บทที่ 11 11
“เงินเดือนเธอไม่ใช่เงินเดือนฉัน คุณแม่จะหักเงินเดือนเธอแต่ฉันขอเตะเธอสักทีได้ไหมยัยเขมศรีจอมเจ้ากี้เจ้าการดีนัก ปล่อยสิบอกให้ปล่อยแล้วออกไปได้แล้ว”
“ว้าย!!! คุณพี ใจร้าย ไม่มีมนุษย์ธรรมกับกระเทยเลยนะคะเนี่ย” เขมศรีทำสีหน้าผิดหวัง
คุณมือแกะมือที่เกาะแขนล่ำ ๆ ของเขาออก สาวประเภทสองคนงามรีบปล่อยแขนชลลัมพีทันที พร้อมท่าทางสะบัดสะบิ้งและสายตามองค้อน “หน้าตาก็หล่อราวกับเทพบุตร แต่พูดจาเข้าสิอย่างกับอสูรกายปากร้ายจริงเชียวคุณพีนี่ แต่งงานแล้วขอแช่งให้กลัวเมีย” พร้อมกับเมินหน้าหนีเหมือนงอน
ชลลัมพีส่งยิ้มร้ายและหัวเราะเบา ๆ “จะร้ายกว่านี้อีกถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉันยัยเขม พูดมากเดี๋ยวจะจับโยนออกไปนอกหน้าต่าง” ชลลัมพีทำหน้าบอกบุญไม่รับแต่เขมไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มเป็นคนใจดีวาจาขวานผ่าซากแต่เนื้อแท้นั้นไม่ได้ใจร้ายเป็นยักษ์เป็นมารเหมือนสีหน้าท่าทางที่แสดงออก
เขมศรีชักสีหน้า “โธ่! แกล้งเขมอยู่ได้เร็วสิคะคุณพี รีบลงไปดูสิคะวันนี้คุณบุษเธอสวยผิดหูผิดตาแค่ไหนชุดเมื่อช่วงเช้าว่างาม
เหมือนนางในวรรณคดี แต่ชุดฉลองมงคลสมรสคืนนี้เธอยังสวยเหมือนซิลเดอเดลราอีก นี่ถ้าไม่รู้ว่าคุณบุษบาบัณอายุสามสิบสอง
เขมต้องคิดว่าเธออายุไม่เกินยี่สิบห้า คุณพีนี่ตาถึงจริง ๆ ใครจะคิดว่าคุณป้าเลขาที่แต่งตัวเฉย ๆ สวมแว่นตาหนาเตอะแค่ถอดแว่นตาและจับไปขัดสีฉวีวรรณทำผมเสียใหม่แค่นี้ก็ ไฉไลไม่แพ้ดารา….อ้อที่สำคัญคงไม่มีใครคิดว่าที่คุณพีแกล้งว่าแกล้งใช้งาน และเรียกคุณบุษว่ายัยป้าเลขา ที่แท้เป็นการสับขาหลอกให้ทุกคนจับไม่ได้ว่าคุณพีกำลังคบหาดูใจกับเลขาของตัวเอง แหม...ช่างแนบเนียนจังเลยนะคะเจ้านาย” สายตานางต้นห้องของมารดามองมาที่เขาอย่างจับผิดมากกว่าจะชื่นชม
ชลลัมพีรู้สึกร้อนตัวขึ้นมา “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเขม เธอก็รู้นี่ว่าเรื่องรักในที่ทำงานคือเรื่องต้องห้ามหากไม่มั่นใจใครล่ะจะกล้าเปิดเผยตัวที่ผ่านมาฉันทำแบบนั้นกับบุษเขาก็เพราะว่าคนจะได้ไม่สงสัยเรื่องของเรา เพราะไม่งั้นเดี๋ยวคนในบริษัทจะพูดไปว่านายชลลัมพีทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดมันจะไม่ดีต่อระบบการปกครองเข้าใจไหม”
เขมศรียิ้มและมองชลลัมพีอย่างรู้ทันก่อนจะถอนหายใจ “แสดงว่าแม่พวกดารา นักร้อง พริตตี้ที่คุณพีควงร่อนไปเร่มาเข้าโรงแรมโน้น ออกโรงแรมนี้ บินไปกินตับไกลยังต่างประเทศบ้างก็มีนั่นก็คือแผนการลวงสับขาหลอกให้คนเข้าใจผิดใช่ไหมคะ”
ชลลัมพียิ้มกว้างแววตาเอาเรื่องนางต้นห้องของมารดา ที่แอบกัดเขา “รีบออกไปเลยก่อนที่เธอจะถูกฉีกแขนฉีกขาและโยนออกไป อย่าได้ทำตัวสู่รู้หรือทำตัวเป็นหน่วยสอดแนมเข้าใจไหม” จากนั้นเจ้าของใบหน้าคร้ามคมก็ยื่นมือมาทำท่าว่าจะบีบคอเลขาคนปัจจุบันของมารดาจริง ๆ
เขมศรีร้องวีดว้ายทำท่าเหมือนกลัว ก่อนจะหัวเราะพร้อมไหวไหล่และหมุนตัวกำลังเดินออกไป แต่หันกลับมาบอกว่า “กลัวแล้วค่ะคุณพีขา อ้อ..ลืมบอกอีกเรื่องกิ๊กเก่า คนที่มีข่าวฉาวกับคุณพีก็มานะคะ คุณรินลณีน่ะ แย่จริงคนอะไรแต่งตัวมาร่วมงานแย่งซีนเจ้าสาวช่างไม่มีมารยาทเสียเลยชิ! ไปดีกว่า”
พอได้ยินว่ารินลณีมาร่วมงานนี้ชลลัมพีมีสีหน้าประหลาดใจ “เอ่อ...รินมางานนี้ด้วยเหรอ” เธอคือคนที่เขาเคยคิดว่าจะแต่งงานด้วย แล้วเป็นผู้หญิงที่เขาคบจริงจังมากที่สุดเคยรักมากที่สุด
“ไม่ทราบสิคะเขมไม่ได้สนใจ พอดีคุณหญิงรีบให้มาตามคุณพีเสียก่อน” เพราะอยู่ใกล้คนรู้ใจของมารดาชลลัมพีจึงพยายามสะกดกั้นไม่ให้เขมจับพิรุธได้
“บอกคุณแม่กับบุษบาบัณว่าผมเสร็จแล้วจะรีบตามลงไปรับแขกก็แล้วกัน”
เขมศรีหันมาพยักหน้ารับคำ “ได๋ค่ะเจ้านาย.แต่น่าสงสารคุณบุษบาบัณจริง ๆ นะคะ เจ้าสาวสวยซะขนาดนี้แต่ถูกแย่งซีนเพราะแม่ดารานั่นใส่ชุดราตรีโชว์เต้าขาว ๆ โผล่มาครึ่งเต้า หน้ากับนมคุณพีก็น่าจะรู้ว่านักข่าวจะเลือกถ่ายอะไรมากกว่า รัวชัตเตอร์กันแทบไม่ทัน แหม...ทำไปได้” น้ำเสียงคนพูดบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ชอบรินลณีอดีตแฟนเก่าของเขาอย่างแรง
“พอ ๆ ได้แล้วเลิกวิจารณ์คนอื่นเถอะยังไงบุษบาบัณเขาเป็นเจ้าสาวมืออาชีพอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้เขาไม่คิดมากหรอก บุษบาบัณเขาน่ารักและหนักแน่นพอเชื่อผมสิ รินเองเขาก็คงไม่ได้ตั้งใจมาแย่งซีนใครทั้งนั้นเขาเป็นดาราดังไปที่ไหนพวกนักข่าวก็ให้ความสนใจอยู่แล้ว”
“เจ้าสาวมืออาชีพหมายความว่ายังไงคะคุณพี” เขมศรีสบตาชลลัมพีและลอบจับผิด
