บทที่ 4 Chapter 4
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเซียนนาไม่เอาเหล้าไปให้คุณอูโก้ มีหวังโดนไล่ออกแน่ๆ”
เป็นครั้งแรกที่เซียนนาไม่กล้าทำตามคำสั่งของนันทนภัส หญิงสาวที่ถือว่าเป็นเจ้านายของเธอคนหนึ่ง แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะอยู่ในตำแหน่งคนดูแลส่วนตัวของมากาเร็ต มารดาของอูโก้ก็ตาม
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“จัดการ จัดการยังไงคะ” สาวใช้จอมขี้กลัวถามกลับ
“ก็เปลี่ยนจากเหล้าเป็นอาหารร้อนๆ ไง ดื่มแต่เหล้าอย่างนี้ไม่แค่กระเพราะจะพัง ฉันว่านะโรคตับแข็งถามหาด้วย”
เรื่องที่อูโก้ดื่มแต่สุรามากกว่าอาหารในยามที่ตนเองอกหักรักคุด ทุกคนในบ้านกัลเซลโลต่างรู้ดีทุกคน แม้กระทั่งซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตบุพการีของอูโก้ก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน ทั้งสองเตือนเดินทางกลับมาอิตาลีทันทีที่ทราบเรื่องว่า ลูกชายสุดที่รักถูกผู้หญิงทิ้ง แล้วสภาพของคนอกหักก็เหมือนจะไม่เป็นผู้เป็นคน ทั้งคู่ปลุกปลอบหลายครั้ง แต่ทว่าความเสียใจของอูโก้ก็ไม่บรรเทาลง พึ่งแอลกอฮอล์หวังจะให้ลืมเรื่องเศร้าที่เกาะกินใจ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่หมดไปจากจิตใจของเขาเสียที ทำเอาทุกคนที่หวังดีกับเขาต่างระอากันเป็นทิวแถว คงจะมีเพียงนันท์นภัสเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างเขายามนี้ กว่าที่อูโก้จะฟื้นตัวจากความเศร้าก็ปาเข้าไปหลายวัน แล้วเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้
“เอาอย่างนั้นเหรอคะ” เซียนนาถามเพื่อความมั่นใจ
“อืม ตามนี้แหละ เซียนนาไปช่วยฉันทำซุปข้าวโพดดีกว่านะจะได้เสร็จก่อนที่คุณอูโก้จะอาละวาดอีกรอบ” สาวชาวไทยพูดจบก็เดินตรงไปยังห้องครัวพร้อมกับเซียนนา ก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยกันทำซุปข้าวโพด
ราวยี่สิบนาทีต่อมานันท์นภัสก็เดินถือถาดอาหารที่มีชามซุปข้าวโพดร้อนๆ วางอยู่ เธอเคาะประตูห้องของอูโก้ก่อนจะใช้อีกมือหนึ่งหมุนลูกบิดประตูแล้วผลักมันเข้าไปในห้อง แล้วก้าวเดินเข้าไปด้านใน
“คุณอูโก้คะ...อ้าว”
เธอตั้งใจจะบอกให้เจ้าของห้องทานซุปข้าวโพดแทนการดื่มเครื่องดื่มทำลายสุขภาพ แต่พอมองเห็นอูโก้นั่งหลับคาโซฟา นันท์นภัสจึงเปลี่ยนความตั้งใจให้เขาทานอาหารชามนี้มาเป็นเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาแทนซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำ
นันท์นภัสเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนพอดีหมาดน้ำ ก่อนจะมาทรุดกายนั่งลงบนโซฟาข้างร่างหนา ใช้ผ้าขนหนูที่อยู่ในมือเช็ดใบหน้าคมเข้มของเขา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เขาจมอยู่กับความทุกข์ ความเสียใจและเอาแต่ดื่มเหล้า นันท์นภัสจะเข้ามาดูแลเขาเสมอ เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ก่อนจะปล่อยให้เขาหลับบนโซฟา เพราะเธอมีแรงเท่ามดคงจะพาเขาไปนอนในห้องนอนไม่ได้
สิ่งที่นันท์นภัสทำไม่ใช่เพราะตอบแทนบุญคุณซัคคาร์โด้และมากาเร็ตที่ให้ที่พักพิงแมวพลัดถิ่นอย่างเธอ หากจะเท้าความเรื่องนี้ก็เริ่มตั้งแต่หลายปีก่อนที่เธอถูกจับตัวมาอยู่ในซ่องและได้รับการช่วยเหลือจากจัสตินที่เปรียบเสมือนพี่ชายที่แสนดีที่เธอเคารพรักมากคนหนึ่ง
จัสตินได้พาแมวพลัดถิ่นมาพบกับซัคคาร์โดกับมากาเร็ต ก่อนที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ทั้งคู่ได้รับฟังแล้วเกิดสงสาร อีกทั้งยังถูกชะตากับสาวชาวไทยคนนี้จึงให้นันท์นภัสมาอยู่บ้านกัลเซลโลในฐานะคนดูแลส่วนตัว ของทั้งคู่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำเพียงแค่หน้าที่นี้อย่างเดียวเท่านั้น หญิงสาวยังดูแลบ้าน ทำอาหารและทำทุกอย่างที่เธอจะทำได้ รวมทั้งดูแลอูโก้ยามเมามาย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบหน้าเธอก็ตามที
และอีกเหตุผลหนึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่นันท์นภัสดูแลอูโก้คือ เธอรักเขา เธอรักคนที่แสดงทีท่าว่าไม่ชอบหน้าตนตั้งแต่แรกเห็น เขามักจะส่งสายตาไม่พอใจยามที่ซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตเอ่ยปากชมเธอในเรื่องที่ทำ ไม่ว่าจะชื่นชอบการทำอาหารที่ฝีมือของเธอนั้นถือว่าอร่อยถูกปาก หรือแม้แต่การทำนั่นทำนี่ที่ดูเหมือนว่าจะดูดี ถูกใจมากาเร็ตไปเสียหมด ทำให้อูโก้เกิดความหมั่นไส้ บางครั้งก็พูดจากระทบกระเทียบ ซึ่งเธอไม่เคยโกรธหรือไม่พอใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“เชอรี่ เธออย่าไป ฉันรักเธอ”
คำละเมอยามไม่ได้สติ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารำพัน ประโยคนี้จะดังผ่านปากของเขาทุกครั้ง และเป็นทุกครั้งที่นันท์นภัสได้ยินความเจ็บปวดก็วิ่งเข้าสู่หัวใจเพราะคงไม่มีใครอยากได้ยินคนที่ตัวเองรักเอ่ยบอกรักหญิงอื่น แล้วยิ่งได้ยินเขาพูดในยามไม่ได้สติ ความเสียใจและปวดร้าวก็เพิ่มทบทวี มันตอกย้ำให้เธอรู้ว่า อูโก้รักกานต์วิภาหมดใจ
ถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดมากเพียงไร มืออันสั่นเทาของนันท์นภัสยังคงเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอของเขาต่อไป และดูเหมือนว่าความเย็นจากผ้าขนหนูจะทำให้เขารู้สึกตัว เปลือกตาของอูโก้จะขยับเปิดปิดหลายครั้ง คนที่กำลังเช็ดหน้าให้คนไม่ค่อยได้สติเมื่อเห็นว่าเขาลืมตาขึ้นมา จึงเอ่ยบอกความตั้งใจของตนตั้งแต่แรก
“คุณอูโก้ทานซุปข้าวโพดหน่อยนะคะ จะได้มีอะไรรองท้องบ้าง ดื่มแต่เหล้าอย่างนี้ไม่ดีนะคะ” เป็นคำพูดที่เธอมักบอกเขาเสมอยามที่ได้สติแล้วมันก็เป็นทุกครั้งที่อูโก้ปฏิเสธ
“ไม่กิน จะกินเหล้า” เขาพูดเสียงอ้อแอ้
“ทานสักสองสามคำก็ได้ค่ะ ในท้องของคุณอูโก้มีแต่เหล้านะคะ มันไม่ดีค่ะ นะคะ ทานซุปข้าวโพดซะหน่อยนะคะ” เธอยังคงตื้อต่อ
“บอกว่าไม่กินก็ไม่กินสิ เธอนี่วุ่นวายไม่เลิกจริงๆ เลย รำคาญ เข้าใจไหมว่ารำคาญ”
อูโก้ตะเบ็งเสียงใส่หน้านันท์นภัส หญิงสาวที่ตนไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกพบ
“คุณอูโก้น่าจะห่วงตัวเองบ้างนะคะ ไม่ใช่เมามายอย่างนี้ รู้ไหมคะว่าคุณลุงคุณป้าห่วงคุณมากแค่ไหน ท่านไม่มีความสุขหรอกค่ะที่เห็นคุณเป็นแบบนี้ คุณเลิกจมอยู่กับความเสียใจได้แล้วนะคะ เห็นแก่คุณท่านนะคะคุณอูโก้”
นันท์นภัสเตือนสติอูโก้ เธอไม่ต้องการเห็นเขาโศกเศร้าในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการเห็นซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตทุกข์ใจเรื่องลูกชายเพียงคนเดียวด้วย หญิงสาวจึงทำใจกล้าเอ่ยเตือนสติของคนที่ไม่เคยฟังใครเช่นเขา แล้วเธอก็หวังว่าเขาจะคิดได้
“อย่ามาแส่เรื่องของฉัน” เขาตวาดกลับเสียงเข้ม“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ แมวไม่มีที่อยู่”
