บทที่ 3 หวนคืนอีกครา

กล่าวกันตามตรง ก็ดูเหมือนว่าฟ่านหรันซีมิอาจรักษาทั้งลมหายใจของตน อีกทั้งเป็นการยากหากจะยื้อทารกในครรภ์เอาไว้ สุดท้ายเหตุการณ์ครั้งนี้คงไม่พ้น หนึ่งศพสามชีวิต

ในขณะผู้เป็นสามี คลุ้มคลั่งจัด ใช้ดาบฟันร่างของขันทีราวกับคนเสียสติ

หญิงสาวกัดฟันแล้วลุกขึ้น นางเลิกสนใจเหตุการณ์ในห้อง ส่วนคนอื่นๆ ก็พยายามหนีตายเอาตัวรอด จึงไม่มีใครคิดห้ามไม่ให้นางออกจากห้องทำคลอด

และฟ่านหรันซีรู้ว่า การจะหยุดยั้งการบ้าเลือดของคนอย่างหลี่ ก็คือนางต้องจากไปเสีย มิเช่นนั้น อีกไม่นานที่นี่คงมีศพกองเป็นภูเขา และพื้นกลายเป็นทะเลเลือด

นอกเหนือจากนั้น หากนางตายไปเสียการต่อสู้ข้างนอกย่อมยุติลง ไม่มีใครต้องล้มตายอีก การเสียสละของนางจึงเป็นสิ่งจำเป็น และนางก็ทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไฉนจะกัดฟันเดินหน้าต่อไปอีกไม่ได้

“ทะ ท่านอ๋อง พระชายาหายตัวไปขอรับ”

เสียงหนึ่งดังเตือนสติหลี่สิงหยาง เมื่อได้ยิน เขาจึงเขวี้ยงดาบทิ้ง แล้วออกตามหาสตรีที่ยามนี้เขารับรู้ทั้งหมดแล้วว่า ตนกระทำผิดต่อนางมากเพียงใด

“หรันซี... จะ เจ้าอยู่ที่ใด”

เสียงดังกลาวร้อนรน ทั้งเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

กระทั่งได้เห็นว่าร่างในชุดเสื้อผ้าขาว ซึ่งย้อมด้วยสีเลือดของนางก้าวอย่างลำบากขึ้นไปบนกำแพงสูง แม้ขนาดท้องที่ใหญ่โตแต่นางกัดฟันใช้แรงเฮือกสุดท้ายพาตนเดินไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมาย

โอ้ ภาพนี้ซ้อนทับฉากจบชีวิตของมารดาเขา และชายหนุ่มย้อนความทรงจำอันแสนเศร้าและชวนให้หัวใจสลาย นางถูกคนบังคับให้ขึ้นไปบนกำแพง ก่อนที่ใครอีกหลายคนจะใช้สายธนูดึงรั้งลำคอระหงไว้เพื่อให้ขาดอากาศ สุดท้ายก็จับห้อยร่างแขวนคอบนกำแพงสูง

“หรันซี!”

ชายหนุ่มเข้าใจเจตนาของนางแล้ว ยามนั้นจึงใช้ความเร็วของตนตามนางไปอย่างไม่ลดละ ทว่าฟ่านหรันซีเป็นลูกสาวของแม่ทัพ ทั้งยังเป็นสตรีที่เด็ดเดี่ยว จิตใจนางหนักแน่น เมื่อตั้งมั่นทำสิ่งใดก็ไม่คิดหันหลังกลับ

หลี่สิงหยางอยู่ห่างฟ่านหรันซีเกินไป เขาจึงไม่อาจคว้าร่างของนางได้

และสิ่งที่อยู่ในมือเขากลับเป็นเพียงแขนเสื้อคลุมตัวนอกของนางที่ถอดออก พร้อมจดหมายฉบับหนึ่งที่จงใจทิ้งไว้ต่างหน้าเขา ซึ่งนางคงเขียนมันไว้ก่อนหน้านี้

“ชาตินี้มิอาจหย่าขาดสำเร็จ แต่สุดท้าย ข้ากับลูกก็เป็นอิสระจากหยางอ๋องแล้ว!”

และนางล่วงหล่นลงจากกำแพงสูง เบื้องล่างมีกระถางน้ำมันเดือดพล่านและเปลวไฟกำลังดิ้นเร่าๆ รอรับร่างฟ่านหรันซีกับอีกสองชีวิตที่อยู่ในครรภ์นาง!

“หรันซี!”

หลี่สิงหยางตะโกนสุดเสียง ดวงตาเขากลายเป็นสีแดงก่ำ น้ำตาที่ไหลออกมาก็เป็นดั่งเลือด

และฉากจบของฟ่านหรันซีในชาติก่อน... ถูกบันทึกไว้เพียงเท่านี้

ส่วนชีวิตของหลี่สิงหยางต่อจากนั้นคือการเข่นฆ่า คนที่มุ่งร้ายต่อเขา และขัดขวางการขึ้นเป็นรัชทายาท โดยภายหน้าคนผู้นี้ จะกลายเป็นราชาอำมหิตที่ทำให้ทั้งฟ้าสวรรค์ หรือแม้กระทั่งนรกยังต้องสั่นสะเทือน!


ณ อารามศิลาแดง

ดวงตากลมโตมองภาพเบื้องหน้าผ่านช่องเล็กๆ ของหน้าต่าง หัวใจสาวเต้นไหวโครมคราม บุรุษผู้นั้นขึ้นคร่อมร่างงดงามผิวขาวอมชมพู อีกฝ่ายมีใบหน้าละม้ายกับผู้ที่แอบมองอยู่ตรงนี้

เอ แอบมองเยี่ยงนั้นหรือ ไฉนนางถึงทำเรื่องไม่สมควรได้ ทว่าแม้สมองบอกเช่นนั้น แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ขยับไปไหน กับใจระทึกและซาบซ่านในร่มผ่ากับสิ่งที่เห็นผ่านตา

“อื้อ... อ่าส์... เปิดปากเจ้าออกสิ แล้วให้ข้าใช้ลิ้นด้านในนั้น ขาด้วยแยกให้กว้าง ดูสิ เนื้อหวานของเสี่ยวรั่ว มันอยากกลืนกินความแข็งแกร่งข้าแล้ว”

“อี๊ๆ ๆ ขะ ข้า ทำไม่ได้”

นางปฏิเสธ ทว่าอารมณ์สตรีที่นอนราบบนกองฟางนั้น ยั่วยวน และส่งแรงสิเน่หาถึงชายหนุ่มที่ต้องการระบายกำหนัดถึงนาง

“ดี... ลิ้นเล็กๆ นั้น น่าดูดเลียโดยแท้”

“คุณชาย โอ้ ขะ ข้า รู้สึกมะ มะไหวแล้ว”

นางออดอ้อนต่อ และยังแยกขากว้างจนคนที่อยู่ด้านนอกห้อง ตะลึงพรึงเพลิด คาดไม่ถึงว่าลูกพี่ลูกน้องที่ตนรู้จัก จะกระทำเรื่องต้องห้ามกับบุรุษในที่ลับตาคนเช่นนี้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป