บทที่ 10 Chapter 10

ชีคหนุ่มยอมรับว่าปรารถนาในเรือนกายนุ่มหอมกรุ่นนั้น ตามประสาของชายวัยเจริญพันธุ์ ที่พอพบเจอผู้หญิงสาวสวยก็รู้สึกชอบพอถูกใจ หากวิสัยของเขา ไม่เคยสักครั้งต้องบังคับขืนใจใคร ทุกคนทุกความสัมพันธ์มันเกิดขึ้นจากความเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย ในโลกของการเรียนรู้ คราอยู่ต่างประเทศเขาเองใช้ชีวิตเช่นปุถุชนทั่วไป ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสาวสวยหลายชาติหลายภาษาเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ และในยามที่กลับมาบันดัร ในมุกกาลันของเขาเองก็มีสตรีสาวสวยหลายร้อยคนทีเดียว ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการจัดการของบรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตามประเพณีของชนชาติเขาการมีมุกกาลันเป็นเรื่องธรรมดา พวกนั้นจะจัดหาหญิงสาวสวยมาไว้เพื่อคอยสร้างความบันเทิงและผ่อนคลายอารมณ์ โดยเฉพาะเขาซึ่งมีตำแหน่งถึงเจ้าชายรัชทายาท ร้อยสองร้อยคนนี่นับว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ เพราะเจ้าชายบางองค์มีสนมหรือนางบำเรอถึงพันกว่าคน นอกจากการจัดหาแล้ว อีกส่วนคือหญิงสาวที่เขาพึงใจและรับมาไว้ในพระราชวัง และยังมีบุตรสาวของบุคคลที่มีอิทธิพลต่อประเทศนี้ คนที่ต้องการผลประโยชน์จากบันดัรก็มี

หญิงสาวสวยเดินทางสู่มุกกาลันในฐานะเครื่องบรรณาการ... จากชนเผ่า จากสุลต่านบ้านใกล้เรือนเคียง หรือผู้ที่ต้องการอำนาจอิทธิพลของบันดัร หลากหลายเหตุผลกับสาวสวยที่เข้ามาอยู่ในวังสีชมพู ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปยังไง ในโลกของบันดัรเรื่องพวกนี้ยังคงมีอยู่ ชีคเบนจามินไม่เคยคิดว่าจะต้องร้อนอกร้อนใจ ทุกคนต่างมีหน้าที่ก็ทำกันไป มีบ้างที่เสด็จเข้าไปหาความสำราญในมุกกาลันหรือฮาเร็มนั่นล่ะ และก็มีเช่นกัน บรรดาดารานางแบบสาวๆ สวยๆ ของบันดัรหลายคนก็เคยขึ้นเตียงด้วยโดยที่พวกเธอเหล่านั้นไม่ได้ถูกรับเข้ามาอยู่ในมุกกาลันด้วยซ้ำ

สตรีสาวสวยอย่างพราวพิลาส ชีคเบนจามินก็ยอมรับในความสวยของเธอ แม้นว่าก่อนหน้าสตรีที่มีใจชอบพอจะเป็นรติรส ญาติของหญิงสาว ครั้นรติรสมีใจชอบพอเดนิม ผู้ซึ่งเป็นน้องชายและเครือญาติของพระองค์เอง ความที่เป็นสุภาพบุรุษทำให้ทรงตัดใจได้โดยง่าย ขณะนั้นเขาหาได้ต้องการจะต่อความสัมพันธ์กับพราวพิลาสไม่ หรืออาจเป็นเพราะในยามนั้น สายตาคมคู่งามก็หาได้จดจ้องอย่างชื่นชมมากไปกว่าคนที่บิดาของเธอต้องติดต่อสัมพันธ์ด้วย

แล้วทำไมในวันนี้ พราวพิลาสถึงได้ทำให้ความเป็นสุภาพบุรุษที่เคยมีเลือนหายไป หรือเพราะหัวโขนคำว่าโจรที่เธอยัดเยียดให้

ชีคหนุ่มรับรู้แต่ว่า ยามที่เข้าใกล้ หัวใจแกร่งกระด้างนั้นแกว่งไกวไม่มั่นคง ยามทอดมองกลีบปากอิ่มที่รู้ว่าหวานนัก ก็ปรารถนาจะแนบเรียวปากจุมพิตซ้ำๆ และอยากให้หญิงสาวอยู่ในสายตา จะขำก็ขำไม่ออก ไม่กี่ชั่วโมงนับแต่ช่วยเธอมาจากพวกโจร ชีคเบนจามินคอยแต่คิดเรื่องตอแยเธอ

เสียงน้ำเบาๆ ดึงความคิดกลับมา เบนจามินหันกลับมามองคนที่กำลังเดินขึ้นมาจากน้ำ สายตาคมสวยที่เห็นนั้นมีร่องรอยของความหวาดระแวงและไม่แน่ใจ

“รออยู่ตรงนี้”

พราวพิลาสยืนกอดอกนิ่งๆ ไม่อยากรู้นักหรอกว่าจะสั่งให้รอทำไม แต่พอได้เห็นอีกฝ่ายเดินลงน้ำก็เข้าใจ

เฮอะ... หมอนี่เป็นโจรที่รักความสะอาดเสียด้วยแฮะ หมั่นไส้จริง!!

มองอีกฝ่ายอาบน้ำแล้วก็คิดเข่นเขี้ยว บังเอิญตาคมกริบหันมาสบราวกับรู้ว่ามีคนมอง ประกายระยับที่ส่งมาทำเอาดวงหน้าสวยร้อนวูบ รีบหันหน้าหนีทันที

ไอ้โจรบ้า!


ผ่านไปครู่ใหญ่ ทั้งสองจึงกลับมากระโจมอีกครั้ง แน่นอนว่าพราวพิลาสนั้นกลับมาอย่างไม่เต็มใจ แต่เพราะความหนาวเย็นของอากาศที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ เธอต้องการเสื้อผ้าชุดใหม่ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

“เสื้อผ้าอยู่ในนี้ ลองค้นหาดูตัวที่พอใส่ได้ใส่ไปก่อน”

กระเป๋าใบใหญ่ซึ่งเคยวางอยู่ตรงมุมหนึ่งของกระโจมยื่นมาตรงหน้า หลังจากที่เขาเปิดมันและดึงผ้าสีดำออกไปปึกหนึ่ง ตาคมบุ้ยใบ้ไปยังส่วนด้านหลังที่มีผ้าฉากกั้น ถึงมันจะไม่หนามาก แต่ก็ไม่ได้บางจนทำให้คนด้านนอกมองเข้าไปได้ อย่างมากก็เห็นเพียงเงาสะท้อนจากแสงไฟตะเกียงเท่านั้น

“หรือจะใส่เปียกๆ หรือไม่ใส่ก็ยิ่งดีจะได้ไม่เสียเวลาถอด” เบนจามินแสร้งพูดอีกครั้งเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมรับกระเป๋าไปเสียที

พราวพิลาสตวัดตาค้อนขวับๆ กระชากกระเป๋าจากมือใหญ่ในอาการกระแทกกระทั้น ความกลัวเกรงหวาดหวั่นแทบบ้ามันรางเลือนลดลงไปตอนไหนหญิงสาวไม่รู้ ยามโกรธมากๆ เธอมักจะทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังนักหรอก

ชายหนุ่มกดยิ้ม สะบัดเสื้อแรงๆ ก่อนสวม มันเป็นเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงขาวยาวสีดำออกมาผลัดเปลี่ยนตรงนั้นอย่างไม่กังวลว่าหญิงสาวจะโผล่ออกมาดู เพราะรู้ดีว่าตอนนี้แม่สาวต่างชาติคงกำลังกระวนกระวายกลัวเขาโผล่ไปดูเธอเสียมากกว่า

หลังฉากผ้า พราวพิลาสจำใจรื้อกระเป๋าใบใหญ่เพื่อหาชุดที่เธอพอจะใส่ได้บ้าง และโชคดีเหลือเกินที่ในกระเป๋านั้นยังพอมีเสื้อผ้าแบบธรรมดาบ้าง ซึ่งก็คือเสื้อยืดกับกางเกงขายาวและกางเกงขาสั้น ถึงมันจะตัวใหญ่ประมาณว่าพอเธอสวมเสื้อ ชายนั้นยาวลงไปถึงหัวเข่า เธอจึงเลือกเอากางเกงขาสั้นมาหนึ่งตัว ก่อนจะได้กางเกงตัวนี้ มือขาวบางต้องผ่านกับกางเกงตัวเล็กๆ สีดำหลายตัว หญิงสาวใช้สองนิ้วเรียวคีบมันขึ้นมา หน้าสวยบิดเบ้ทำหน้าสยอง

“ยี้ ไอ้โจรบ้า หน้าไม่อาย”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป