บทที่ 7 ตอนที่ 6

อากาศยามเช้าสดใสผ้าแดงสยายกางออกพันรอบจวนผูกเสาทุกต้นด้วยผ้าแดงลาดยาวมาถึงห้องบุตรชายคนเล็ก จีเหนียงเดินตรวจการจัดงานทั่วทุกมุมรวมทั้งเรื่องอาหารก่อนเหลือบมองขบวนนางกำนัลจากในวังกรูกันเข้ามาในจวน จีเหนียงรีบออกมาต้อนรับแขกสูงศักดิ์

“ถวายพระพรไทเฮาเพคะ”

“ไปทำงานของเจ้าต่อไป ข้าจะมารอรับเจ้าสาวของหลานข้า” หญิงชรามาในชุดเต็มยศพร้อมคนดูแลอย่างอี๋หยวนเหว่

“ท่านหญิงส่งสาส์นขอให้ข้าพาไทเฮามาเป็นญาติทางเจ้าสาว งั้นข้าขออยู่ฝั่งเจ้าสาวแล้วกัน เพราะเจ้าบ่าวหัวแข็งเอาเรื่อง” อี๋หยวนเหว่ยิ้มบางๆ อย่างเพลินใจก่อนขมวดคิ้วมองลี่ซื่อหมิงอยู่ในชุดสีดำเดินออกจากห้อง ไทเฮาปรี่เข้าไปหาทันทีอย่างไม่รีรอทำลี่ซื่อหมิงชะงักเมื่อพบหญิงชราก่อนคำนับช้าๆ

“ถวายบังคมฮองไทเฮา”

“เจ้าจะไปไหน เจ้าต้องสวมชุดเจ้าบ่าวแล้วไปรับเจ้าสาวเข้าลั่วหยางเหตุใดย่ายังเห็นเจ้าอยู่ที่นี่”

“พี่ติงไปรับแทนข้าเรียบร้อยแล้ว เหตุใดข้าต้องไปอีก” ลี่ซื่อหมิงตอบเสียงเรียบพลางก้มหน้าเมื่อรู้ว่าคำตอบของตนเองต้องทำหญิงชราไม่พอใจ

“ลี่ซื่อหมิง! ” หญิงชราอ้าปากค้างความโมโหพุ่งเต็มอัตราเลือดในกายสูบฉีดยกมือกุมหน้าผากเซเอียงข้าง อี๋หยวนเหว่กับนางกำนัลรีบเข้ามาช่วยประคอง ไทเฮาจับหน้าอกหายใจเข้าออกช้าๆ อย่างใช้สติเหล่มองลี่ซื่อหมิงที่ก้มหน้ายืนนิ่ง

“อี๋หยวนส่งสาส์นไปบอกอ๋องสี่เดี๋ยวนี้ ให้กลับมาอบรมลูกชายตัวดี นี่ข้ามาเป็นญาติฝั่งเจ้าสาว เจ้าจะไม่ให้เกียรติข้างั้นรึ เหอะ! อะไรกัน ข้ารองานเจ้ามานมนานจะมาพังความฝันของข้างั้นรึ” ไทเฮาชี้มือต่อว่ามาทางลี่ซื่อหมิงด้วยโกรธจัดบวกกับความชราทำให้ร่างกายเกือบทรุด

“เฮ้อ ข้าว่าเจ้ารีบไปทำตามที่เสด็จย่าบอกเถอะ ข้าขอละ” อี๋หยวนเหว่กล่าวมองหน้าลี่ซื่อหมิงที่ขมวดคิ้วหนักใจ

“ยังจะคิดอยู่อีก! เหอะ ลมจะจับ” ไทเฮากุมหน้าอกดุหลานชายอย่างโมโห

“พ่ะย่ะค่ะ” ลี่ซื่อหมิงรับคำก่อนคำนับหมุนตัวกลับเข้าห้องอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ อี๋หยวนเหว่ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งใจก่อนพาหญิงชราเดินไปนั่งที่ลานพิธีรอขบวนเจ้าสาวที่มีพี่เจ้าบ่าวไปรับแทน

ฮวาเจินนั่งอยู่ในรถม้ากับชิงหรงโดยมีคนจากยามะคอยคุ้มกันแน่นหนา ชิงหรงเปิดผ้ามองลอดออกมาทางหน้าต่างผู้คนมากมายเดินสวนทางเข้าออกที่ประตูเมืองก่อนเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งสลับยืนรออยู่กับชายชุดดำสี่คนข้างม้าห้าตัวหน้าประตูเมือง

“ไหนบอกท่านคาชิระมีผมสีขาว ไม่เห็นมีสักคน” ชิงหรงขมวดคิ้วหันกลับมามองเจ้านายที่อยู่ในชุดสีแดงโพกคลุมหัวปิดครึ่งหน้า

“คงไม่อยากมารับเรา”

“ตามประเพณีเจ้าบ่าวต้องมารับสิเจ้าค่ะ คุณหนูไม่ใช่หญิงคณิกา” ชิงหรงบ่นอย่างหัวเสียก่อนรถม้าหยุดลงจึงรีบเปิดประตูก้าวลงมายืนมองเปยลี่ติงที่เดินนำชายชุดดำกับทหารสี่ห้าคนเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“ข้าแม่ทัพใหญ่แห่งลั่วหยางเป็นตัวแทนมารับขบวนเจ้าสาว”

“ทำไมไม่เป็นเจ้าบ่าวที่มารับ ลั่วหยางไม่ให้เกียรติชาวยามะเลยรึ” ชิงหรงตอบสวนกลับทันทีอย่างไม่สบอารมณ์

“ข้าต้องขออภัยแทนน้องชายข้าด้วย มีเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อย”

“ช่างเถอะชิงหรง นำขบวนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ” เสียงฮวาเจินเอ่ยขึ้น ชิงหรงขมวดคิ้วกำหมัดหมุนตัวกลับเข้ามานั่งในรถม้า เปยลี่ติงหมุนตัวกลับเดินไปขึ้นหลังม้านำขบวนเข้าเมือง ชิงหรงเปิดผ้ามองที่หน้าต่างชมเมืองอย่างตื่นตา ชาวบ้านโปรยดอกไม้ต้อนรับร่วมยินดี เปยลี่ติงผ่อนลมหายใจยาวเหลียวมองรถม้าจากยามะอย่างหนักใจ

ประทัดจุดต้อนรับขบวนเจ้าสาวตั้งแต่หน้าประตูจวน ทุกคนออกมารับฮวาเจินที่คลุมผ้าแดงลงจากรถม้ากับชิงหรง ไทเฮาจับมือฮวาเจินมาจับแขนตนพาเดินเข้าห้องพิธีที่มีเจ้าบ่าวยืนรออยู่ เปยลี่ติงยืนกอดอกอยู่ข้างฝางแฟหยินที่ส่ายหน้าไปมาก่อนเหลือบมองมือหนาๆ เอื้อมมากอดเอวพร้อมรอยยิ้มยียวนจากเปยลี่ติง ไทเฮามองบ่าวสาวทำพิธีไหว้ฟ้าดิน จบลงด้วยการยกจอกดื่มคล้องแขนลี่ซื่อหมิงชำเลืองมองเจ้าสาวที่เปิดผ้าคลุมเล็กน้อยจนเห็นริมฝีปากกระดกดื่มก่อนละออกจากกัน

“ข้าจะไปส่งเจ้าสาวที่ห้องหอเอง” ไทเฮากล่าวพร้อมพาฮวาเจินเดินออกจากห้องพิธีไปสู่ห้องของลี่ซื่อหมิง ซึ่งเจ้าตัวมองตามแล้วกระตุกยิ้มเดินแยกออกไปอีกทาง เปยลี่ติงมองตามลี่ซื่อหมิงอ้อมไปด้านหลังครั้นจะเดินตามก็ถูกอี๋หยวนเหว่ลากตัวไปดื่มสุราฟังดนตรีที่ลานกว้าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป