุณแล้วใช่ไหม พอใจหรือยัง!”
ตากลมโตมองเขาอย่างเกลียดชัง คงไม่รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ ออกจากห้องนี้ไปได้เธอจะกลับบ้านทันที จะไม่อยู่ให้เขารังแกเธออีกแล้ว
“ถ้าไม่กินยาก็มาทำอย่างอื่นกัน ปากยังดีอยู่นี่”
“เอาสิคะ จะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ฉันไม่มีทางสู้อยู่แล้ว แค่กุญแจมือยังน้อยไป เอาแส้มาฟาดฉันเลย ถ้ายังไม่สะใจ เอามีดมากรีดเนื้อฉันก็ได้ ฉันไปทำอะไรให้ คุณถึงทำร้ายฉันแบบนี้ คุณหน้าเหมือนกันต์ แต่นิสัยคุณต่างจากกันต์มาก ฉันดีใจที่สุดที่ฉันรักถูกคน!”
“หยุดนะพราวระวี! ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า ไหนล่ะ คนดีของคุณ ทิ้งให้คุณเป็นหม้ายขันหมาก ให้คุณอับอายผู้คน แบบนี้ยังเรียกว่าดีอีกเหรอ”
“หม้ายขันหมากก็ยังดีกว่าแต่งงานกับคุณ! คุณเองก็ ไม่ต่างจากกันต์ กันต์ทำร้ายจิตใจ แต่คุณทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายของฉัน ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดคุณ! ให้ฉันอับอายยังดีกว่าแต่งงานกับปีศาจอย่างคุณ!”
“แล้วคุณเลือกอะไรได้ไหม ไม่อยากแต่งแต่ก็แต่งแล้ว และเป็นของผมแล้วด้วย!”
“แต่งได้ก็หย่าได้ ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณ ฉันแต่งกับกันต์ คุณเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่ คุณกลับไปอยู่ในที่ของคุณ ฉันจะอยู่ในที่ของฉัน ถ้ากันต์กลับมาแล้วเราคุยกันเข้าใจ ฉันจะอยู่กับกันต์ ระหว่างเราขอให้จบกันแค่นี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องคุณ ฟังนะคะคุณกล้า ต่อให้คุณหน้าเหมือนกันต์จนแยกไม่ออก แต่ฉันก็ไม่มีทางรักคุณ”
คำพูดของหญิงสาวเป็นเหมือนเข็มทิ่มแทงหัวใจ ต่อให้เธอรู้ความจริงว่าคนที่ช่วยเธอวันนั้นคือเขา คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เพราะเธอรักกัณภัทรไปแล้ว
ร่างสูงก้าวขึ้นมาบนเตียง มือหนาบีบลงที่ปากบาง
อย่างแรง ดันยาที่กำอยู่ในมือเข้าไปในปากของหญิงสาว แล้วกรอกน้ำตามเข้าไป เมื่อไม่อยากได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าหู เธอมีไข้สูง เขาต้องการให้เธอกินยาแล้วนอนพัก แค่นี้ก็น่าจะพอ เรื่องอื่นเขาไม่สนใจ ต่อให้เธอเกลียดเขามากก็ตาม
“แค่ก ๆ ๆ”
พราวระวีสำลัก เมื่อทั้งยาและน้ำถูกเทลงคออย่างไม่ทันตั้งตัว มือบางผลักอกหนา แต่ถูกกล้าตะวันดึงจนล้มลงมาบนเตียงด้วยกัน แขนแกร่งกอดเอวบางเอาไว้ กดศีรษะเธอให้อยู่ในอกของเขา
“คุณกล้า! อะไรของคุณเนี่ย!”
“นอนได้แล้ว!” กล้าตะวันเอ่ยเสียงเข้ม
“ฉันไม่นอน ปล่อยฉันนะ!” ร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่เข้าใจการกระทำของเขา
“นอนเฉย ๆ นะพราวระวี ถ้าคุณยังเรื่องมากผมจะเอาคุณอีก จะเอาจนถึงเช้าเลยคอยดู”
“ฉันไม่กลัว ปล่อย!”
“พูดอย่างเดียวคงไม่เชื่อสินะ ต้องให้เอาจริง ๆ ใช่ไหม ยังเจ็บไม่พอสินะ ได้!” ไม่พูดเปล่าร่างสูงยังพลิกขึ้นไปทับ หญิงสาวเอาไว้
“ไม่นะคุณกล้า! นอนแล้ว! ฉันนอนแล้วค่ะ จะหลับเดี๋ยวนี้เลย” พราวระวีหลับตาปี๋ ตัวแข็งทื่อ ทำเหมือนหลับแล้วจริง ๆ เพราะกลัวกล้าตะวันจะทำอย่างที่พูด
“หลับแล้วนะ” ถามพร้อมกับยิ้มกว้าง เอ็นดูกับการกระทำของคนใต้ร่าง
“ค่ะ” ขานรับอย่างลืมตัว
“ตกลงหลับแล้วจริง ๆ ใช่ไหม”
คำพูดทีเล่นทีจริงของเขา ได้กำปั้นเป็นคำตอบเมื่อ พราวระวีฟาดหมัดลงบนแผ่นหลังกว้างด้วยความโมโห
