บทที่ 9 โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๔) จบตอน

หลังขึ้นจากสระบัว มธุรสก็ถูกส่งตัวไปตบแต่งตนเองพร้อมกับสาวรับใช้ที่ถูกสุวรรณราพณ์มอบหมายให้ดูแลนาง พูดคุยกันแล้วรู้สึกว่าจะชื่อสูรย์จันทร์อะไรสักอย่าง นางตบแต่งผัดแป้งให้มธุรสแล้วจึงขอตัวออกไปเนื่องจากสาวเจ้าต้องการอยู่ตามลำพัง โดยอ้างไปเรื่อยว่าตนเองยังมิชินกับที่นี่มากนัก จึงต้องการเวลาส่วนตัว

สไบสีรงทอง สวมทับด้วยสังวาลย์ที่เจียระไนด้วยเพชรสีชาด ผ้าซิ่นสีเดียวกันสวมทับได้หมดจด หญิงสาวผินหน้าซ้ายขวามองตนเองในคันฉ่อง สำรวจดวงหน้างามของหญิงสาวนามว่าเจ้าจันทร์ที่หล่อนมาประทับร่างอย่างชื่นชม

ถ้าทุกอย่างเป็นความฝัน ก็คงจะเป็นความฝันที่สมจริง เรียลลิตี้โชว์สุดๆ ไปเลย

ไออุ่น... ความเย็นเฉียบของน้ำในสระบัว ยามเมื่อถูกแตะต้อง ก็รับรู้ได้เต็มอิ่มกว่าจะเป็นภาพนิมิต

เมื่อคืนก็ผล็อยหลับไปเพราะถูกรังแก คราวนี้ก็ถูกรังแกอีก ดีเสียอีกที่ผละจากมาโดยเร็วไว ไม่เช่นนั้นเห็นทีคงจะได้โดนพ่อยักษ์ตนนั้นจับกินทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นแน่

อันตรายโคตร สุวรรณราพณ์นั้นไม่เหมือนบุรุษในยุคก่อนที่เธอเคยอ่านมาเลยสักนิด อมรณาตนนี้มีความติดฝรั่งเล็กน้อย รุกใจกันตรงๆ เข้าประชิดตัวสาวโดยมิอ้อมค้อม ไม่รอพิธีรีตองหรือสงวนท่าทีของเธอ ผิดจากผู้ชายที่มีศักดินาอย่างออกขุนหรือออกหลวงในนวนิยายที่เคยอ่าน เห็นว่าผู้ชายในสมัยก่อน ยิ่งยศสูงเท่ไหร่ดก็จะสำรวมกิริยาไว้ให้มากเท่านั้นไม่ใช่หรือ

แต่เธอคงลืมไป ว่าเธอเองก็ไม่รู้ว่านี่คือยุคสมัยใดในวรรณคดีสมัยเก่า ที่มักจะมีอมนุษย์ อสุรา อมรณา นางเงือก ครุฑ หรือพญานาค เป็นต้น หรือไม่นี่ก็อาจจักเป็นโลกคู่ขนาดที่รีเซ็ตเป็นยุคๆ หนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยก็เป็นได้

และถ้าหากว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ก็แปลว่าเธออาจจะมาเกิดใหม่เพื่อชดใช้กรรม หรือแก้ไขเนื้อเรื่องในวรรณคดีเหมือนนางเอกนิยายเกิดใหม่คนอื่นๆ

แต่... สุวรรณราพณ์ตนนี้ เคยปรากฎในวรรณคดีเรื่องไหนอย่างนั้นหรือ? ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อนเลย

สาวเจ้าครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะสำรวจตนเองในคันฉ่องอีกครั้ง ไล่ระดับสายตาลงมองก้อนเนื้อที่ซ่อนใต้ผ้ารัดอกและสไบด้านใน ใช้ฝ่ามือกอบกุมมันขึ้น แล้วปล่อยลงให้เด้งดึ๋งๆ ตามแรงโน้มถ่วงของโลก

อกใหญ่เฟ่อ ตัวเล็กแต่ซ่อนรูปไม่เบานะหนูจันทร์ มิน่าล่ะอีตายักษ์นั่นเขาถึงอยากจับกินนัก

แต่จะว่าไปร่างที่มาเกิดใหม่นี่ก็มิได้แย่อะไรนัก นอกจากจะทรวดทรงองค์เอวอันดือเลิศ อ้อนแอนอรชรมัดใจชาย ดวงหน้างามงดหมดจด น่ารักพริ้มเพราจนถ้าเจ้าจันทร์ผู้นี้เกิดในยุค ๒o๒๒ ล่ะก็ อาจจักได้ถูกแมวมองทาบทามตัวไปประกวดเป็นหนึ่งในไอดอล BNK เป็นแน่แท้

แต่ดูจากดวงหน้าที่อ่อนเยาว์เช่นนี้ เห็นทีแม่เจ้าจันทร์คนนี้คงจะอายุแค่ ๑๖-๑๗ ล่ะมั้ง ปกติในสมัยก่อนวัย ๑๖ ขึ้นไปจะเป็นวัยที่แม่หญิงผุดผ่องโตเป็นสาวพร้อมออกเหย้าออกเรือนได้แล้ว แต่ถ้าเทียบกับสมัยปัจจุบัน ก็คงจะอ่อนวัยกว่าที่จะตบแต่งเข้าบ้านคนอื่นเกินไป

ขืนออกเหย้าไปในสมัย ๒o๒๒ ด้วยอายุอานามเท่านี้ คงได้ถูกติฉินนินทาว่าเป็นเด็กแก่แดดใจแตกหนีตามผู้ชายเป็นแน่แท้

แต่เนื้อตัวขาวผ่องเป็นยองใย อมชมพูสุกใส แถมยังดวงตากลมโตสีดำสนิท พร้อมด้วยแพขนตางอนยาว ที่พอจ้องมองซื่อๆ ตาใส แล้วกระพริบตาปริบๆ สองสามที ก็มัดดวงใจชายหนุ่มเป็นสิบมากองรวมกันได้ในครั้งเดียวแล้ว

อุ้ย ถ้าเกิดใหม่แล้วสวยไฉไลขนาดนี้ ก็ไม่ได้ถือว่าแย่อะไรนะ

แต่ส่วนที่แย่เอาจริงๆ น่ะ เห็นทีจะเป็นอีตายักษาจอมชีกอนั่นเสียมากกว่า

คิดพลางทำหน้ามุ่ย สางเรือนผมเงางามของตัวเองไปทางไหล่มนด้านซ้าย เนื่องด้วยนึกถึงใบหน้าคมคายดุดันนั่นแล้วก็อดจะหัวเสียไม่ได้ ยอมรับว่าเจ้าหล่อนนั้นเป็นสาวทึนทึกจนถึงอายุยี่สิบห้า ก่อนที่จะตายอนาถด้วยอุบัติเหตุ ไม่ทันได้มีผัว เอ้ย สามีอย่างที่หญิงสาวควรจะมี ยังไม่ได้ออกเหย้าออกเรือนกับใครเขา และเสียตัวเลยเสียด้วยซ้ำ

เอ้ะ... แต่ตอนนี้เราก็มีศักดิ์เป็นเมียอีตายักษ์เจ้าชู้นั่นอยู่นี่?

เสียงหนึ่งดังขึ้นในจิต มธุรสเบิกตาโต ยกมือนวลทั้งสองขึ้นทึ้งผมยาวตรงของตนเองทันใด

จริงด้วย ก็ตอนเริ่มเรื่อง สุวรรณราพณ์ไปบุกตีเมืองที่เราจากมา เพื่อให้พ่อของเรา (ในชาตินี้) ยกเราให้เป็นเมียเขานี่หว่า

แล้วแบบนี้จะไม่ยิ่งแย่หรือ

ถึงจักอยากมีผัวจนตัวซีดตัวสั่น แต่ก็มิได้อยากมีผัวที่เป็นอมนุษย์ ฆ่าคนเป็นเบือเพื่อจับตนมาเป็นเมีย แถมยังมากรักแบบนี้นะเออ!

แถมวันแรกที่พามา ก็พกเข้าเรือนหอ แล้วปู้ยี้ปู้ยำเราอีกแน่ะ (ถึงจะยังไม่ได้ตกเป็นเมียเขาจริงๆ เพราะสลบไปก่อนก็ตาม)

ไม่ผ่าน ไม่ผ่านอย่างแรง ผู้ชายคนนี้!

“... งามเหลือเกิน”

เสียงหอบแฮ่กดังจากบานหน้าต่างภายนอก กายาใหญ่โตสีขาวนวล ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยขนสัตว์รุงรังแต่ก็รูปงามหล่อเหลาสมบุรุษ ชายหนุ่มกระโดดลิงโลดอยู่นอกบานหน้าต่าง ทรุดกายลงนั่งกับกิ่งไม้ใหญ่ที่แผ่ก้านมาชิดหน้าต่างห้องของคนสวยที่ตนหมายปอง

หนุมานจ้องมองสาวงามที่นั่งสางผมอยู่หน้าคันฉ่อง การแต่งกายบ่งบอกว่าเป็นแม่หญิงสูงศักดิ์ผิดแผกจากอมนุษย์ และสวยกว่านางอัปสรตกสวรรค์ที่ตนเคยร่วมเสพสวาทด้วยยิ่งนัก

เจ้าหล่อนเป็นหนึ่งในสนมของสุวรรณราพณ์ที่ครองเมืองยักษา เนื่องจากไม่ลงรอยกับเจ้ากรุงลงกาเช่นเขา จึงผูกมิตรกันได้ไม่ยากนัก แต่มีสนมงามหมดจดถึงเพียงนี้ ก็นึกอยากคิดคดขึ้นมาเสียนี่

สุพรรณมัจฉาน่ะงดงามสมกับมัจฉาที่อยู่ใต้น้ำ แต่จักให้อิ่มอร่อยกับกายาสาวที่อบอุ่นเช่นนั้น เห็นทีคงจักต้องเป็นหญิงสาวชาวมนุษย์นั่นแหละหนา

เมียข้าน่ะเยอะแล้ว แต่เพิ่มเจ้าไปอีกคนก็คงมิเป็นกระไร

บทก่อนหน้า
บทถัดไป