บทที่ 4 บทที่ 4

“เรื่องนี้ผมคงห้ามคุณหนูไม่ได้ แต่ว่า...เรื่องเจ้าพายุ...”

“ทำไมคะ เจ้าพายุมันน่ารักจะตาย”

“ผมไม่ได้หมายถึงเจ้าพายุครับ แต่เป็น...เอ่อ...มาโน่นแล้ว”

ไม่ทันขาดคำ เสียงห้าวห้วนกระด้างหยาบคายก็ดังขึ้น

“เธอมีสิทธิ์อะไรถึงขโมยเจ้าพายุมาที่นี่”

พลับพลึงดันปีกหมวกกว้างให้เริ่ดขึ้นเพื่อมองคนตัวโตหน้าดุกระโดดลงจากรถคันโต แล้วแทบกระโจนเข้ามาเคล้นคอเธอ

“พลับไม่ได้ขโมยนะคะ แค่ขอยืม”

“ขอยืมกับใครไม่ทราบ”

ไม่กี่ก้าว ร่างสูงใหญ่ก็เข้ามายืนตรงหน้าให้ต้องเงยคอขึ้นมอง วีกิจเห็นท่าไม่ดีก็ออกตัวแทนสาวน้อย

“คุณหนูกำลังจะเอาไปคืนพ่อเลี้ยงน่ะครับ”

“ใครถาม?” เจอคำถามย้อนเข้าให้วีกิจก็ต้องหลบตาวูบ

“พลับตะโกนขออารัณแล้วนะคะก่อนจะขี่มันออกมา แล้วก็คิดว่าจะเอาไปคืนก่อนอารัณจะออกมา”

“ตะโกนขอ? มารยาททรามมากๆ เลยนะพลับพลึง ไล่ก็ไม่ไปแถมยังจะขโมยของคนอื่นอีก นี่มาสร้างความวุ่นวายหนักใจให้นายกิจทำไม งานในไร่โน้นไม่มีให้ทำหรือไง”

ดรัณโมโหที่เธอขี่เจ้าพายุออกมาโดยไม่ขออนุญาต แต่ยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังหัวร่อต่อกระซิกกับหัวหน้าคนงานของเขา งานการที่ไร่ไม่รู้จักทำกลับมายั่วผู้ชายในไร่อื่น

“ที่ไร่โน้นไม่มีอะไรให้ทำค่ะ” พลับพลึงปดคำโต “พลับเห็นว่าพี่กิจงานยุ่งก็เลยมาช่วย”

“มาช่วยหรือมาอ่อยเหยื่อ นอกจากเธอจะยั่วขึ้นขี่หลังพายุได้แล้ว ยังคิดจะยั่ววีกิจอีกเหรอ หน้าด้านจริงๆ”

พลับพลึงไม่คิดว่าจะถูกด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงขนาดนี้ อารัณของเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ผู้ชายไร้เหตุผลตรงหน้าไม่ใช่อารัณที่เธอรู้จักและยกย่องเทิดทูน

“จะมากไปแล้วนะคะ อารัณไม่มีสิทธิ์จะว่าพลับแบบนี้”

“ทำไมจะว่าไม่ได้ คนที่เหยียบบนผืนดินของไร่อิงฟ้าต้องอยู่ในอาณัติของฉันทั้งหมด แล้วตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในไร่ของฉัน ทำไมเจ้าของไร่อย่างฉันจะว่าเธอไม่ได้ ไม่อยากให้ว่าก็กลับไปไร่ของเธอซะ แล้วอย่าเสนอหน้ามาที่นี่อีก”

“อารัณ!!! พลับไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหมคะในสายตาของอารัณน่ะ” เธอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อเต็มกำลัง เจ็บช้ำดวงใจที่ยังพิศวาสเขาไม่คลาย ถึงจะโดนดูหมิ่นแค่ไหนเธอก็ยังหน้าด้านเข้ามาในไร่อิงฟ้าเพียงเพราะต้องการจะเห็นหน้าเขาอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ

“ผู้หญิงแก่นกะโหลกกะลาอย่างเธอ ไม่อยู่ในสายตาของฉันหรอกพลับพลึง ถึงเธอจะเป็นขวัญใจของผู้ชายกลัดมันก็เถอะ”

“แม้แต่ในฐานะ...หลาน ก็ไม่ได้หรือคะ”

“แน่นอน ลูกหลานของฉันจะต้องว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ พูดจากันรู้เรื่อง น่ารักอ่อนหวานเหมือนผ้าพับไว้ ไม่ใช่วิ่งโร่มาหาผู้ชายกลัดมันถึงในไร่แบบนี้”

“ทำไมต้องว่าพลับแรงขนาดนี้ด้วย พลับไปทำอะไรให้อารัณกัน ทำไมอารัณต้องรังเกียจพลับขนาดนี้ ทีเมื่อก่อน...”

“อย่าพูดถึงอดีต สำหรับฉันอดีตคือสิ่งที่ฉันอยากลืมทั้งหมด”

“แต่ไม่เคยลืมได้สักที เพราะถ้าลืมอารัณจะไม่เป็นแบบนี้”

“อย่าทำมารู้ดีหน่อยเลย เธอเพิ่งจะกลับมาไม่นานจะไปรู้อะไร จะออกไปจากไร่ของฉันได้หรือยัง”

ทุกครั้งที่พลับพลึงต้องปะทะอารมณ์กับดรัณ เธอไม่เคยจะรู้สึกเหนื่อยใจได้ขนาดนี้ ทว่าครั้งนี้มันรุนแรงเกินไป เขาทำเหมือนรังเกียจผู้หญิงทุกคน ไม่อยากเห็นหน้าไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหน ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเคยเป็นคนที่เขากอดและหอมแก้มบ่อยๆ หรือแม้แต่จะอุ้มชูขึ้นสูงๆ ก็ทำมาแล้ว

ทำไม?

“พลับไม่ออก” พลับพลึงอยากดื้อให้ถึงที่สุด เธอต่อต้านเต็มที่จะปักหลักอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าเขาจะไล่ราวหมูกับหมาด้วยวาจารุนแรงขนาดฟังไม่ได้ เธอก็จะทน

“หน้าด้าน วันนี้ฉันไล่เธอกี่ครั้งแล้วฮึ เธอก็หน้าด้านยังทนอยู่เพื่ออะไร อ้อ...ยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการสินะ อยากได้นักก็บอกพ่อกับแม่เธอมาสู่ขอนายกิจให้เรียบร้อยซะสิ แล่นมาแล่นไปแบบนี้เดี๋ยวก็ป่องขึ้นมาได้งามหน้างามตระกูลกันบ้าง”

“เพียะ!!!” หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าสะบัดมือใส่หน้าเขาได้อย่างไร เธอตั้งใจแล้วว่าจะอดทนให้ได้ ทนให้เขาเป็นฝ่ายเหนื่อยเดี๋ยวก็หยุดไปเอง แต่มันเป็นปฏิกิริยะอัตโนมัติร่างกายทุกส่วนเกร็งจนกระตุกแล้วเผลอสะบัดมือเต็มแรงจนหน้าคมเข้มแดงเถือก

“นะ...อารัณว่าพลับก่อนนะ ผีบ้ามันเข้าสิงอารัณ พลับเลย...เลย...”

“ออกไปให้พ้นหน้าฉัน แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไป!!!”

สาวน้อยน้ำตาไหล เธอรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปสุดขั้วเพราะอะไร แต่ทำไมกับเธอเขาถึงต้องรังเกียจ เขาจะเกลียดผู้หญิงทุกคนในโลกเลยหรือไง เกลียดแบบไร้เหตุผลสิ้นดี นี่น่ะหรือคนที่เธอเคยวางเขาไว้บนหิ้ง คนที่เธอรักและเชิดชูมาตลอด เขาที่เป็นเจ้าของหัวใจทั้งสี่ห้องของเธอ

“ยังไม่ไปอีก” ดรัณกระชากแขนพลับพลึงเหวี่ยงร่างน้อยเหมือนขยะไร้ค่า “ไป!!”

วีกิจเองได้แต่อ้าปากค้าง เขาก็ไม่คิดว่าอารมณ์โกรธของพ่อเลี้ยงจะรุนแรงเพียงนี้ ถึงจะโหดเหี้ยมมาหลายปีก็ยังไม่เคยเห็นทำร้ายร่างกายผู้หญิง แล้วทำไม...

อดีตของดรัณคนทั้งจังหวัดคงรู้กันทั่ว ความเจ็บปวดที่ทำให้คนดีๆ มีแต่คนยกย่องสรรเสริญต้องเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือดูจะมีอนุภาพมากกว่าที่ใครๆ คาดคิด กับสาวน้อยที่เขารักดั่งหลานก็ยังไม่ละเว้น น่าสงสารคุณหนูพลับพลึง

“พ่อเลี้ยงครับ อย่าทำคุณหนูเลยครับ” วีกิจเอ่ยปากเมื่อดรัณทำท่าเหมือนจะเข้าไปซ้ำ

“นายสงสารหล่อนนัก ก็พาคู่ขานายกลับไร่ไปแล้วอย่าพามาพลอดรักกันในไร่ของฉันอีก ไม่งั้นนายก็ออกไปเลย ไม่ต้องทำงานที่นี่ต่อไป”

“อารัณบ้า ใจร้าย อารัณไม่ใช่คน พลับกับพี่กิจไม่ได้เป็นอย่างที่อารัณเข้าใจ ผีห่าซาตานตนไหนเข้าสิงถึงทำให้อารัณเป็นแบบนี้ คอยดูเถอะ พลับจะเอาหมอผีมาปราบให้อารัณเป็นคนเดิม” พลับพลึงลุกขึ้นโดยมีวีกิจประคอง วีกิจไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าอยากจะช่วยหญิงสาว แต่ท่าทีปกป้องของเขาก็เพิ่มพูนความเกรี้ยวโกรธให้ดรัณโดยไม่รู้ตัว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป