บทที่ 7 ตอนที่7.ไร่ชา
เตวิทย์พาปานิศาซ้อนท้ายรถเอทีวี ที่ข้างหลังมีกระเป๋าผ้าและกล่องใบกะทัดรัดผูกติดเอาไว้ แล้วขับเข้ามาในไร่ชา ปานิศาตื่นตาตื่นใจกับไร่ชาที่กว้างจนสุดตา ตอนนี้เป็นเวลาเย็นจึงไม่มีคนงานเก็บใบชา จะมีก็แต่คนที่ดูแลไร่เท่านั้น ชายหนุ่มขับลัดเลาะเข้าไปในส่วนที่เป็นป่า แต่ยังมีต้นชาขึ้นเรียงกันเป็นแถว ปานิศาอึ้งกับที่นี่มาก ขนาดเป็นป่ายังใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
"ข้างหลังนั่นเป็นน้ำตก ได้ยินเสียงน้ำไหลไหม" เขาหันมาถามเมื่อขับรถเข้าไปด้านใน ปานิศาส่ายหัวเป็นคำตอบ เธอไม่ได้ยินเสียงน้ำตกเพราะเสียงรถดังกว่า
"ผมรักที่นี่มาก ทุกครั้งที่มา ก็จะเข้ามาที่นี่ คืนนี้เราจะนอนที่บ้านหลังนั้น" เตวิทย์ชี้ไปที่บ้านไม้ยกพื้น ขนาดหนึ่งห้องนอน ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ น้ำตก
"ไม่อันตรายเหรอคะ" ถามเพราะเห็นว่าอยู่กลางป่า
"ไม่ครับที่นี่เป็นที่ของผม มีแต่คนของผม ไม่มีใครทำอันตรายเราหรอก"
"แน่ใจนะคะ" ถึงแม้เขาจะยืนยันมาอย่างนั้น แต่ปานิศาก็ยังกังวล
"สบายใจเถอะ ลงไปได้แล้ว ไว้ใจผมนะครับ"
"ทำไมไม่บอกก่อน ว่าจะมาค้างคืน ฉันจะได้เตรียมตัว ดูสิไม่มีอะไรมาสักอย่าง เสื้อผ้าก็ไม่มี" เธอตัดเพ้อเพราะไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้เอาเสื้อผ้ามาด้วย น้ำตกใสน่าเล่น ถ้ามีชุดมาเปลี่ยนคงสนุกกว่านี้
"ผมให้แม่บ้านเตรียมให้แล้ว" เตวิทย์บอกพร้อมกับโบ้ยหน้าไปที่กระเป๋าท้ายรถ
"ในกล่องมีอาหารมาด้วย อยู่ได้หลายวัน ถ้าหมดก็ให้คนงานเอามาส่ง" บอกพร้อมกับยกของลงจากรถ แล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน ปานิศาเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ชอบใจกับน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นสาย ถือว่าเป็นการพักผ่อน หญิงสาวบอกตัวเองแล้วเดินลงไปในแอ่งน้ำ นอกจากใสแล้วน้ำในนั้นก็เย็นมาก ปานิศานั่งบนโขดหินหย่อนขาลงไปในน้ำ เตะน้ำไปมาอย่างสนุกสนาน เธอชอบธรรมชาติ ที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เพราะต้องทำงานเก็บเงินแต่งงาน เมื่อคิดไปถึงงานแต่ง ก็ทำให้โมโหขึ้นมาอีก
"ศราวุธไอ้สารเลว! ผู้ชายเฮงซวย!" ตะโกนออกมาสุดเสียง ภาพศราวุธเริงรักกับภีรณียังติดอยู่ในหัว สลัดยังไงก็ไม่ยอมออก หรือเธอต้องกลับไปสั่งสอน สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจจะได้ลดลงบ้าง
เตวิทย์มองหญิงสาวจากระเบียงบ้าน สาเหตุที่ทำให้ปานิศาหนีมา คือศราวุธ แล้วมันเรื่องอะไรกัน ภีรณีโทรหาเขาหลายสาย แต่เขาไม่รับเพราะคิดว่าเธอโทรมาเพราะเป็นห่วงเพื่อน พอมาได้ยินแบบนี้เลยเสียดาย ภีรณีน่าจะรู้เรื่องของปานิศากับศราวุธ เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาคนสนิท อยากรู้ความเป็นไปของศราวุธ ก่อนวางมือถือลงบนโต๊ะ เตวิทย์ถ่ายรูปปานิศาไว้หลายรูป ตรงจุดที่เขายืนอยู่ ปานิศาจะมองไม่เห็นเขา จึงเป็นโอกาสให้เขามองเธอ และถ่ายรูปเธอเก็บไว้ในมือถือได้อย่างสะดวก เขาทำแบบนี้หลายครั้ง จนแกลลอรี่ในมือถืออัดแน่นไปด้วยรูปถ่ายของเธอ
"เล่นน้ำไหม" คำถามของเขาส่งผลให้คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้งสุดตัว ปานิศาหันมามอง เตวิทย์จึงรู้ว่าเธอร้องไห้อีกแล้ว
"ปลื้ม ผมจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แต่คุณจงรู้เอาไว้ว่าผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ" ร่างสูงเดินไปยังจุดที่เธอนั่งอยู่ หย่อนสะโพกลงนั่งข้าง ๆ ปานิศามองหน้าเขา ซบหน้าลงบนอกกว้าง แล้วสะอื้นออกมา
"ขอห้านาทีนะคะ" เธอบอกเมื่อร้องไห้กับอก
ของเขา
"ร้องออกมาเถอะ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจ" เตวิทย์ลูบมือลงบนแผ่นหลังบาง ปลอบให้เธอคลายจากความเสียใจ
"ฉันขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แล้วฉันจะไม่ร้องอีก ฉันสัญญา" เธอไม่อยากอ่อนแอ แต่เก็บไว้ไม่ไหวจริง ๆ
"ไม่ต้องสัญญาอะไรกับผม อยู่กับผมคุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ผมจะปกป้องคุณเอง"
"ศราวุธเขาไม่เคยรักฉันเลยค่ะ ที่ผ่านมาเขาแค่หลอกใช้ฉัน"
"เขาทำให้คุณเสียใจใช่ไหม"
"ฉันไม่ได้เสียใจ ฉันแค่เจ็บใจที่โง่ให้มันหลอกอยู่ตั้งนาน ฉันรักคนแบบนั้นได้ยังไง"
"ความรักมันไม่มีเหตุผลหรอกครับ ขอแค่ได้รักก็พอ" เหมือนกับที่เขารักเธอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอไม่รัก แต่ก็ไม่เคยห้ามใจ
"คุณคงสมน้ำหน้าฉัน" เรื่องแต่งงานเขาก็เคยพูดทำนองเตือน แต่เธอไม่เคยฟัง
"ใครบอก ผมดีใจต่างหากที่คุณรู้ตัวเร็ว ปลื้มคุณก็รู้ว่าผมไม่อยากให้คุณแต่งงาน" แขนที่กอดเธอไว้หลวม ๆ กระชับให้แน่นขึ้น ปานิศาเงยหน้าขึ้นจากอกกว้าง เพื่อมองหน้าเขา เตวิทย์อาศัยจังหวะนั้นประกบปากลงมาบนเรียวปากของเธอ ปานิศาไม่ขัดขืนจูบตอบเขาเช่นกัน ไม่มีอะไรต้องคิดนาน ถ้าเทียบระหว่างเตวิทย์กับศราวุธ
เตวิทย์เหนือกว่าหลายชั้น เขาไม่ใช่คนเลวร้าย และที่สำคัญเธอก็ไม่ได้รังเกียจเขา
มือหนาประคองใบหน้าสวย จับยึดเอาไว้เพื่อจูบเธอได้อย่างถนัด ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากบาง เพื่อดื่มดำความหวานของริมฝีปากคู่สวย ที่เขาเฝ้าถวิลหา หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เมื่อเธอไม่ขัดขืน สองร่างกอดกันภายใต้ธรรมชาติที่โอบล้อม เตวิทย์ผ่อนหญิงสาวลงบนโขดหิน แล้วทาบทับลงมา ริมฝีปากของเขายังประกบอยู่บนเรียวปากบาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาอยากให้ปานิศารู้ว่าเกิดจากความตั้งใจของเขา เขารักและต้องการเธอ จนไม่คิดจะหักห้ามใจ
"ปลื้มผมต้องการคุณ" กระซิบชิดปากงาม เมื่อถอนปากออก ตาคู่คมสบกับตาคู่สวย หัวใจกระตุกเมื่อเห็นแววสับสนในดวงตาของเธอ เธอกำลังเสียใจ เขาไม่ควรฉวยโอกาสกับเธอ
"ผมขอโทษ" ผละออกแต่แขนเรียวยังกอดคอเขาเอาไว้
"ขอโทษทำไมคะ ฉันเต็มใจ"
"คุณไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นหรอกทูนหัว" ลูบมือลงบนแก้มเนียนใสที่เปลี่ยนเป็นสีเรื่อ เขารู้ว่าเธอไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอยอมเพราะอะไร อาจเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรืออยากประชดใคร ถึงจะเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายเธอ
