บทที่ 9 บทที่ 9

ราฟาเอลปิดปากที่เผยอและห่อลงเล็กน้อย ดูดเสียงครางลงลำคอจนหมด ก่อนขยับร่างอย่างหนักหน่วงแม่นยำ เบียดบดสะโพกสอบส่ายวนยั่วยวนและเรียกร้องในความอบอุ่น มือหนาเท้ายันลงบนโต๊ะ และดันร่างบางลงให้นอนราบไปบนโต๊ะตัวใหญ่ ปลายเท้าเรียวถูกดึงเข้าหาและเกี่ยวสะโพกสอบเอาไว้มั่น

มาเฟียหนุ่มรูปงามเร่งความเร็วส่งหญิงสาวและตัวเองก้าวเยือนดินแดนแห่งความหฤหรรษ์ไปพร้อมๆ กัน

ร่างสูงถอดถอนแก่นกายออกจากความอบอุ่น และหยิบทิชชู่ทำความสะอาดเรือนกายของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนยิ่งยวด

“พี่ราฟคะ”

“หืม...ว่าไงคนดี”

“ตอนเช้าพาน้ำผึ้งไปร้านขายยาหน่อยนะคะ”

“หืม...น้ำผึ้งเป็นอะไรจ๊ะ ไม่สบายรึเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย ใช้มืออังหน้าผากนวลเนียนและส่ายหน้า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”

“น้ำผึ้งสบายดีค่ะ แต่...” มธุรสลุกขึ้นนั่งและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

“แต่อะไร”

“แต่...น้ำผึ้งอยากได้...เอ่อ...ยาคุม” สาวน้อยบอก และบิดตัวไปมาอย่างเคอะเขิน

ราฟาเอลถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จริงสินะ เขาลืมไปว่ามธุรสไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาเคยควงเล่น เธอยังไม่รู้ประสาและยังอ่อนต่อโลกมากนัก ถ้าเป็นผู้หญิงอื่น ยาพวกนี้คงมีติดกระเป๋าอยู่ตลอดหรือไม่ก็พกถุงยางเวลาที่นอนกับผู้ชาย และเขาจะสั่งให้พวกเธอใส่ถุงยางทุกครั้งที่นอนกับเขา เพราะกลัวจะติดเชื้อโรค แต่กับมธุรส สาวน้อยตรงหน้ามีเขาเป็นคนแรกและเป็นคนเดียวในตอนนี้ เขาจึงไม่ต้องกลัวติดโรค แต่ลืมนึกถึงผลที่อาจจะตามมาในอนาคตไปเสียสนิทเลย

“ได้...พรุ่งนี้เช้าพี่จะพาไปช็อปปิ้งอยู่แล้ว น้ำผึ้งอยากได้อะไรก็ซื้อได้เต็มที่เลย แล้วพี่จะทำเครดิตการ์ดให้น้ำผึ้งด้วย เผื่อเวลาที่น้ำผึ้งอยากไปเที่ยวแล้วพี่ไม่ว่างพาไป น้ำผึ้งจะได้มีเงินใช้จ่าย”

“ขอบคุณค่ะ ฮิ ฮิ พี่ราฟใจดีที่สุดเลย” สาวน้อยดีดตัวลงจากโต๊ะ และกระโดดหอมแก้มสากโดยที่ราฟาเอลไม่ทันตั้งตัว

“ใจดีเหรอ” ราฟาเอลครางอย่างไม่เชื่อหู ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มใหญ่ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาใจดีเลยสักคน มธุรสเป็นคนแรกที่บอก ราฟาเอลรู้สึกโหวงๆ ตรงหัวใจ ก่อนที่มันจะเต้นแรงกว่าปกติ

“ใช่สิคะ พี่ราฟของน้ำผึ้งใจดีมากเลยค่ะ ตั้งแต่น้ำผึ้งเกิดมาก็มีพ่อกับแม่ที่รักน้ำผึ้ง แต่ตอนนี้ไม่มีท่านทั้งสองแล้ว พ่อก็เสียไปแล้ว ส่วนแม่...ไม่รู้อยู่ที่ไหน น้ำผึ้งไม่เคยมีใครทำดีกับน้ำผึ้งเลยสักคน จะมีก็แต่พี่ราฟนี่ล่ะค่ะที่ใจดีกับน้ำผึ้งคนเดียว” มธุรสบอกเสียงใส แต่ดวงตาของเธอกลับดูเศร้าอยู่ชั่วครู่

“น้ำผึ้ง...” ราฟาเอลกอดร่างบางไว้แนบอก และอ้อมแขนเล็กๆ ก็รัดร่างกำยำของเขาแนบแน่นเช่นกัน

“พี่ราฟทานข้าวกับน้ำผึ้งนะคะ น้ำผึ้งทำกับข้าวไว้รอพี่ราฟตั้ง 3 อย่างแน่ะ”

“ทำกับข้าวรอพี่!” อีกครั้งที่ราฟาเอลต้องอึ้ง ปกติแล้วเขาจะทำอาหารกินเองง่ายๆ แต่บอดี้การ์ดก็จะซื้อของสดเตรียมไว้ให้เสมอ เขาไม่เคยมีใครทำอาหารให้กินนอกจากมารดา ซึ่งนานๆ ครั้งจะไปหาสักที แต่ตอนนี้กลับมีคนที่เอาใจและเตรียมเอาไว้ให้รอเวลาที่เขาจะกลับ

“ค่ะ พี่ราฟจะทานก่อนหรือไปอาบน้ำก่อนคะ เดี๋ยวน้ำผึ้งจะได้จัดใส่จานตั้งโต๊ะไว้ให้ แล้วเราก็ทานด้วยกัน”

“เอ่อ...” ราฟาเอลถึงกับอ้ำอึ้งตอบไม่ถูกเลยทีเดียว

“ทำไมคะ ไม่อยากทานเหรอ หรือทานเข้ามาแล้วคะ” มธุรสเอียงคอถามอย่างน่ารัก

“ไม่ใช่จ้ะ งั้นพี่ขึ้นไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่า แล้วค่อยลงมาทาน” ราฟาเอลบอก และจูบปากนุ่มแรงๆ ก่อนเดินขึ้นไปบนห้อง

เมื่อลับหลังราฟาเอลแล้ว มธุรสก็วิ่งเข้าห้องน้ำที่อยู่ในครัวบ้าง เธอจัดการอาบน้ำใหม่ด้วยน้ำจากฝักบัวอย่างรวดเร็ว และออกมาเตรียมกับข้าวที่ทำไว้ตั้งโต๊ะรอชายหนุ่ม

อาหารมื้อเย็นที่ดึกที่สุดนั้นผ่านพ้นไปด้วยดี ราฟาเอลรู้สึกอิ่มแปร้จนต้องยกมือลูบท้อง และต้องหัวเราะเมื่อเห็นร่างบางก็ยกมือลูบท้องด้วยเช่นกัน

“ผู้หญิงมักจะไม่ลูบท้องเวลาที่ทานอิ่มๆ เพราะจะทำให้เสียบุคลิกภาพและไม่น่ามอง”

“แหม...ก็น้ำผึ้งอิ่มนี่คะ ดึกขนาดนี้เพิ่งจะทาน และเดี๋ยวก็ต้องขึ้นไปนอนต่อ เฮ้อ...ถ้าทานแล้วนอนแบบนี้ทุกวันต้องอ้วนเป็นหมูแน่ๆ เลยค่ะ”

“คราวหน้าถ้าน้ำผึ้งหิวก็ทานก่อนได้เลย ไม่ต้องรอพี่ พี่กลับบ้านไม่เป็นเวลา อย่างวันนี้เพิ่งกลับจากเมืองไทยยังไม่ทันได้พัก ก็ต้องออกไปเคลียร์งานต่อ ถ้าน้ำผึ้งรอพี่ทุกวันแบบนี้ น้ำผึ้งคงต้องผอมแน่ๆ”

“ดีสิคะ น้ำผึ้งจะได้หุ่นดีเหมือนนางแบบ” มธุรสพูดติดตลก แต่ราฟาเอลไม่ตลกตามไปด้วย

“แต่พี่ชอบผู้หญิงอวบ ไม่ชอบหุ่นนางแบบเลยสักนิด กอดแล้วไม่นุ่มมือเลย”

“พี่ราฟคงกอดผู้หญิงมานักต่อนัก ถึงได้รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนกอดแล้วจะนุ่มหรือไม่นุ่มมือ”

“พี่นอนกับผู้หญิงมาตั้งแต่อายุ 13 จนขณะนี้อายุ 35 เข้าไปแล้ว บอกตรงๆ เลยว่าในเวลา 22 ปีที่ผ่านมา พี่ผ่านผู้หญิงมาเกือบ 100 คนแล้ว แต่ละคนหาซื้อได้ด้วยเงินทั้งนั้น ความสุขมาเงินไป แลกกัน” ราฟาเอลบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร ต่างกับมธุรสที่ต้องอึ้ง

“โอ้โห...ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ทำไมแก่แดดจัง”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย แต่พี่อาจจะมากกว่าผู้ชายหลายคนสักหน่อย”

“ละ...แล้ว...ไม่กลัวติดโรคเหรอคะ” แค่คิดเธอก็สยอง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป