บทที่ 6 บทที่ 6.

และในส่วนของออฟฟิศที่ทำงานนั้นจะตกแต่งแบบเรียบง่ายเหมือนกันคือมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น จัดห้องแบบเปิดโปร่งเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสมองต้นไม้ใบหญ้าและความสดชื่นงดงามของดอกไม้ในร้านได้ด้วยและของที่ใช้ตกแต่งทุกชั้นล้วนมาจากการประดิษฐ์และทำด้วยมือทั้งสิ้น ทั้งที่เนตรนาราทำเองหรือเมื่อเธอออกต่างจังหวัดเจอแบบแปลกๆ จะซื้อหามาตกแต่งร้านทำให้มีของแต่งร้านที่สวยแปลกไม่เหมือนใครซึ่งเจ้าตัวก็ปลื้มเหลือหลาย

นับตั้งแต่เนตรนารามีเหตุทะเลาะกับเจ้านาย ทายาทอาร์แอนด์อาร์ กรุ๊ปเมื่อปลายปีที่แล้ว เนตรนาราก็เลือกจะทำบริษัทรับตกแต่งสวนของตัวเองควบคู่ไปกับเปิดแกเลอรี่ ภาพเขียนภาพถ่ายรวมไปถึงร้านเสื้อผ้าและของฝากน่ารักๆ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดร่วมกับเพื่อนรักทั้งสอง และมีทีท่าจะไปได้สวยเสียด้วย นอกจากนี้แรงงานและวัสดุก็สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เธอไปแนะนำและขอให้ชาวบ้านเหล่านั้นปรดิษฐ์งานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าใส่เศษสตางค์น่ารักๆ พรมเช็ดเท้าลายต่างๆ ที่สวยงามแปลกตา หรือกระถางต้นไม้ และศิลปะหินทรายที่พวกเธอออกแบบและให้ช่างฝีมือมีชื่อของหมู่บ้านทำส่งให้กับทางร้านของพวกเธอซึ่งจะมีเอกลักษณ์เป็นของทางร้าน เพราะหากเห็นรูปปั้นหรือกระถางต้นไม้แบบนี้ที่ไหนนั่นก็แสดงว่ามาจากร้านของพวกเธอ นับว่าร้านของพวกเธอสองเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการสร้างรายได้แก่ชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับแหล่งชุมชนเหล่านั้นด้วย

นังหมวยมหาภัยจอมงก หึคอยดูนะลูกค้ารายนี้กลับเมื่อไหร่ จะไม่พูดด้วยเลย

อรุณนารีคิดอย่างโมโห พลางเดินเขยกๆ เข้าไปในร้านแล้วเรียกให้ ส้มฉุน สาวน้อยที่เป็นพนักงานในร้านหาชุดพยาบาลมาให้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บที่ข้อเท้าบาง ที่ตอนนี้เริ่มบวมนิดๆ แล้ว

“ว้าว แกเอ๊ย...แมงปอแกรู้ป่าวเมื่อกี้นายหัวมาร์คเขาตกลงว่าจ้างเราไปแต่งสวนและตกแต่งรีสอร์ตของเขาที่เกาะส่วนตัวน่ะแก เริ่ดมากกก...คราวนี้ฉันก็จะได้ไปเปิดหูเปิดตาบนเกาะแสนสวย ฉันจะไปนอนอาบแดดให้สะใจไปเลย”

อรุณนารีที่งอนเพื่อนรักอยู่แล้ว เบ้ปากอย่างหมั่นไส้กับท่าทางเคลิ้มฝันของเพื่อนพลางหันหน้าหนีไปชงเครื่องดื่มให้ตัวเองอย่างงอนไม่หาย

“เฮ้ย นี่แกงอนฉันเหรอไอ้แมง โอ๋ๆ อย่างอนน๊า ดีกันน๊า นี่เค้าทำเพื่อตัวเองน๊าคนดี๊คนดี เนี่ยถ้ารับค่าจ้างแล้วเค้าให้ตัวเองหมดเลยดีป่าว”

เนตรนาราเข้ามาโอบกอดเพื่อนรักอย่างงอนง้อ พลางหอมแก้มใสซ้ายขวาอย่างหยอกเย้าซึ่งมันเป็นภาพที่ทุกคนจะชินเพราะรู้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนรักและผูกพันกันมานาน แต่คนที่เพิ่งมา และได้เห็นคือ นายหัวมาร์ค แห่งเกาะพราวแสงจันทร์ ชายหนุ่มไม่ใช่คนที่รู้จักเธอทั้งสองจึงได้แต่มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ขุ่นเคืองอย่างบอกไม่ถูก กระอักกระอ่วนใจและ เสียดาย แล้วเขาจะเสียดายอะไร ชายหนุ่มคิดในใจ

“ผู้หญิงทุกวันนี้ก็แปลก ผู้ชายมีเยอะแยะแต่มารักกันเองน่าขยะแขยงพิลึก”

ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนเดินไปที่รถกระบะสี่ประตูคันใหญ่คู่ใจที่มีลูกน้องจอมกวนอย่างไอ้เด่นดัง และเด่นดี คู่แฝดนรกที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเพราะอยากมาเที่ยวเสียมากกว่าจะมาช่วยนายหัวที่รักดูงานอย่างที่บอกนายใหญ่กับนายหญิงแห่งเกาะพราวแสงจันทร์

“เฮ้ยๆ ไอ้เด่นดัง นายหัวมาแล้วเว้ย” เด่นดี พลีชีพ ร้องบอกน้องชายฝาแฝดที่กำลังเกี้ยวสาว (ซึ่งเป็นสาวชาวเขาเผ่าหนึ่งมาจากภาคเหนือ ) คนดูแลสวนของอรุณนารี ที่ตอนนี้สาวเจ้าอายม้วน หญ้าบริเวณรอบๆ ถูกถอนเกลี้ยงเพราะความขัดเขิน ไม่รู้ไอ้น้องชายฝาแฝดตัวดีมันพูดอะไรกับสาวนั่นถึงได้อายม้วนขนาดนี้

เด่นดัง พลีชีพ มองพี่ชายฝาแฝดที่เหมือนกันราวกับแกะไม่ว่าจะเป็นผมที่หยิกหยองฟูฟ่องบนหัว ใบหน้าที่ออกเหลี่ยมๆ จมูกที่จะโด่งก็โด่งนิดๆ พอมีสิ่งที่เรียกว่าดั้ง แถมยังโตอีกต่างหาก ริมฝีปากหนาและอิ่มย้อย (หรือจะเรียกว่าปากห้อยก็ไม่ผิดนัก) จะผิดที่สีผิวเท่านั้น พี่ชายฝาแฝดของเขานั้นผิวขาวในขณะที่เขาตัวดำ (มาก) มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากมายมันเป็นไปได้อย่างไรที่มันจะแตกต่างกันเพียงแค่นี้

“น้องมะหมี่จ๋าเอาไว้โอกาสหน้าพี่เด่นดังจะมาหาใหม่นะจ๊ะ เจ้านายพี่เด่นดังสุดหล่อมาแล้ว อย่าลืมโทรหาพี่นะจ๊ะคนสวย อะจึ๊ยๆ”

เด่นดังมิวายหยิกแก้มสาวนามมะหมี่ (ที่เขาเพิ่งตั้งให้เพราะชอบ มะหมี่นางเอกเรื่องแม่เบี้ย) ที่นั่งตะกุยหญ้าข้างๆ กายจนกระจุยกระจายแก้อาการขัดเขิน แล้วสองศรีพี่น้องเดินเร็วๆ ไปที่รถคันใหญ่อย่างรู้หน้าที่ เมื่อเจ้านายมาถึงก็พร้อมจะขึ้นรถทันที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป