บทที่ 10 ทำไมถึงเป็นคนนี้
งานเริ่มมาสักพักแล้วแต่เจ้าบ่าวยังไม่โผลหน้ามา ศศิณีเองก็พยายามตามหา เธอสั่งให้คนของเธอตามหาทั่วทั้งโรงแรม จนในที่สุดเขาก็ปรากฏตัว คนทั้งงานหันไปมองด้วยความแปลกใจที่งานผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วเจ้าบ่าวเพิ่งปรากฏตัวให้เห็น
“นี่ตาไตร แกจะหักหน้าฉันใช่มั้ย”
“ใครบอกละครับ ผมจะหักหน้าเธอต่างหาก” เขาพูดออกไป ทั้ง ๆที่ความจริงแล้วเกวลินต่างหากที่ไม่ยอมให้เขาลงมา
“คนนี้เหรอคะคนที่จะมาเป็นสามีน้องสาวของฉัน”
ศิวัฒน์ตวัดสายตามองพลอยชมพูอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะเขามั่นใจว่าในคำพูดนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ เขารู้สึกไม่ชอบเธอเอาซะเลย
“ฉัตร แนะนำสามีให้พี่รู่จักหน่อยสิ”
“คุณไตรคะ นี่พี่พลอยค่ะ เป็นพี่สาวที่สนิทของฉัน” เธอหันไปหาศิวัฒน์ “พี่พลอยคะ นี่คุณไตรค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอยื่นมือไปด้านหน้า
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายื่นมือมาจับมือของเธอ
“ว่าแต่เสียงของคุณไตรเนี่ยคุ้น ๆ นะคะ เหมือนฉันจะได้ยินที่ไหน”
“เพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอคะ จะคุ้นได้ยังไง”
“อ๋อ พี่นึกออกแล้ว เมื่อกี้ตอนพี่ออกจากลิฟต์ แล้วพี่นึกได้ว่าพี่มาชั้นผิด พี่เลยเลือกใช้บันได แต่เหมือนจะได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายให้ได้ ตัวผู้ชายก็ปลอบแล้วปลอบอีก เหมือนแอบกินกันยังไงไม่รู้ แบบเป็นชู้กันน่ะ”
“นี่คุณ ผมว่าคุณเพ้อเจ้อแล้ว”
“ฟังให้จบก่อนสิคะ ฉันไม่ได้หมายถึงคุณสักหน่อย ฉันแค่จะบอกว่าผู้ชายคนนั้นเสียงคล้ายกับคุณเลยต่างหาก”
“ตาไตร!!” ศศิณีกัดฟันแน่น เธอมั่นใจว่าที่พลอยชมพูพูดหมายถึงศิวัฒน์แน่นอน
“แม่จะเชื่อเธอเหรอ”
“อย่างน้อยคุณพลอยก็ดูน่าเชื่อกว่าแก”
“อ้อ อีกอย่างนะคะ เหมือน้องผู้หญิงคนนั้นจะฉีดน้ำหอมจนฟุ้งไปทั่ว กลิ่นมันคล้าย ๆ กับกลิ่นน้ำหอมที่ฉันกำลังได้กลิ่นอยู่ตอนนี้เลย คุณใช้น้ำหอมผู้หญิงเหรอ”
“พอเถอะค่ะพี่พลอย” ฉัตรนลินทร์รีบห้าม เมื่อเห็นว่าตอนนี้ศิวัฒน์โกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ไปทางโน้นกันเถอะค่ะ”
“ส่วนแกตาไตร แกกับฉันเรามีเรื่องต้องคุยกันตอนนี้” ศศิณีลากศิวัฒน์ออกไปอีกทาง
ด้านฉัตรนลินทร์เธอมายืนรับแขกพลางพูดคุยกับพลอยชมพูไปเรื่อย
“ทำไมถึงเป็นคนนี้” สุดท้ายเธอก็อดถามไม่ได้
“ฉัตรจำเป็นค่ะ”
“การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ” เธอขมวดคิ้ว “แล้วจะเอาไงต่อ”
“ตอนนี้ยังคิดไม่ออกค่ะ งานที่มหาลัยก็เยอะด้วย เดี๋ยวเสร็จงานฉัตรก็น่าจะกลับเลย”
“อะไรกัน ทำไมไม่ลา”
“ลาค่ะ แต่ตอนนี้ไม่อยากลาแล้ว”
ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่พลอยชมพูเล่า ถึงเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับศิวัฒน์ แต่เธอแอบหวังว่าลึก ๆ เขาจะไม่หักหน้าเธอกลางงานแต่ง เขาจะไม่ทำให้เธอต้องอับอาย ถึงเป็นการแต่งงานที่ไม่เต็มใจกันทั้งสองฝ่าย อย่างน้อย ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตเธอก็อยากมีความทรงจำดี ๆ ในงานแต่งงานของตัวเองบ้าง แต่พอเป็นแบบนี้เธอก็ไม่หวังแล้ว
“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ” พลอยชมพูเองก็พอจะสังเกตเห็นว่าน้องสาวคนสนิทกำลังไม่สบายใจ เธอจึงไม่อยากเซ้าซี้
“ได้ค่ะ”
เสร็จงานเลี้ยงฉลองก็ถึงเวลาที่จะต้องส่งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเข้าหอ เนื่องจากงานถูกจัดขึ้นในโรงแรม ฉะนั้นห้องหอของพวกเขาในคืนนี้คือห้องสูทที่หรูที่สุดของโรงแรมนี้
หลังทุกคนออกจากห้องไปแล้วก็เหลือเพียงแค่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวที่ทั้งคู่ต่างก็ไม่พูดคุยกันจนฉัตรนลินทร์รู้สึกอึดอัด เธอเลยเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
“คุณ”
ฉัตรนลินทร์เดินออกมาทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุดเจ้าสาว ซึ่งนั่นก็ทำให้ศิวัฒน์แปลกใจ เขาคิดว่าเธอจะเข้าไปอาบน้ำซะอีก
“ว่าไง”
“ช่วยอะไรหน่อยสิ” เธอถามออกไปโดยไม่แน่ใจนัก
“อะไร”
“ช่วยถอดชุดให้ฉันหน่อย ฉันพยายามแล้วแต่มันไม่ถึง”
“เธอจะอ่อยฉันหรือไง” เขาขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่นะ” เธอรีบปฏิเสธ เธอไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ
“หันหลังมา” ศิวัฒน์ลุกขึ้นนั่ง
ฉัตรนลินทร์นั่งลงบนเตียง ศิวัฒน์ก็เอื้อมมือมารูดซิปลงให้ฉัตรนลินทร์ ผิวขาวเนียนนั้นทำเขาแอบกลืนน้ำลาย แต่ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ฉัตรนลินทร์ก็ผุดลุกขึ้นแล้วหันมามองเขา
“ขอบคุณนะ” พูดจบเธอก็รีบเข้าห้องน้ำไป
นานสองนานกว่าฉัตรนลินทร์จะออกจากห้องน้ำ เพราะเธอต้องเช็ดและล้างเครื่องสำอางอยู่หลายรอบ
“คุณไตร” เมื่อไม่เห็นว่าเขาอยู่บนที่นอนฉัตรนลินทร์ก็เอ่ยเรียก แต่ก็ไม่มีการขานรับ “ไปไหนนะ”
หลังแต่งตัวเสร็จฉัตรนลินทร์ก็เดินมานั่งอยู่บนที่นอน เธอหยิบโทรศัพท์ที่หน้าจอกำลังสว่างขึ้นมาดู
‘นอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอ เค้ากำลังกอดฉันอยู่บนเตียงที่ห้องข่าง ๆ เนี่ย ถ้าไม่เชื่อก็แวะมาดูได้นะ เดี๋ยวฉันจะไปเปิดประตูให้’
อ่านจนจบฉัตรนลินทร์ก็วางโทรศัพท์ลง เธอเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า จัดการของทุกอย่างที่เธอต้องคืนร้านวางไว้บนที่นอน แล้วส่งข้อความหาฟาร่า ก่อนเธอจะออกจากห้องไป
