บทที่ 3 อดีตที่เคยพัง (50%)

สามวันแล้วที่อารญามานั่งรอธีรเดชอยู่แถวๆ หน้าแผนกฉุกเฉินในโรงพยาบาลรักษ์ สองวันที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้พบหน้าเขา เรื่องที่อยากคุยก็ยังไม่ได้คุย เพราะอีกฝ่ายจงใจเลี่ยง แต่กระนั้นเธอก็ไม่ย่อท้อ หลังจากเรียนเสร็จในช่วงบ่ายอารญาก็มานั่งรอเขาที่เดิม เพิ่มเติมคือเธอเตรียมเสบียงมาด้วย เมื่อสองวันก่อนมารอเก้อกว่าจะเดินคอตกออกไปจากโรงพยาบาลก็ค่ำมืด กลับถึงคอนโดค่อนข้างดึกถึงได้กินข้าว ผลปรากฏว่าเธอแสบท้องหลังจากนั้น

อารญานั่งกอดอกรอด้วยความอดทน ส่วนสายตาหมองๆ ก็ทอดมองไปข้างหน้าไม่กะพริบ เพราะกลัวคนที่เธออุตส่าห์มารอเป็นวันที่สามจะคลาดสายตา ก่อนหน้าราวๆ ชั่วโมงเธอเห็นเขาเดินเร็วๆ เข้าห้องฉุกเฉินไป ที่ไม่ได้เอ่ยเรียกเอาไว้ เพราะเข้าใจว่าเขาต้องทำหน้าที่ของตัวเองก่อน สำหรับหมอคนไข้ย่อมสำคัญที่สุด ส่วนเธอถึงแม้จะมีเรื่องร้อนใจ อยากคุย อยากถามเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะถอนหมั้น แต่ก็ไม่กล้าไปก้าวก่าย เพราะรู้ว่าหมอมีหน้าที่รักษาคนไข้ เช่นเดียวกับเธอที่มีหน้าที่เรียน หลังจากเรียนเสร็จเธอก็มาหาเขา แต่ก็ต้องรอเพื่อให้เขาทำงานเสร็จก่อน

หากเป็นเมื่อก่อนอารญาคงไม่รู้จักคำว่ารอ ไม่รู้จักที่จะเคารพคนอื่น และคงจะเอาแต่ใจดันทุรังบุกเข้าไปหาธีรเดชในห้องฉุกเฉิน แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างเก่า เธอรู้จักอะไรควรไม่ควร เพราะเริ่มโตขึ้นอีกหน่อย อาจจะมีฟิวส์ขาดสติแตกไปบ้างอย่างเช่นสามวันก่อนที่ตามไปอาละวาดมนธิรา แต่เธอก็เตือนสติตัวเองว่าจะไม่ทำตัวเช่นนั้นอีก เพราะผลที่ตามมามันไม่เพียงแต่ทำให้เธอถูกคนในสังคมโซเชียลรุมประณาม แต่มันยังกดให้คุณค่าของตัวเองลดลงไปด้วย

หากจะถามว่าทำไมเธอถึงรัก เทิดทูน และหวงแหน ธีรเดชนัก ก็คงต้องเล่าย้อนไปถึงอดีต หลังจากที่แม่จากไปอย่างกะทันหันในขณะที่เธอวัยเพียงสิบห้า ไม่นานพ่อก็เอาเมียอีกคนและลูกสาวเข้ามาอยู่ที่บ้าน ทีแรกเธอโวยวายประท้วงยกใหญ่ ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นหมาหัวเน่า เหมือนไม่เหลือใคร ดีที่มีธีรเดชคอยปลอบใจ คอยสอนให้มองชีวิตในอีกแง่มุม กระทั่งอารญาเริ่มปรับตัวเข้ากับเมียและลูกอีกคนของพ่อได้ จนไปๆ มาๆ เธอก็รักดาริกาประหนึ่งพี่สาวแท้ๆ ต้องขอบคุณธีรเดชที่คอยบอกคอยสอนให้เธอทิ้งนิสัยเด็กเอาแต่ใจ

ทุกอย่างมันจะดีอยู่แล้ว เธอกำลังจะก้าวผ่านไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ หากวันหนึ่งอารญาจะไม่รู้ความจริงว่าธีรเดชมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว ผู้ชายที่เธอคิดเสมอว่าเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียวมีแฟนมานานแล้ว แต่รู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วเธอก็ยังดันทุรังให้ผู้ใหญ่จัดการหมั้นหมาย การถูกบังคับให้หมั้นกับอารญาทำให้ธีรเดชค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละนิด จากเคยเอ็นดูน้องน้อย คอยเอาใจใส่ คอยทะนุถนอม กลายเป็นค่อยๆ ถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

เหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ผ่านมากว่าสามปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจากไปของแม่ในขณะที่เธอวัยเพียงสิบห้า การถูกหมางเมินเย็นชาจากธีรเดช ค่อยๆ หล่อหลอมให้อารญา เด็กสาวผู้น่ารักสดใส ช่างพูด ช่างเจรจา และออดอ้อน โตขึ้นในอีกแบบได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอกลายเป็นคนที่ค่อนข้างเย็นชา เย่อหยิ่งกับคนที่ไม่สนิท พูดน้อยกว่าเมื่อก่อนเยอะ มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง และไม่ค่อยเปิดใจคบใครเป็นเพื่อนง่ายๆ

ความเหินห่างระหว่างอารญากับธีรเดชมันเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเธอเข้าไประรานแฟนของเขาในวันเกิดของเจ้าหล่อน ซึ่งการที่เขาหมางเมิน ไม่ไยดี ไม่คอยเอาใจเหมือนอย่างเก่า ทำให้อารญาหันมาใช้นิสัยเดิมๆ เรียกร้องความสนใจ แต่นอกจากไอ้นิสัยเอาแต่ใจจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว มันยังทำให้เขารำคาญเธอหนักกว่าเดิม และผลจากที่เธอกลับมาทำตัวแย่ๆ ทั้งเอาแต่ใจ ไร้เหตุผล และระรานคนอื่น ก็ทำให้เธอต้องมานั่งหงอยอยู่ตรงนี้

“น้องคะ คุณชายหมอออกไปแล้วนะคะ”

เสียงหวานๆ ของพยาบาลสาวทำให้คนที่นั่งเหม่ออยู่ตรงโซฟาชุดรับแขกได้สติ สาวน้อยในชุดนักศึกษายิ้มบางๆ แก้เก้อ แล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายเบาๆ

“คุณพยาบาลว่ายังไงนะคะ?”

“คุณชายธีรเดชออกไปแล้วค่ะ แฟนเธอมารับ สองคนคงกลัวว่าจะมีนักข่าวแอบตามมั้งก็เลยออกไปทางประตูหลัง แต่จะบอกว่าน่ารักสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยกเลยค่ะ”

ในตอนท้ายพยาบาลเอ่ยด้วยท่าทางเพ้อๆ

“แล้วเขาจะกลับเข้ามาอีกไหมคะ”

“ไม่แล้วค่ะ วันนี้ไม่ใช่เวรของคุณชายค่ะ”

คำตอบอันน่าผิดหวังทำให้คนฟังหน้าจ๋อย พยักหน้าเล็กน้อย พึมพำขอบคุณอีกฝ่าย คว้าสายกระเป๋าที่วางข้างตัวมาคล้องไหล่ ลุกขึ้นด้วยท่าทางเนือยๆ แล้วเดินไหล่ตกออกมาจากโรงพยาบาลด้วยสภาพหัวใจห่อเหี่ยว ธีรเดชไม่ได้จะหลบนักข่าวหรอก ที่เขาออกไปทางประตูหลังก็เพราะจงใจหลบหน้าเธอต่างหากล่ะ

วันอาทิตย์เธอมาวังรื่นฤดี สถานที่พำนักของหม่อมราชวงศ์ธีรเดช ราชนิกุลหนุ่มผู้สูงส่งเพียบพร้อม และเป็นผู้สืบสกุลเพียงหนึ่งเดียวของหม่อมเจ้าเดโช กับหม่อมเจ้านภาลัย เผ่าวานิษ ณ ฤดีรังสรรค์

เพราะรู้มาว่าธีรเดชไม่มีเวรในโรงพยาบาล ฉะนั้นจึงคิดว่าการมาดักรอที่วังน่าจะทำให้เธอได้พบเขาบ้าง หลังจากคว้าน้ำเหลวมาเกือบสองอาทิตย์ สองอาทิตย์ที่เธอวิ่งตามเขาเหมือนคนบ้า ต่อให้รู้ว่าเขาจะหลบหน้าไปพร้อมกับแฟนสาว แต่อารญาก็ยังอยากพบและพูดคุยกับเขา

“คุณน้องอายคะ! รีบขึ้นไปที่ตึกใหญ่เถอะค่ะ คุณชายเธอพาแฟนมาแนะนำให้หม่อมรู้จักแน่ะค่ะ”

แม่อาบคนเก่าคนแก่ของวังเดินมารายงานหญิงสาวอย่างร้อนใจ นางเอ็นดูและรักใคร่อารญา ด้วยเห็นตั้งแต่ตัวเล็กกระเปี๊ยก เพราะพ่อของเธอซึ่งเป็นเพื่อนรักกับหม่อมเจ้าเดโชพามาเล่นที่วังบ่อยๆ ในวัยเยาว์ จึงไม่อยากให้ใครเข้ามาเป็นสะใภ้ของวังนอกจากอารญา ถึงแม้ว่าจะชื่นชอบผลงานการแสดงของมนธิราอยู่ไม่น้อย

เสียงที่ลอยมากระทบหูทำให้มือที่กำลังเช็ดใบตองพลันชะงัก แววตาไหววูบ

“พี่ธีพาคุณมนธิรามาที่นี่เหรอคะ?”

หลังจากนิ่งอึ้งไปสักพักเสียงสั่นๆ ก็ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับ ในใจร้อนรนกระวนกระวาย หากแต่ไม่อาจโผงผางทำอะไรเอาแต่ใจได้ เพราะสำเหนียกดีว่าตนไม่ควรทำพฤติกรรมแย่ๆ ซ้ำซากเหมือนอย่างที่แล้วมา แต่ก็อดนึกน้อยใจไม่ได้ ธีรเดชพาแฟนมาเปิดตัว ทั้งที่ยังหมั้นหมายกับเธออยู่แท้ๆ

เขาช่างใจร้ายนัก

หัวใจเขาทำด้วยอะไร

“ใช่ค่ะ สวยมาก กิริยามารยาทก็งาม สมกับคุณชายอย่างกับกิ่งทองใบหยก”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป