บทที่ 9 เมียพฤตินัย (25%)

ค่ำนี้ดูเหมือนเซซาเรจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะมีแม่ม่ายสาวสวยมาคอยออดอ้อนออเซาะและตักอาหารเอาใจอยู่ไม่ห่าง แถมคนที่ทำให้เขาขวางหูขวางตาอย่างปรเมศยังเอ่ยขอตัวกลางคัน เนื่องจากคุณหมอหนุ่มมาดกวนติดเคสผ่าตัดสมองด่วน

ท่าทางออดอ้อนออเซาะจนเกินงามทำให้นางสอางค์นั่งหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ นึกอยากจะหยิกพ่อตัวดีให้เนื้อเขียวยิ่งนัก กระแอมเตือนคนทั้งคู่อยู่หลายครั้ง ครั้นทนไม่ไหวคนแก่ก็ลุกจากโต๊ะอาหาร พร้อมเอ่ยชักชวนให้เหลนตัวน้อยที่อิ่มก่อนไปฟังนิทานก่อนนอน

ส่วนอ้อนรักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสามีเห็นภาพบาดตาบาดใจมาตลอดก็อิ่มตื้อตั้งแต่กินข้าวได้ไม่กี่คำ ไหนจะเรื่องการหย่าที่จะเกิดขึ้น มันพลอยทำให้เธอกินอะไรไม่ลงเอาเสียดื้อๆ ทว่าครั้นจะลุกตามผู้เป็นย่าเเละหลานตัวน้อยไป เซซาเรกลับเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป”

“คุณมีอะไรกับฉันก็พูดมาเถอะค่ะ”

“ฉันอยากได้น้ำมะนาว”

ประโยคที่จอมบงการผู้ยิ่งใหญ่พ่นออกมาทำให้คนฟังลอบกลอกตา เพราะนี่ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่มันคือประโยคคำสั่งแสนเผด็จการที่ต้องปฏิบัติตามเท่านั้น ครั้นจะวานสาวใช้ให้ช่วยจัดการก็ไม่ได้ เพราะนางสอางค์อนุญาติให้ทุกคนไปเที่ยวงานวัดประจำปีตั้งแต่จัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“รอสักครู่ค่ะ” สาวน้อยพยายามสูดลมหายใจระงับอารมณ์ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ

จากนั้นอ้อนรักก็หมุนตัวเดินลิ่วจากไป วาจาออดอ้อนหวานหูที่ดังไล่หลังมาหลอกหลอนทำให้แม่สาวหวานถึงกับน้ำตาซึมด้วยความอัดอั้นตันใจ

การเป็นภรรยาแสนชังของสามีมันเจ็บปวดหัวใจมากอยู่แล้ว แต่การที่เขาควงผู้หญิงคนอื่นมาเย้ยถึงถิ่นนั้นกลับเจ็บปวดแสนสาหัสยิ่งกว่า

“เสร็จหรือยัง”

ระหว่างที่สาวน้อยกำลังเอาน้ำมะนาวเย็นๆ ซึ่งคั้นติดตู้เย็นเป็นประจำเทลงในแก้ว เสียงแข็งๆ ก็เอ่ยขึ้น ก่อนที่เพชรพริ้งจะเดินเชิดหน้าเข้ามาในครัว

“เสร็จแล้วค่ะ” หลังจากจัดแก้วน้ำมะนาวใส่ถาดอ้อนรักก็เชิดหน้าเอ่ยตอบเสียงแข็งกระด้างพอกัน เรื่องอะไรเธอจะต้องก้มหัวให้ผู้หญิงไร้ยางอายตรงหน้า ถึงแม้จะเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ใช่ว่าเธอจะยอมให้ใครมาข่มเหงรังแกได้ง่ายๆ หากอีกฝ่ายร้ายมาเธอก็จำเป็นจะต้องร้ายกลับเพื่อปกป้องตัวเอง

“เสร็จแล้วก็เอามานี่” แม่ม่ายสาวว่าพลางเดินชนร่างอ้อนแอ้น แล้วฉวยถาดน้ำมะนาวมาถือไว้ ก่อนจะหมุนตัวออกไปจากห้องครัว ทว่าไม่นานหล่อนก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้ จึงหันมาจิกตาใส่พร้อมเอ่ยเสียงกระด้าง

“หวังว่าหล่อนจะไม่ไปขัดความสุขของฉันกับเซตนะ”

“เห็นทีจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันต้องไปเก็บจานมาล้าง เอ๊ะ…หรือว่าคุณจะเก็บมาล้างเอง” อ้อนรักลอยหน้าสวนกลับด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง ทว่านัยน์ตากลับท้าทาย ทำเอาอีกฝ่ายแทบเต้นเป็นเจ้าเข้า เพราะคาดไม่ถึงว่ายัยเด็กหน้าจืดที่ดูภายนอกหงิมๆ สนิมสร้อยจะร้ายลึกขนาดนี้

“เอ๊ะ…นังนี่! ฉันเป็นแขกของผัวหล่อนนะยะ” เพชรพริ้งตวาดลั่นด้วยความโมโหสุดขีด

“หึ…ดีนะคะ ที่ยังสำนึกได้ว่าตัวเองเป็นแค่ ‘แขก’ ของผัวคนอื่น”

“ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละย่ะ เพราะทันทีที่เซตหย่ากับหล่อนฉันก็จะมาแทนที่หล่อน เป็นเมียที่เขารัก ไม่ใช่เมียแสนชังที่เขารังเกียจอย่างหล่อน”

วาจากระแทกแดกดันทำให้คนฟังข่มใจอย่างสุดฤทธิ์ ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ ให้อีกฝ่ายรู้ว่ามาดนางร้ายของหล่อนไม่สามารถทำอะไรเธอได้ แล้วตอบโต้ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“แหม…ชอบกินของเหลือเดนก็ไม่บอก แต่คงต้องอดใจไว้ก่อนนะคะ รอให้เขาเซ็นใบหย่าให้ฉันก่อนแล้วกันถึงมาประกาศปาวๆ ว่าจะมาแทนที่ฉัน เพราะหากกระโตกกระตากไปก่อนที่ฝ่ายชายจะทันได้พูดอะไรมันดูไม่งามค่ะ คุณก็ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนนี่คะ น่าจะรู้ดีแก่ใจว่าอะไรควรไม่ควร”

กล่าวจบอ้อนรักก็จงใจเดินชนไหล่อีกฝ่ายออกไปจากห้องครัว ทิ้งให้คนที่โดนตอกหน้าด้วยถ้อยคำเหน็บแนมแบบผู้ดีจ๋าแต่บาดลึกถึงทรวงในถึงกับสะอึกไปชั่วขณะ

เพชรพริ้งยืนกัดฟันกรอดๆ พยายามระงับจิตระงับใจไม่ให้ตัวเองเผลอกรีดร้องออกมา ถ้าไม่เกรงว่าจะถูกเซซาเรมองไม่ดีล่ะก็หล่อนจะตามไปจิกหัวนังหน้าจืดนั่นมาตบสั่งสอนเสียให้เข็ด

หลังจากยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ แม่ม่ายสาวก็หันซ้ายแลขวา ครั้นเห็นว่าปลอดคนหล่อนก็หยิบซองอะไรบางอย่างที่เหน็บไว้ข้างเอวเทลงไปในแก้ว จากนั้นก็ถือถาดน้ำมะนาวหมุนตัวเดินลิ่วออกจากห้องครัว

ทันทีที่มาถึงโต๊ะอาหารเพชรพริ้งก็หันไปยิ้มเย้ยให้คนที่กำลังเก็บจาน ก่อนจะส่งยิ้มหวานหยดพร้อมเสิร์ฟน้ำมะนาวให้เซซาเร แล้วหย่อนสะโพกดินระเบิดลงนั่งข้างๆ เขา

ครั้นเห็นชายหนุ่มยกแก้วน้ำมะนาวขึ้นดื่มรวดเดียวแม่ม่ายสาวก็กระตุกยิ้มตรงมุมปากสีแดงสดด้วยความสมใจ ก่อนจะเอ่ยถามคนที่หล่อนหมายมั่นปั้นมือว่าจะจับทำสามีเสียงหวานหยด

“อร่อยไหมคะ”

“อืม…แก้เลี่ยนได้ดีเชียวล่ะ แล้วคุณไม่กินหรือไง”

“ไม่ล่ะค่ะ พริ้งอิ่มจนพุงกางแล้ว”

“คุณมีพุงที่ไหนกันเล่า…” เซซาเรเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ทว่าเสี้ยววินาทีถัดมารอยยิ้มที่แต่งแต้มตรงมุมปากหยักก็ค่อยๆ หุบลง เมื่ออยู่ๆ อาการร้อนวูบวาบพลันบังเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ความผิดปกติแบบปัจจุบันทันด่วนทำให้คนเจ้าอารมณ์กัดฟันกรอด ก่อนจะหลุดสบถออกมา

“บัดซบ! ใครเป็นคนคั้นน้ำมะนาว!”

“ก็เมียคุณนั่นแหละค่ะ” เพชรพริ้งใส่ร้ายคนที่เดินเอาเศษอาหารไปเทลงถังขยะอย่างหน้าไม่อาย อะไรที่จะทำให้เขาเกลียดและขยะแขยงแม่นั่นได้หล่อนพร้อมจะทำ

“ระยำเอ๊ย!” คราวนี้เซซาเรถึงกับคำรามลั่น กระแสความร้อนแปลกๆ เริ่มแผ่ขยายไปทั้งสรรพางค์กาย

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” แม่ม่ายสาวแสร้งเอ่ยถามด้วยความตกอกตกใจ ทั้งที่ข้างในกระหยิ่มยิ้มย่องสุดฤทธิ์ จากนั้นก็วาดมือไปลูบไล้แขนกำยำคล้ายเป็นห่วงเป็นใย หากแต่จริงๆ แล้วหล่อนรู้ดีว่าการแตะต้องเนื้อตัวอีกฝ่ายเป็นการกระตุ้นเร้าชั้นดี อีกไม่นานเขาจะต้องตบะแตกอย่างแน่นอน

“ผมไม่เป็นไรหรอก นี่ก็ดึกแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” เซซาเรปัดมือเรียวออกจากแขนตัวเอง แล้วเอ่ยเสียงแข็งปนหอบหนักๆ ก่อนจะลอบมองคนที่ได้ชื่อว่าเมียซึ่งเพิ่งเดินกลับมายังโต๊ะอาหารด้วยสายตาชนิดหนึ่ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เพชรพริ้งยอมไม่ได้ แผนนี้หล่อนอุตส่าห์เทหน้าตักเสี่ยงสุดชีวิต แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้แม่เมียตีทะเบียนมาชุบมือเปิบ คิดได้ดังนั้นสาวเจ้าก็เอ่ยถามย้ำคล้ายเป็นห่วงอีกฝ่ายเสียเต็มประดา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป