บทที่ 4 บทที่ 4

มธุรสตื่นเต้นมากกับการได้นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก และยังเป็นเครื่องบินส่วนตัวซะด้วย แถมราฟาเอลยังบอกอีกว่า กว่าจะถึงฟลอเรนซ์ก็คงใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง สาวน้อยนั่งมองก้อนเมฆที่เครื่องบินบินผ่านไปอย่างตื่นตาตื่นใจ ราฟาเอลมองกิริยานั้นยิ้มๆ เธอช่างใสซื่อบริสุทธิ์ และน่ารักมากมายในสายตาของเขา ชีวิตของราฟาเอลข้องเกี่ยวกับผู้หญิงมาก็มาก ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอสาวบริสุทธิ์ แต่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาได้ขนาดนี้ เขายังไม่เคยเจอ

“น้ำผึ้ง เธอจะมองก้อนเมฆจนเก็บเอาไปฝันเลยรึไง นี่เธอนั่งเกาะกระจกดูมันมานานเป็นชั่วโมงแล้วนะ”

“แหม...ก็น้ำผึ้งไม่เคยเห็นนี่คะ คุณรู้มั้ยคะ ว่านี่เป็นครั้งแรกที่น้ำผึ้งได้ขึ้นเครื่องบิน แถมยังเป็นเครื่องบินส่วนตัวอีก คุณคงจะรวยมากเลยสิคะ ถึงได้มีเครื่องบินส่วนตัวแบบนี้ เอ่อ...แล้ว...คุณทำงานอะไรเหรอคะ”

“ฉันทำธุรกิจส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ แต่เรื่องความรวยคงตอบไม่ได้ ให้เธอดูเอาเองแล้วกัน ที่ตอบได้ก็คงเป็นถ้าเธอทำให้ฉันถูกใจมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีกับตัวเธอมากเท่านั้น” ราฟาเอลบอก และดึงร่างบางขึ้นจากเก้าอี้ข้างๆ ให้มานั่งบนตักแข็งๆ ของตน

“เอ่อ...”

“ทำไมเหรอ ถ้าเธอต้องการให้ฉันทำอะไรก็บอกได้นะ ไม่ต้องอาย เพราะฉันเห็นเธอหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว”

มธุรสเขินอายจนต้องซุกหน้ากับอกกว้าง เพื่อปิดบังใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง ก็แน่ล่ะ เขาพิจารณาร่างกายเธออย่างถี่ถ้วนมากกว่าตัวเธอซึ่งเป็นเจ้าของเสียอีก

“อายเหรอ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องอาย ฉันอยากทำให้ผู้หญิงมีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้นอะไรที่เธอชอบเวลาที่ฉันทำก็บอกได้เลย หรือถ้าไม่ชอบอะไรก็บอกกันได้”

ราฟาเอลดันร่างบางออก มองใบหน้าที่แดงก่ำนั้นอย่างชอบใจ มือหนาลูบไล้ต้นขาเรียวสวยไปมา กระโปรงชุดสีแดงเพลิงร่นขึ้นตามมือที่อยู่ไม่สุข

“อย่าค่ะ เราไม่ได้อยู่ในห้องนะคะ” มธุรสตะครุบมือหนาให้อยู่นิ่งๆ ร้องห้ามเสียงสั่นๆ

“ไม่ได้อยู่ในห้อง ก็เหมือนอยู่ในห้องนั่นแหละ เธอลองมองไปรอบๆ สิว่ามีใครอยู่ในนี้อีกบ้าง นอกจากเราสองคน และไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครเข้ามาในนี้ เพราะถ้าฉันไม่เรียกก็จะไม่มีใครเข้ามาแน่นอน”

มธุรสกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นจริงตามที่เขาพูด นอกจากเขาและเธอที่อยู่ในนี้ ก็ไม่มีใครอื่นอีก มือหนาที่ถูกมือบางตะครุบก็เริ่มขยับ ดวงตาคมดุของราฟาเอลหรี่ลง เมื่อไฟพิศวาสเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง

ราฟาเอลจับร่างบางให้นั่งคร่อม และร่นชายกระโปรงขึ้นถึงเอว ก่อนจะรั้งสายเส้นเล็กๆ ที่คล้องไหล่บางเอาไว้ลงมาตามเรียวแขน จนทรวงอกอวบที่ซ่อนตัวอยู่ในบราเซียสีหวาน โผล่พ้นเนื้อผ้าสีแดงออกมา ชายหนุ่มไม่รอช้ากดใบหน้าลงสูดกลิ่นหอมที่กลางหว่างอกอวบเข้าปอด

มธุรสดันใบหน้าคมเข้มออกอย่างเขินอาย ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครอื่นนอกจากเขาและเธอ แต่หญิงสาวก็ยังอดรู้สึกเก้อเขินไม่ได้ เมื่อถูกดันใบหน้าออก มาเฟียหนุ่มก็จุมพิตริมฝีปากนุ่มแทน จุมพิตเร่าร้อนเกิดขึ้น ปลายลิ้นสากตวัดเกี่ยวพันลิ้นนุ่มอย่างหลงใหลในความหวาน มือหนาเลื่อนขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบ และดึงรั้งเสื้อชั้นในตัวจิ๋วลงต่ำ ปทุมถันนวลงามขาวผ่องถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ ความเย็นของแอร์คอนดิชันเนอร์ บวกกับความร้อนระอุของเปลวเพลิงแห่งไฟปรารถนา ทำให้ยอดทรวงสีสวยแข็งชูชัน ปลายนิ้วหัวแม่มือของราฟาเอลสะกิดตุ่มไต ยิ่งสร้างความสยิวให้มธุรสจนต้องครวญครางออกมา แต่เสียงครางอันไพเราะของเธอก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอหนาจนหมด

ราฟาเอลถอนริมฝีปากออก เมื่อร่างบางโอนอ่อนผ่อนตาม เขาเลื่อนริมฝีปากลงไปตามลำคอระหง และต่ำลงไปยังทรวงอกอวบ ริมฝีปากหนาเข้าครอบครองดูดดื่มยอดทรวงสีสวยอย่างหิวกระหาย มือหนาลูบคลำสะโพกมนงอนงาม และบีบเคล้นคลึงเบาๆ สลับกับหนักหน่วง

มาเฟียรูปงามไล้เลียผิวเนื้อเนียนนุ่มของปทุมถันคู่งาม ดูดดึงอย่างหยอกเย้าและย้ายไปทำอีกข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้ากัน ทิ้งความเปียกชื้นไว้เป็นหลักฐานของไฟเสน่หาที่แผดเผา มือหนาเลื่อนมากอบกุมเนินสวาทที่มีปราการตัวบางขวางกั้น แต่ไม่ค่อยถนัดนัก ราฟาเอลจึงยกร่างบางขึ้น และให้หญิงสาวนั่งซ้อนตักด้วยการหันหลังให้เขา

ราฟาเอลจับเรียวขางามให้แยกออกกว้าง และกรีดปลายนิ้วช่ำชองไปตามรอยแยกของกุหลาบสาว

มธุรสกรีดเสียงครวญครางออกมาไม่ได้ศัพท์ ดวงตาคู่งามหลับพริ้มอย่างรัญจวน มือบางจิกปลายเล็บลงบนที่เท้าแขนของเก้าอี้นุ่มเต็มแรง

ปลายนิ้วร้ายกาจทรมานร่างบางต่อไปเรื่อยๆ กรีดขึ้นลงตามรอยแยกผ่านเนื้อผ้าบางเบา ก่อนจะสอดเข้าไปใต้ผ้า สัมผัสกับความนุ่มนิ่มและฉ่ำชื้น ราฟาเอลสอดปลายนิ้วเรียวเข้าไปในสัดส่วนความเป็นหญิงที่คับแคบ ชายหนุ่มต้องขบกรามแน่น เพราะขนาดเป็นเพียงนิ้วมือ ภายในร่างสาวที่อบอุ่นยังตอดเม้น ดูดปลายนิ้วของเขาเข้าไปขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นแก่นกายอันใหญ่โตที่รอคอยการปลดปล่อยล่ะ แค่คิดราฟาเอลก็ขนลุกซู่อย่างตื่นเต้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป