บทที่ 7 บทที่ 7
“พี่ราฟคะ” มธุรสเรียกเขาเสียงแผ่ว ก้ำกึ่งระหว่างความกล้าและความกลัว
“ว่าไง” ราฟาเอลตอบรับทั้งที่ไม่ลืมตา
“พี่ราฟทำงานอะไรคะ” เมื่อถามไปแล้ว มธุรสก็แทบกัดลิ้นตัวเอง เมื่อดวงตาคมดุลืมตาขึ้นและตวัดมามองอย่างไม่พอใจ
“อยากรู้ไปทำไมกัน” เสียงห้วนห้าวกระด้างนั้นทำให้มธุรสแทบผวา
“ก็...น้ำผึ้งได้ยินว่าพูดถึงตำรวจ ก็เลยสงสัยว่าพี่ราฟทำงานอะไรค่ะ”
“ถ้ารู้แล้วจะได้อะไร สู้ไม่รู้ซะเลยไม่ดีกว่าเหรอ”
มธุรสไม่ตอบแต่พลิกตัวหันหลังให้ เธอลืมไปว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอของเขา ไม่มีสิทธิ์จะรู้เรื่องของเขาเลยด้วยซ้ำ หน้าที่ของเธอมีแค่ทำให้เขาพอใจเท่านั้น
ราฟาเอลมองมธุรสอย่างหนักใจ จะให้เขาบอกเธอว่ายังไง ถ้าบอกว่าเขาทำงานผิดกฎหมายเธอจะรับได้เหรอ หรือจะบอกว่าเขามีธุรกิจหลายอย่างทั้งในด้านสว่างและในด้านมืดดีล่ะ แต่พูดไปก็จะทำให้เธอหวาดกลัวเปล่าๆ ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะต้องรับรู้
“น้ำผึ้ง” ราฟาเอลเรียกหญิงสาวและพลิกร่างบางให้นอนหงาย แก้มนวลมีคราบน้ำตาเป็นทางยาว สีหน้าของมธุรสในตอนนี้ผิดกับตอนที่เธออยู่บนเครื่องบินลิบลับ ทำให้ใจแกร่งของราฟาเอลอ่อนยวบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวคงหวาดกลัวกับคนแปลกหน้าอย่างเขา และยิ่งต้องมาอยู่ต่างถิ่นแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งต้องกลัว ชายหนุ่มเข้าใจเธอดี
มาเฟียหนุ่มประทับริมฝีปากเข้ากับแก้มนวล สูดกลิ่นกายสาวหอมกรุ่นเข้าปอด พรางคิดว่าสงสัยจะต้องทำให้สาวน้อยในอ้อมแขนคลายความเศร้าลงด้วยความสุขทางกาย จากที่คิดว่าจะให้เธอพักผ่อนสักงีบ คงต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก เพราะถึงจะให้มธุรสนอนพักในตอนนี้ สาวน้อยก็คงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูห้องแรงๆ ทำให้ราฟาเอลต้องตัดใจจากร่างนวล ก่อนจะผละออกอย่างหงุดหงิดที่มีคนมาขัดจังหวะ เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินย่ำมาด้วยแรงอารมณ์ทำให้คนที่เคาะประตูต้องคอย่น แม้จะแค่ได้ยินเสียงเดินเขาก็รู้แล้วว่าเจ้านายกำลังหงุดหงิด และคนที่ทำให้เจ้านายเป็นแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นตัวเขาเอง
“อย่า...อย่ายิงผม ผะ...ผม...คะ...แค่...จะมาบอกวะ...วะ...ว่า ตำรวจชะ...เชิญ...ตัวเจ้านายไปพบครับ” ฟอลเลโป้รีบบอก เมื่อปลายกระบอกปืนจ่อหัวทันทีที่ประตูถูกกระชากออกเต็มแรง
“อะไรนะ” ราฟาเอลลดปืนในมือลง เมื่อได้ยินคำรายงานจากลูกน้อง “ก็มัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นั่นล่ะ แล้วตำรวจมันเรียกตัวฉันไปทำไม ไอ้มินเตมันทำงานยังไงกัน แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ไนต์คลับของเรา” คำถามที่ยิงมาเป็นชุดทำให้ฟอลเลโป้ปาดเหงื่อออกจากใบหน้า แม้ว่าปลายกระบอกปืนจะไม่ได้จ่อหัวเขาอีกแล้ว แต่มันก็ยังอยู่ในมือเจ้านายหนุ่มอยู่ดี
“ตำรวจเจอของในไนต์คลับของเราครับเจ้านาย มะ...ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไงครับ”
ราฟาเอลกัดฟันกรอด ใครบังอาจทำนอกเหนือคำสั่งกันนะ หรือว่า...
“เออ...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ราฟาเอลบอกและกระแทกประตูใส่หน้าฟอลเลโป้ดัง “ปัง” ลูกน้องหนุ่มถอนใจอย่างโล่งอก แต่เพียงชั่วครู่ทั้งที่ลมหายใจยังไม่ปกติฟอลเลโป้ก็ต้องสะดุ้งขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างสูงของเจ้านายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง
“แกเป็นอะไรไปฟอลเลโป้ ทำท่าราวกับว่าเห็นผีอย่างนั้น เดี๋ยวพ่อเป่าขมองกระจุยอยู่ตรงนี้ซะเลย” ราฟาเอลกระชากเสียงใส่ ก่อนเดินนำหน้าลิ่วๆ ไป โดยไม่รอฟอลเลโป้
“เห็นเจ้านายน่ะ ยิ่งกว่าเห็นผีอีกนะครับ” ฟอลเลโป้พึมพำอยู่คนเดียว
“ไอ้ฟอลเลโป้เร็วๆ หน่อย กูรีบ” เสียงห้วนจัดดังขึ้นอีกครั้ง
“ปะ...ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับเจ้านาย” ฟอลเลโป้รีบวิ่งตามไป ก่อนจะทำให้เจ้านายหนุ่มย้อนกลับมาและเป่าขมองของตนกระจุยอย่างที่ว่าจริงๆ
จริงๆ แล้วราฟาเอลไม่เคยทำร้ายลูกน้อง แต่ดวงตาคมกริบที่ทุกคนต่างให้สมญานามว่า “ดวงตาพิฆาต” และยังความว่องไวนั่นอีก ทำให้ลูกน้องทุกคนหวาดผวา ราฟาเอลมักจะส่งสอนคนที่ทำผิดให้หราบจำด้วยวิธีอันร้ายกาจแต่ไม่เคยฆ่าใคร
‘กูไม่ฆ่ามึงหรอก ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าปืนมันจะลั่นเองล่ะก็ กูคงช่วยไม่ได้’
นั่นเป็นคำพูดทีเล่นทีจริงของราฟาเอลในเวลาที่เขาโมโหสุดขีด ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าต่อกรกับมาเฟียหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าถ้าราฟาเอลเหลืออดจริงๆ มันคนนั้นก็คงหนีไม่พ้น “ความตาย” แม้จะยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยง
มธุรสนอนฟังเสียงของราฟาเอลและฟิเลโป้จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบลงพร้อมเสียงฝีเท้าที่เดินจากไป สาวน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลับตาลงเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
หญิงสาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อความมืดโรยตัวลงมาจนห้องทั้งห้องนั้นมืดมิด ที่นอนด้านข้างนั้นว่างเปล่าไร้เงาของร่างสูงแนบกาย ‘นี่เขายังไม่กลับมาอีกเหรอ’ มธุรสคิด ก่อนจะลุกขึ้นและคลำหาสวิตโคมไฟหัวเตียง เมื่อแสงไฟดวงน้อยจากโคมไฟสว่างจ้า หญิงสาวก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบเสื้อเชิ้ตของราฟาเอลออกมาหนึ่งตัว จากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำต่อ
มธุรสมัวแต่ยืนตื่นตาตื่นใจกับห้องน้ำที่แสนสวย กว้างใหญ่เท่าห้องนอนของเธอที่กรุงเทพฯ เลยด้วยซ้ำ หญิงสาวเปลือยกายออกหมดจดและเดินไปที่อ่างจากุชชี่ เมื่อไม่เคยได้ใช้เพราะไม่เคยมีมาก่อน ทำให้มธุรสต้องลองบิดก๊อกและกดปุ่มปรับเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำอยู่นาน กว่าที่เธอจะใช้มันเป็นและก้าวลงไปนอนแช่อย่างสบายอารมณ์
สายน้ำที่ไหลวนราวกับเป็นหมอนวดฝีมือดีทำให้เธอผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวหลับตาพริ้มอย่างสบายและเกือบจะหลับไปจริงๆ ถ้าท้องของเธอไม่ร้องออกมาจนเสียงดังบอกให้เจ้าของรู้ว่าหิวมากขนาดไหนแล้ว
