บทที่ 10 สาวน้อยกับการต่อต้านครั้งแรก

เพราะเรื่องที่ทำไปในวันนี้ พอสองแม่ลูกกลับถึงบ้านก็มีเรื่องให้ปวดหัวทันที เพราะสะใภ้ใหญ่ สะใภ้สาม และน้าเล็กต่างมาเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน

“กลับมาแล้วนั่นไง ท่านแม่เจ้าคะ มาดูนางตัวดีนั่นสิ” ป้าสะใภ้เรียกจิกหัวใช้ตั้งแต่พวกนางยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าบ้าน

หน้าบ้านซอมซ่อของสกุลฉิน มีสะใภ้ใหญ่ สะใภ้สามและอาหญิงเล็กยืนส่งเสียงดังแข่งกันอยู่ หัวข้อก็ไม่พ้นเป็นเรื่องที่ไม่ยอมซักผ้าไปได้จริง ๆ

“นี่มันหน้าที่เจ้าแท้ ๆ ทำไมถึงกล้าเมินเฉยถึงสองครั้ง”

“คิดว่าท่านแม่ยอมลงแค่สั่งให้งดข้าว แล้วจะใจดีเป็นครั้งที่สองหรือ”

“คนอื่นก็ทำงานกันทั้งนั้นทำไมเจ้าเอาแต่สบายอยู่คนเดียว”

ทั้งสามต่างพากันส่งเสียงด่าอย่างพร้อมเพรียงกัน ฉินหลิวซีสุดจะเอือมระอา กล้าพูดออกมาได้อย่างไรว่าคนอื่นทำงานกันทั้งนั้น ตัวเองทั้งสามคนที่มายืนร้องแว้ด ๆ อยู่ตรงนี้ไม่ได้ลงแรงอะไรเลยสักหน่อย

แค่เดินไปเดินมาในบ้านหาเรื่องคนอื่น เสียงของสตรีทั้งสามตรงหน้าเรียกให้คนในบ้านมามอง ท่านปู่กับท่านย่าก็เดินมาด้วย จึงทันได้ยินเรื่องที่ทั้งสามคนตะโกนฟ้อง

“มีเรื่องอะไรกัน เสียงดังไปถึงฟากโน้น”

“ท่านพ่อท่านแม่ช่วยจัดการนางหน่อยสิเจ้าคะ

ชิวย่าหนานไม่ยอมนำเสื้อผ้าของพวกข้าไปซักด้วย เมื่อวานทำเป็นว่าลืมของข้าเจ้าค่ะ วันนี้ของน้องหญิงทั้งสองก็ไม่นำไป แบบนี้มันจงใจชัด ๆ เลย” ป้าสะใภ้ได้ทีก็ฟ้องใหญ่ เมื่อพ่อแม่สามีอยู่กันพร้อมหน้า

“ชิวย่าหนาน เมื่อวานข้าตักเตือนไปแล้วเจ้าไม่ฟังเลยหรือ”

“ท่านแม่ วันนี้ข้ารู้สึกไม่สบายจึงไม่ได้นำไปซักให้ทั้งหมด อีกทั้งบุตรสาวที่เป็นลูกมือก็ป่วยเพราะท้องหิวมาสองวัน”

ชิวย่าหนานอธิบายเสียงตะกุกตะกัก นางไม่เคยโกหกใครมาก่อน เป็นสิ่งที่ฉินหลิวซีบอกมาว่า ถ้าจะทำอย่างนี้ก็ต้องหาข้ออ้างที่เหมาะสมด้วย นี่อาจเป็นการโกหกครั้งแรกในชีวิตของหญิงสาวแซ่ชิวเลยก็ว่าได้

“ข้ออ้างชัด ๆ เห็นเจ้าทำอยู่ทุกวัน ป่วยไข้ก็ไปซักได้ไม่ใช่เหรอ รีบเอาไปซักใหม่เดี๋ยวนี้เลย” ย่าฉินออกคำสั่งเด็ดขาด แต่แล้วหลานสาวที่เกิดจากลูกชายคนรองก็เอ่ยแทรกขึ้นมา

“ให้คนอื่นไปแทนสิเจ้าคะ ทำไมต้องให้แต่แม่ข้าทำ ท่านป้าสะใภ้ก็ว่าง ลูกชายก็โตแล้ว บ้านอาสามลูกสาวก็อายุเท่าข้า ทำไมนางไม่ได้ทำงานเช่นข้า!”

เด็กหญิงวัยห้าขวบตะเบ็งเสียงขึ้นมา ทุกคนนิ่งอึ้ง

ไม่คิดว่าฉินหลิวซีจะกล้าเถียงขึ้นเสียงถึงเพียงนี้ ภาพจำเด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่ค่อยพูดค่อยจามลายหายไปสิ้น กลายเป็นเด็กเกเรที่เถียงคำไม่ตกฟาก

นับแต่นั้นฉินหลิวซีก็ยืนกรานจะไม่ยอมให้นางกับมารดาซักผ้าให้ครอบครัวฝั่งพี่น้องของบิดาอีก ทะเลาะกันทุกวันจนทำลายความสงบสิ้น ปู่ฉินทนไม่ไหวจึงสั่งให้ครอบครัวแต่ละบ้านรับผิดชอบซักเสื้อผ้าของตัวเอง

แต่ชิวย่าหนานยังต้องดูแลเสื้อผ้าของปู่กับย่าอยู่

ฉินเสี่ยวหรานรับรู้เช่นนี้ก็รู้สึกไม่พอใจมาก ไม่เคยมีอะไรที่นางอยากได้แล้วไม่ได้ ท่านพ่อท่านแม่รักและเอ็นดูนางที่สุด ทำไมซักผ้าแค่นี้นางยังต้องมาทำเอง บ้านพี่รองทำมาตั้งกี่ปี ทำไมจะมาล้มเลิกเอาตอนนี้

หญิงสาววัยสิบหกปีผู้นี้มีพี่ชายฝาแฝดที่กำลังสอบบัณฑิต เพราะเป็นลูกคนเล็กปู่กับย่าของฉินหลิวซีจึงค่อนข้างตามใจ ขออะไรไม่เคยมีที่ไม่ได้ ถึงไม่ได้ก็จะเอามาให้ได้ในภายหลัง หลังได้ยินบิดาว่าเช่นนั้นก็ฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ในเมื่อบิดาตัดสินใจมาแล้วนางก็ทำอะไรไม่ได้

ฉินเสี่ยวหรานเลือกจะไปหาพี่สะใภ้สามแทน

แฝดหญิงคนที่สี่ของบ้านอายุสิบหกปีแล้ว หญิงสาวกำลังมองหาชายหนุ่มที่คู่ควรมาแต่งงานด้วย

“เถอะนะเจ้าคะพี่สะใภ้ ข้างดงามออกปานนี้ต้องมีชายผู้ดีมาขอแต่งด้วยแน่ แค่พี่สะใภ้อดใจรอหน่อย ข้านี้จะไม่ลืมน้ำใจท่านเลย” แฝดหญิงทั้งออดอ้อนหยอดคำหวาน เฉินเพ่ยหยาคิดตามแล้ววาดฝันไปถึงอนาคตอันสวยหรูจึงยอมตกปากรับคำแม้จะแอบไม่พอใจอยู่เล็ก ๆ ก็ตาม

พอชิวย่าหนานไม่ต้องทำงานซักผ้าให้คนทั้งบ้านอีกต่อไป คนเดือดร้อนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือสะใภ้ใหญ่และอาสี่

ฉินเสี่ยวหลง ฝาแฝดของฉินเสี่ยวหรานที่นิสัยร้ายกาจไม่ทิ้งกัน

เขากำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบบัณฑิตเป็นขุนนาง

“พี่สะใภ้คิดดูเถิด หากข้าได้เป็นขุนนางใหญ่โต

ท่านก็จะมีหน้ามีตา เราไม่ต้องอยู่บ้านรูหนูนี่อีกต่อไป ได้อยู่จวนหลังใหญ่มีคนนับหน้าถือตา แค่ให้ข้าได้มีเวลาอ่านหนังสือเต็มที่ ท่านช่วยเท่านี้ไม่ลำบากนักหรอก”

“ไม่ให้น้องสาวฝาแฝดเจ้าทำเล่า”

“พี่สะใภ้ก็รู้ว่านางไม่มีทางทำอยู่แล้ว เอาแต่ใจปานนั้นพ่อกับแม่ยังให้ท้าย หากนางบอกว่าไม่ทำเสียอย่างก็ต้องไปวานคนอื่น หากข้าไม่ได้เตรียมอ่านหนังสืออยู่ละก็คงจะช่วยแบ่งเบา”

ฉินเสี่ยวหลงทำหน้าตาน่าสงสารขอความเห็นใจ

เห็นแก่อนาคตข้างหน้าหากน้องชายสามีได้เป็นใหญ่เป็นโต ต้องคิดถึงบุญคุณนางแน่ สุดท้ายจึงยอมรับปากซักให้

เด็กหญิงห้าขวบเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของคนในบ้านหลังจากได้รับรู้ทั่วกัน แต่ละคนล้วนอิดออดกับการซักผ้า แม้จะรับปากคนอื่นมาก็ทำหน้าไม่ชอบใจในภายหลัง

คนพวกนี้คิดไม่ได้เลยสักนิดเดียวว่า ตลอดเวลาที่มารดาของนางช่วยเหลือ นางจะรู้สึกเหนื่อยอย่างไรบ้าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป