บทที่ 3 Chapter 3
ข่าวคราวเกี่ยวกับกลุ่มโจรทะเลทราย กำลังเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์เล่าขานในวงสื่อสังคมออนไลน์และข่าวสารทั่วโลกแวบขึ้นมาในหัว ว่ากันว่า กลุ่มโจรพวกนี้จะคอยจับตัวนักท่องเที่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่จากทางรัฐบาลของประเทศนั้นๆ และเรียกร้องเอาจากญาติพี่น้องของนักท่องเที่ยว แต่ใครจะรับประกันได้ว่า พวกมันต้องการอยากได้เงินอย่างเดียว เผื่อมันข่มขืนเธอเหมือนที่พวกโจรในข่าวชอบทำกัน หรือฆ่าเธอถ้าเกิดไม่ชอบหน้าล่ะ แค่คิดก็แสนน่ากลัวจนไม่กล้าคิดต่อ เรื่องเงินทองนั้นพราวพิลาสไม่เดือดร้อน ยังไงเสียเธอก็มีจ่ายและพ่อของเธอไม่มีทางบิดพลิ้วแน่นอนหากว่าสามารถช่วยลูกสาวได้ ตอนนี้มีโอกาสขอเธอหนีก่อนแล้วกัน ใครจะบ้านั่งรอนอนรอให้พวกมันมาทำอะไรน่ากลัวกันเล่า
คิดได้แบบนั้น หญิงสาวรีบถลาไปยังประตูกระโจมซึ่งเป็นผ้าผืนหนาปิดเอาไว้ สามารถเปิดเข้าออกได้สบายโดยไม่ต้องพึ่งพากลเม็ดเด็ดพรายสะเดาะกุญแจให้ยุ่งยากมากความ
ความรีบร้อนหรือความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุ พราวพิลาสสุดจะเดา ทันทีที่ผ้ากระโจมเปิด ร่างบางระหงของเธอกลับต้องปลิวถลาลงไปกองอยู่บนพื้นอีกครั้ง เมื่อปะทะเข้ากับกำแพงแข็งกระด้างที่เคลื่อนเข้ามารวดเร็ว
“เธอ! ”
กำแพงเนื้อมนุษย์ที่ว่าดูท่าจะตกใจเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นรัวเร็ว พร้อมกับร่างสูงใหญ่ตรงเข้ามาหา เอื้อมมือมาหมายจะคว้า
พราวพิลาสหวีดร้อง ถีบตัวหนี ลนลานถอยห่าง
“อย่าเข้ามานะ”
ดวงตาคู่สวยวาววับ ตวาดแว้ดแหวด้วยภาษาอารบิกผสมอังกฤษวุ่นวายไปหมด ทั้งตกใจและหวั่นกลัว ใจดวงน้อยเต้นระทึกครึกโครม ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาในกระโจมเวลานี้ มิหนำซ้ำเจ้าคนที่เข้ามาก็ตัวใหญ่ยักษ์ยังกับตึก ใบหน้านั้นรกรุงรังด้วยหนวดและเครา แม้นว่าไม่ปิดบังใบหน้าด้วยผ้า แต่หนวดเคราครึ้มดำทะมึนก็ทำให้เห็นแค่ดวงตาคมกล้าวาวขึ้นในเงาความสว่างของแสงตะเกียง
มันคงโกรธแน่ ที่เห็นว่าเธอกำลังจะหนีแบบนี้ คิดแล้วหญิงสาวกอดกระเป๋าแน่น จ้องอีกฝ่ายไม่วางตา ความกลัว ความตกใจ แปรเปลี่ยนเป็นความบ้าบิ่น ยังไงเสียถูกฆ่าตายก็ดีกว่าถูกทรมาทรกรรมจนตาย
ใบหน้าดุดันเคร่งขรึม ปื้นคิ้วหนาขมวด ก่อนตวัดสายตาคมดุจ้องนิ่งสบตาที่มองจ้องเขาอยู่ก่อนอย่างเอาเรื่อง ปฏิกิริยานั้นชวนขำนัก หญิงสาวตัวเล็กแบบบาง คิดรึว่าจะสามารถสู้แรงชายชาตรีได้ แล้วท่าทางลนลานหนีแบบนั้นอีก มองปราดเดียวเขาก็อ่านทะลุหมดว่าเธอกำลังคิดอะไรและจะทำอะไร
“ลุกขึ้น”
“อย่ามายุ่งกับฉันนะ ไอ้โจรห้าร้อย”
“โจรห้าร้อย! จะไม่ประเมินกันตกต่ำไปหน่อยรึไงมิส”
ชายหนุ่มถามเสียงกลัวหัวเราะ ตาดุๆ พราวขึ้น กวาดสายตามองตลอดตัวเจ้าของร่างบางตรงหน้าจากศีรษะจรดปลายเท้า สภาพมอมแมม เสื้อผ้าเปื้อนเปรอะ ผิดกลับสุภาพสตรีแสนสวยและเย่อหยิ่งเช่นครั้งหนึ่งที่เขาเคยรู้จักพบพาน
ประกายวิบวับบอกความขบขัน ยิ่งทำให้พราวพิลาสหงุดหงิด กลัวก็กลัว แต่อดโกรธเกรี้ยวขึ้นมาไม่ได้ ไอ้โจรบ้านี่มาขำเธอเรื่องอะไร หรือหลอกล่อล้อเล่นเหมือนหมาหยอกไก่ ถึงเธอจะเป็นลูกไก่ในกำมือก็ไม่ยอมถูกบีบบี้ตายง่ายๆ แน่
“แกต้องการเงินเท่าไหร่” เมื่อครู่มันถามเธอด้วยภาษาอังกฤษชัดเจน หญิงสาวจึงเค้นเสียงถามด้วยภาษาเดียวกัน
แต่คำถามของเธอมันผิดเพี้ยนตรงไหน คนตรงหน้าฟังแล้วถึงได้หัวเราะออกมา หรือมันคิดว่าเธอหน้าเหมือนโน้ตอุดม ที่จะได้มาพูดให้คนขำได้
ตาคมหรี่มอง หลุบลงบังประกายระริกวิบวับไว้ เมื่อยกมือขึ้นกอดอกยืนนิ่ง ข้อสันนิษฐานของเขาเป็นจริง หญิงสาวตรงหน้าจำเขาไม่ได้
ดูเถอะ... จะไม่ให้ขำได้ยังไง ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครมาตราหน้าหาว่าเป็นโจร แถมยังเป็นแค่โจรกระจอกงอกง่อย ชีคเบนจามิน อิลยาส มูฮัมดาน ซาอิด กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศบันดัรถูกลดค่ามีฐานะเป็นเพียงโจรเรียกค่าไถ่เสียแล้ว
“ขำบ้าอะไร บอกมาเลยดีกว่าว่าแกต้องการเงินเท่าไหร่ พวกของแกน่ะ ฉันมีจ่ายนะ ไม่ได้พูดเล่นๆ ล้าน สองล้าน หรือว่าห้าล้าน”
“ทำไมคิดว่าพวกเราจะอยากได้เงินล่ะมิส”
“ถ้าไม่อยากได้เงิน แล้วพวกแกต้องการอะไร จับฉันมาทำไมล่ะ โจรอย่างพวกแกทำแบบนี้ก็เพื่อเงินอยู่แล้ว หรือไม่ใช่”
“บางครั้ง... เงินก็ไม่ใช่คำตอบของทุกคำถามหรอกนะมิสพราวพิลาส ขจรราช”
“กะ...แก แกรู้จักชื่อฉันได้ยังไง ต้องการอะไรกันแน่! ”
พราวพิลาสแหว ก่อนจะชะงักเสียเอง ถอยกรูดรวดเร็วจนหลังชิดกระโจมผ้า หน้าตาเริ่มแตกตื่น มองไอ้โจรห้าร้อยหน้าเหี้ยมดุอย่างระแวงราวนางเนื้อระวังภัย
ชายหนุ่มแสร้งละเลียดไล้สายตาไปตามเรือนร่างโปร่งบางอีกครั้ง จงใจใช้สายตาหยาบโลนแบบที่ในชีวิตไม่เคยใช้มองใครเพราะหมั่นไส้ทีท่าเย่อหยิ่งของหญิงสาวทั้งที่เจ้าตัวกลัวจนตัวสั่นขวัญกระเจิงยังมาทำปากเก่งกล้าเสียงแข็งจัด ตาคมกวาดไปทั่วร่างกระทั่งประสานเข้ากับสายตาคู่สวย ประกายตากล้าคมยังพราวขำไม่ปิดบัง
“อะไรดีล่ะ อะไรที่ช่วยดับหนาวในยามค่ำคืนกลางทะเลทราย อะไรที่ผู้ชายโหยหาและชื่นชอบนักหนา กิจกรรมยามค่ำคืนอันน่าพิสมัย...”
“อย่ามาคิดอะไรต่ำช้าพวกนั้นนะ แค่ไม่ทำอะไรฉัน ต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย” เสียงหวานหากแข็งจัดสะบัดแหวสอดสวนกลับก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ พราวพิลาสทนฟังจนจบถ้อยกระบวนความไม่ได้แน่ ไม่ต้องฉลาดมากมาย ใครก็เดาความหมายนั้นได้ และมันก็ยิ่งก่อความหวาดกลัวต่อหัวใจจนแทบบ้าอกแตกตายอยู่แล้ว
