บทที่ 11 ระแวง
“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก เจก็แค่เล่นกับพลอยเฉยๆน่ะ” เจตรินตอบไปอย่างไม่คิดอะไร ก่อนจะเดินไปหาคุ่หมั้นคนสวยของเขาแล้วกอดเธออย่างอ้อนๆ
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้ทำอะไรกัน” อลิสเอ่ยถามไปแล้วจ้องมองหน้าพลอยลดาอย่างจับผิด จนพลอยลดาตอบกลับมา
“แน่ใจสิ ไปทานข้าวกันเถอะ อย่าคิดมากสิ” เจตรินเอ่ยบอกก็โอบกอดพาอลิสออกไปที่ห้องอาหาร ก่อนจะหันมาทำหน้าขอโทษเพื่อนสาวที่ทำเรื่องปวดให้
“เฮ้อ นี่แค่สองสามเดือนยังเริ่มหวงขนาดนี้ แล้วฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย” พลอยลดาพูดออกไปอย่างบ่นๆ เพราะแรกตอนมาอลิสก็ทำตัวปกติดี แต่สองอาทิตย์มานี้อลิสทำตัวแปลกไปไม่คุยกับเธอแบบร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน อลิสคงจะคิดว่าเธอกับเจตรินแอบกิ๊กกันแบบที่ไอ้หื่นอดัมนั่นพูดแซวบ่อยๆแน่
“ถ้าไม่อยากให้อลิสเขาคิดมากก็อยู่ห่างเจไว้สิ” อดัมมายืนด้านหลังของเด็กสาวก็เอ่ยพูดกระซิบที่ข้างหูของพลอยดาไป
“อุ้ย นี่คุณ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกฉันไม่ชอบ” พลอยลดารีบขยับตัวออกห่าง แล้วตอกกลับด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะมองหน้าอดัมอย่างไม่ชอบ ทั้งที่เขาก็แกคราวพ่อของเธอได้ทำไมเขาถึงชอบทำหื่นๆใส่เธอก็ไม่รู้
“ไม่ชอบแล้วไงล่ะ ในเมื่อเธอเองก็ต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปอีกนาน ยังไงเธอก็ต้องเสร็จฉันอยู่วันยังค่ำ” อดัมเอ่ยพูดไปก็เดินเข้าไปหาพลอยลดาทีละนิดอย่างช้าๆ พร้อมกับไล้สายตามองเด็กสาวอย่างหลงใหล ไม่รู้ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีอะไรเกินตัวนัก เขาล่ะอยากจะลองสัมผัสมันดูสักครั้งว่ามันจะรู้สึกดีแค่ไหน
“ไม่มีทาง ถ้าแกทำอะไรฉัน ฉันจะบอกป้าอลิซ่าให้จัดการแก” พลอยลดาพูดไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะเดินถอยไปเรื่อยๆจนเกือบจะสุดขอบประตูแล้ว เธอจะทำยังไงดี
“เอาสิ เธอคิดว่าเขาจะเชื่อผัวแสนดีอย่างฉัน หรือจะเชื่อเด็กแรดที่อ่อยว่าที่ลูกเขยของเขากัน ถ้าเธอยอมฉันง่ายๆล่ะก็ เธอจะได้สนุกแถมยังได้เงินใช้สบายๆ ไม่สนเลยงั้นเหรอสาวน้อย” อดัมพูดไปก็ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะเขาจะใช้วิธีนุ่นนวลกับเด็กสาวก่อน หากเธอขัดขืนล่ะก็เขาจะใช้ไม้แข้งกับเธอ
“ไม่ ฉันไม่มีวันยอมเสียตัวให้ไอ้แก่ตัณหากลับแบบแกแน่” พลอยลดาพูดบอกไปก็มองหน้าของอดัมอย่างไม่กลัว ก่อนจะเอาเท้าเหยียบเท้าของอดัมแล้วผลักเขาออกไป เธอก็รีบวิ่งออกมาทันที ก่อนจะรีบเดินตามเจตรินและอลิสไปที่ห้องอาหาร
“อ่าวหนูพลอยมาพอดีเลย มานั่งตรงนี้สิลูก” อลิซ่าเอ่ยพูดบอกไปด้วยความเอ็นดูเด็กสาว ก่อนจะเชิญให้เด็กสาวมานั่ง
“ค่ะคุณน้า” พลอยลดาตอบไปก็ไปนั่งตามปกติ ก่อนจะมองหน้าเจตรินและอลิสที่มองมายังเธอ เธอจึงยิ้มอ่อนๆให้กับทั้งสองไป
“อ่าวคุณคะ ทำไมมาช้าจังล่ะคะ เด็กๆมากันพร้อมแล้วเนี่ย” อลิซ่าเอ่ยถามอดัมที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ทุกคนก็หันไปมองยกเว้นพลอยลดา เพราะเธอเกียดตาเฒ่านี่ เกลียดจนเกินคำบรรยาย
“ไม่มีอะไร ไงจ้ะหนูพลอย วันนี้จะออกไปเที่ยวกับพวกเราไหมเอ่ย” อดัมตอบภรรยาไปก็ทำท่าเป็นลุงใจดีมันที เขาเอามือไปจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของพลอยลดาแล้วพูดเอ่ยถามตามปกติ แต่เขาก็แอบเอามือบีบหัวไหล่ของเด็กสาวอย่างถือวิสาสะ
“ไม่ค่ะ วันนี้พลอยต้องไปทำธุระ” พลอยลดาพยายามส่ายไหล่แต่อดัมก็ยังคงจับไว้อยู่ เธอจึงไม่มีโอกาสให้ตัวเองหลุดพ้น
“มาทานข้าวเถอะครับลุงอดัม พวกเราหิวกันแล้ว” เจตรินเอ่ยบอกไปพร้อมกับใช้สายตามองอดัมอย่างรุ้ทัน เพราะสายตาผู้ชายด้วยกันเขาดูออกว่าอดัมกลังคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสาวของเขา แบบนี้เขาต้องคอยระวังไม่ให้พลอยลดาอยู่กับอดัมซะแล้ว
“เอาสิ ลุงก็หิวแล้วเหมือนกัน หืม อาหารวันนี้น่าทานจริงๆ ป่ะๆ ทานข้าวกันเถอะ” อดัมพูดไปก็นั่งลงแล้วเอ่ยพูดไปพร้อมกับใช้สายตามองเด็กสาวที่นั่งตรงข้ามอย่างโลมเลีย
“อะฮึ้ม อดัมคะในนี้มีอาหารที่คุณทานไม่ได้ อย่าลืมสิคะ” อลิซ่าเอ่ยเตือนสามีอย่างเป็นนัย เพราะอดัมเริ่มแสดงท่าทีกับเด็กสาวอย่างออกนอกหน้าเกินไปแล้ว เธอจึงต้องเอ่ยเตือนเขา เพราะเธอคุยกับเขาแล้วว่าห้ามเขายุ่งกับพลอยลดาเด็ดขาด ถึงเขาจะเจ้าชู้แค่ไหนเธอรับได้แต่กับเด็กที่พวกเขารับมาดูแลเธอคงรับไม่ได้ถ้าเขาคิดจะทำเรื่องเลวๆแบบนั้น เธอจึงใช้เรื่องอย่ามาขู่เขาไม่ให้ยุ่งกับเด็กสาว
“ผมรู้น่า” อดัมตอบกลับอย่างเสียอารมณ์ ก่อนจะนั่งทานข้าวอย่างเอือมระอา ถ้าไม่มีอลิซ่าสักคน ป่านนี้เขาจัดการเปิดซิงอีเด็กนี่ไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้มาลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา
“น้องสาวเราบอกว่าจะมารับใช่ไหม” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้
“ใช่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวตอนที่พวกนั้นออกไปเที่ยวเนื่องจากกลัวอดัมจะกลับมาทำมิดีมิร้าย เธอจึงไม่ได้ปฎิเสธน้องสาวที่จะมารับเธอที่สนามบิน
“น้องสาวพิชเรียนมหาลัยไหนล่ะ มันไกลจากที่นี่รึเปล่า” แฟรงก์เอ่ยถามเพราะมันก็ขึ้นอยู่กับว่ามหาลัยที่น้องสาวของพิชชาภาเรียนมันอาจจะไกลจากสนามบิน จึงทำให้เด็กสาวมาช้า
“อ่อ ยัยพลอยบอกว่าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซาเทริ์นแคลิฟอเนียน่ะค่ะ มันไกลจากที่นี่ไหมอ่ะพี่แฟรงก์” พิชชาภาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ามันไกลกันมากน้อยเท่าไหร่
“อ่อ ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก เดี๋ยวก็คงจะมาแล้วมั้ง ไปนั่งรอกันก่อนก็ได้ แต่น้องสาวเรานี่ก็เก่งไม่เบานะเข้าเรียนที่นี่ได้ เจ๋งๆ” แฟรงก์เอ่ยบอก แต่ในใจกู้รสึกคุ้นชื่อพลอยนี่จริงๆ ทำไมช่วงนี้แต่เจอแต่คนชื่อพลอยนะ เด็กคนนั้นก็ชื่อพลอย น้องสาวของพิชชาภาก็ยังมาชื่อพลอยอีก อะไรจะมาตั้งชื่อลูกโหลกันขนาดนี้วะ
“ก็เก่งแบบพิชน่ะสิคะพี่ ไม่อยากจะอวดเลยแต่น้องพิชอ่ะเรียนหมอเลยนะคะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็หัวเราะคิกคักอย่างภูมิใจในตัวของน้องสาว
“ไม่ขนาดไม่อวดนะ ถ้าอวดจะขนาดไหน ไปนั่งนู้นไปมัวแต่โม้กับไอ้แฟรงก์อยู่นั่นแหละ” ฟรานติโน่พูดไปก็มาโอบไหล่ของพิชชาภาแล้วพาเดินมาหาที่นั่งรอน้องสาวของพิชชาภา แต่มีเสียงเรียกชื่อพิชชาภาดังขึ้นมาซะก่อน
“พี่พิช พลอยอยู่นี่ค่ะ” พลอยลดาเดินตามหาพี่สาวอยู่นานพอเจอพี่สาวเธอก็รีบเอ่ยเรียกทันที ก่อนจะเห็นมีผู้ชายหน้าตาออกแนวฝรั่งกำลังโอบกอดพี่สาวของเธออยู่ คงจะเป็นพี่ฟรานติโน่แน่ๆ พลอยลดารู้จักฟรานติโน่เพราะพิชชาภาเล่าเรื่องของฟรานติโน่ให้เธอฟังแล้วว่าเขาคือแฟนของพี่สาว
“ยัยพลอย คิดถึงเราจังเลย” พิชชาภาหันมามองก็ยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นน้องสาว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปกอดน้องสาวที่กำลังวิ่งมาหาเธออย่างดีใจ
“พลอยก็คิดถึงพี่พิชค่ะ คิดถึงมากๆเลยด้วย” พลอยลดากอดพี่สาวอย่างรู้สึกอบอุ่นใจ ก่อนจะพูดไปพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าอย่างดีใจที่พี่สาวมาหาเธอที่นี่ เพราะนี่ก็เกือบสามเดือนแล้วที่เธออยู่ที่อเมริกา
