บทที่ 4 ความเจ็บปวด

ศรันภพนำเอกสารกลับมาให้พี่สาวที่โรงพยาบาล ภาพที่เห็นทำให้คนเป็นน้องเจ็บปวดจนทำอะไรไม่ถูก

ตวงรักนอนน้ำตาไหลอยู่บนเตียง สีตะลากุมมือพี่สาวเอาไว้

“พี่ตวงเรียบร้อยแล้วพี่”

“ขอบใจนะตาม”

“เจ็บใช่ไหมพี่ เจ็บก็ร้องออกมา ตามรู้ว่าพี่เจ็บมาก เจ็บโคตร ๆ แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ร้องไห้ออกมาพี่ร้องออกมาให้หมด พี่ยังมีพี่เตยกับตามนะพี่”

“พี่ไม่อยากอ่อนแอเลยตาม”

“ใครบอกว่าพี่ตวงอ่อนแอ พี่ตวงเข้มแข็งที่สุดแล้ว พี่ต้องอยู่ได้ เชื่อตามนะพี่”

“ตาม...”

“ตามรู้ว่าพี่เสียใจ แต่พี่ตวงต้องเข้มแข็งนะ คิดถึงลูกให้มาก ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

“น่าอายจังเลย”

“น่าอายตรงไหนพี่ พี่เตยต่างหากที่ต้องอาย ให้มาปลอบใจพี่ตวงกลับมาร้องไห้เสียเอง” สีตะลาก็เจ็บปวดไม่แพ้พี่สาว เธอจึงร้องไห้ออกมา ตวงรักร้องไห้มาตั้งแต่

เมื่อคืน เพราะไม่อยากให้พี่คิดมากเธอจึงไม่พูดอะไร

ผิดกับศรันภพที่พูดมากจนตวงรักร้องไห้มากขึ้นกว่าเดิม

“ต่อไปนี้พี่จะรักลูกและรักตัวเองให้มาก ๆ”

“เก่งมากเลยพี่ เริ่มต้นใหม่นะพี่ เรื่องที่ผ่านมาเก็บไว้เป็นบทเรียน ตามรู้ว่าพี่ลืมเขาไม่ได้หรอก เลือกเก็บแต่สิ่งที่ดี ๆ ไว้นะพี่ อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งมันไป”

“แค่วันนี้ตาม เตย พี่จะร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น”

“ไม่เป็นไรพี่น้ำตาเเก้ปัญหาไม่ได้ก็จริง แต่น้ำตาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ร้องออกมาเถอะพี่ ไม่มีใครไม่เสียใจหรอก”

“ตามได้บอกเรื่องลูกกับคุณรุจไหม”

“ไม่พี่ผมคิดว่าไม่จำเป็น เรื่องที่พี่อยู่โรงพยาบาล ผมก็ไม่ได้บอก เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่แกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา”

“ดีแล้ว เรื่องลูกพี่ไม่อยากให้เขารู้ และไม่อยากให้เขามาวุ่นวายอะไรทั้งนั้น พี่ไม่ต้องการอะไรจากเขาอีกแล้ว”

“ผมจะไม่ยอมให้เขามาวุ่นวายกับพี่อีก เรามีหลักฐานว่าเขานอกใจพี่ก่อน อนิรุจคงไม่กล้ามาวุ่นวายกับเราอีก ถ้ามันมาผมจะฟ้อง!”

“พี่ตวงแน่ใจนะว่าจะไม่ใจอ่อนให้เขาอีก”

“ไม่แล้วตาม พี่ไม่อยากเป็นควายอีกแล้ว”

“ถ้าอนิรุจไปขนของที่บ้าน พี่ตวงโอเคใช่ไหม”

“พี่โอเค พี่ทำใจได้”

“พักผ่อนเยอะ ๆ นะพี่ ร้องไห้ขนาดนี้ถ้าเจ้าตัวเล็กจำเเต่เสียงสะอื้นของเเม่จะทำไง เวลาจะคุยกับลูกต้องสะอื้นตลกตายเลย” หยอกพี่สาวเพราะอยากให้ตวงรักกลับมายิ้มและหัวเราะอีกครั้ง

“สู้ ๆนะพี่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” พูดนะง่ายแต่ทำยาก ได้แต่หวังว่าตวงรักจะกลับมาเข้มแข็งได้ในเร็ววัน

สามวันต่อมา

อนิรุจมาเก็บของในบ้าน ตอนแรกที่เห็นรถยนต์ของ

ตวงรักจอดอยู่ก็หัวเสีย คิดว่าต้องมีเรื่องวุ่นวายตามมา แต่กลับตรงกันข้าม เพราะในบ้านกลับเงียบสนิท เขาคิดไว้ว่าตวงรักจะต้องโวยวาย อ้อนวอนขอคืนดี เรียกร้องความสนใจ ทำตัวน่าสงสารให้เขากลับมาอยู่กับเธอ เหมือนอย่างที่ผ่านมา แต่ไร้แท้กระทั่งเงาของเธอ

“ทำไมบ้านเงียบจังไปไหนกันหมด” ถามคนใช้ที่มาเปิดประตูบ้านให้เขา

“อยู่โรงพยาบาลค่ะ” แอ๋วตอบไปตามตรง

“โรงพยาบาล ใครเป็นอะไร”

“คุณรุจไม่ทราบเหรอคะว่าคุณตวงไม่สบาย

นอนโรงพยาบาลมาสามคืนแล้วค่ะ”

“อ่อ...” คำตอบของคนใช้ทำให้อนิรุจแปลกใจไม่น้อย ตวงรักไม่สบาย ศรันภพก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้เลยสักคำ มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นมาดู บางทีเธออาจจะโทรหรือส่งข้อความมา แต่เขาไม่สนใจจึงไม่เห็นมัน

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน สายที่โทรเข้า และช่องทางติดต่อต่าง ๆ ไม่มีข้อความของเธอแม้แต่ข้อความเดียว เป็นไปได้ด้วยหรือที่ตวงรักจะไม่บอกเรื่องไม่สบายให้เขารู้ ปรกติแล้วเธอจะใช้เรื่องเจ็บป่วยมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เขาสนใจเธอเสมอ

“คุณตวงเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

“หนูก็ไม่ทราบค่ะ คุณตามสั่งไว้ว่า ถ้าคุณรุจมาขนของ ให้ขนของคุณรุจไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว คุณตามให้ธนาคารมาประเมินราคาบ้านแล้ว คุณตวงจะให้เงินคุณรุจครึ่งหนึ่งของราคาประเมินค่ะ คำพูดของคนใช้ทำให้อนิรุจงงมากขึ้นไปอีก ถึงกับให้ธนาคารมาประเมินราคาบ้าน ตวงรักเอาจริงใช่ไหม แสดงว่าใบหย่านั่นคงเป็นของจริง

“ไอ้ตาม...” ก่นด่าศรันภพเพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นความคิดของศรันภพแน่นอน คนอย่างตวงรักไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้ และที่สำคัญตวงรักขาดเขาไม่ได้ แค่พูดว่าจะหย่า ก็ร้องไห้จนแทบขาดใจตาย

“รีบเก็บของเถอะค่ะ เผื่อคุณตามกลับมา เดี๋ยวจะมีปัญหากันอีก” แอ๋วเตือนด้วยความหวังดี เพราะรู้ว่าสองคนนี้ไม่ลงรอยกัน

“ทำไมฉันต้องกลัว ไอ้ตามมันเป็นใคร!”

“คุณรุจลืมไปแล้วเหรอคะว่าคุณตามเป็นเจ้าของบ้าน อุ้ย!” แอ๋วยกมือปิดปากเมื่อพูดจบประโยค เจ้านายสั่งไว้ว่าอนิรุจเป็นคนนอกไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวอีกแล้ว ถ้าอนิรุจทำตัวกร่างให้โทรเรียกตำรวจได้เลย

อนิรุจเดือดจัดเมื่อเห็นท่าทางของคนใช้  ถ้าตวงรักรู้ว่าคนใช้พูดจากับเขาแบบนี้ หล่อนคงได้ตกงานแน่ ๆ

“ขอกุญแจบ้านให้หนูด้วยนะคะ” แอ๋วพูดเมื่ออนิรุจขนกระเป๋าลงมาที่รถ

“กุญแจบ้าน เอาไปทำไม”

“แล้วจะเก็บไว้ทำไมล่ะคะ คุณรุจคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว”

“จะมากไปแล้วนะ!”

“คุณตวงสั่งไว้ค่ะ”

“เธอคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าเจ้านายเธอรักฉันมากแค่ไหน”

“หย่ากันแล้วคงไม่รักแล้วแหละคะ ขอโทษนะคะ เผื่อคุณรุจลืมว่าคุณรุจหย่ากับคุณตวงแล้ว คุณรุจไม่มีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้อีกแล้ว เก็บของเสร็จแล้วก็รีบ ๆ ออกไปค่ะ หนูจะได้ทำงาน” พูดจบแอ๋วก็ไปลากสายยางมา แล้วเปิดน้ำราดพื้นตรงที่อนิรุจยืนอยู่ ร่างสูงกระโดดเข้ารถเมื่อแอ๋วทำน้ำเปียกขา

“ค่า...คุณตามเก็บของเสร็จแล้วค่ะ พี่แอ๋ว กำลังล้างพื้นไล่ตัวเสนียดค่ะ”

“ฝากไว้ก่อนเถอะนางแอ๋ว!” อนิรุจอาฆาต เมื่อได้ยินคำพูดของแอ๋ว ก่อนจะขับรถออกไป

“ไม่รับฝากนานนะคะ รีบ ๆ มาเอาคืนเน้อ” แอ๋ว

ตะโกนตามหลัง

“นี่แน่ะ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าทำอะไร” สีตะลาทุบลงที่หลังน้อง เพราะยืนฟังน้องคุยกับคนใช้มาพักหนึ่งแล้ว

“คนเลวอย่างมันแค่นี้ยังน้อยไป”

“รู้ตัวไหมตาม ว่าตัวเองเหมือนผู้หญิงมากขึ้นทุกวันแล้วน่ะ นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นนี่ก็ด้วย ได้มาจากใครห๊ะ!” พูดพร้อมกับบิดหูน้องไปมา

“โอ้ย! เจ็บนะพี่เต้ย” ศรันภพโวยวายเมื่อถูกพี่สาวทำร้ายร่างกาย

“ทำเหมือนไม่สะใจ ตัวเองไม่กล้าเค้าก็ทำแทนแล้วนี่ไง จำไม่ได้แล้วเหรอว่าหมอนั่นทำร้ายพี่ตวงยังไงบ้าง”

“พี่อยากให้พี่ตวงกับเขาจบกันดี ๆ อย่างน้อยก็เพื่อหลาน”

“ไม่ต้องเอาหลานมาอ้างหรอก รอดูนะนายอนิรุจจะต้องเจ็บกว่าพี่ตวงร้อยเท่าพันเท่า”

“พอเลยเราหยุดเจ้าคิดเจ้าแค้น แล้วมาคิดกันดีกว่าว่าต่อจากนี้จะเอายังไง พี่ไม่สบายใจเลยเวลาที่เห็นพี่ตวงร้องไห้”

“กำลังใจสำคัญพี่ เราต้องให้กำลังใจพี่ตวง อยู่เคียงข้างให้พี่ตวงผ่านคืนวันร้าย ๆ นี้ไปให้ได้ ตามเชื่อว่าพี่ตวงจะต้องผ่านมันไปได้และเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุด”

“พี่ก็หวังว่าอย่างนั้น” สีตะลาเห็นด้วยกับน้อง สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดก็คือ อยากให้พี่ลุกขึ้นมาหัวเราะและสดใสได้เหมือนเดิมเร็ว ๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป