บทที่ 6 Chapter 6

เสียงหวานสั่น ร่างกายสั่นเทายากควบคุม เมื่อสมองปั่นป่วน จูบนี้ไม่ได้เป็นจูบแรก หากแต่เป็นจูบที่สนิทแนบชิดเชื้อและรุกรานเสียจนหาทางต้านทานไม่ถูก

ใช่ว่าพราวพิลาสจะคุ้นเคยและถูกจูบบ่อยๆ หากจูบในประสบการณ์ของหญิงสาวมากสุดก็เพียงแค่ริมฝีปากแตะกัน ยังไม่เคยมีใครได้ล่วงละเมิดมากกว่านั้น เธอฝันถึงจูบหวานๆ ให้ความรู้สึกซ่านซึ้งตราตรึงใจ มันควรเกิดขึ้นกับคนที่รักใคร่ มากกว่าจะเป็นโจรผู้ร้ายที่คิดกระทำย่ำยีและอาจจะฆ่าเธอได้ในนาทีใดนาทีหนึ่ง

กรุ่นกลิ่นอ่อนๆ ของเนื้อกายผสานกับกลิ่นเหงื่อบวกกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กระตุ้นเร้าความรู้สึกบางอย่างในกายชายให้พลุ่งพล่านขึ้นรวดเร็ว

เบนจามินตกใจกับความว่องไวในความรู้สึกของตนเองเช่นกัน ปากอิ่ม จิ้มลิ้ม หากน่าจูบเคล้าคลอเคลียซ้ำๆ ผิวกายเธอหอม เหมือนที่แก้มเธอแสนนุ่ม กลิ่นน้ำหอมราคาแพงยี่ห้อดังเมื่อผสานกับกลิ่นเนื้อกายของหญิงสาวมันเร้าอารมณ์หนุ่มแน่นบอกไม่ถูก เขารู้แต่ว่าเกิดความต้องการขึ้นฉับพลันทันทีได้ลิ้มรสหวานแห่งเรียวลิ้นนุ่ม

ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดซอกคอชื้นเหงื่อ ปลายจมูกโด่งกดลงสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าเต็มปอดก่อนที่ปากจะทาบลงจูบเคล้าทั่วลำคอขาว

พราวพิลาสสะดุ้งเฮือก ลมหายใจขาดห้วง ขณะที่หัวใจกระหน่ำเต้นระทึกครึกโครม ตกใจและหวาดกลัวอย่างที่สุด

“ไม่นะ ไม่! ไอ้โจรบ้า เก่งแต่รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้”

เสียงก่นว่าด่าทอ กับเรี่ยวแรงที่ทุบลงบนกายแกร่ง ไม่ทำให้เบนจามินสะทกสะท้านเท่ากับคำพูดที่กรีดก้องสะท้อนเข้ามาในสามัญสำนึก

ชายหนุ่มดึงกายผละห่าง จ้องมองร่างบางที่เคลื่อนกายตะกุยตะกายถดถอยให้ห่างจากเขา

คนอย่างเขาไม่เคยรังแกคนไม่มีทางสู้ โดยเฉพาะผู้หญิง!

ใบหน้าคมดุดันบึ้งตึงขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อครู่ตนเองลืมตัวลืมใจไปกับเรือนกายสาวที่แสนนุ่มและหอมหวานจนเกือบทำตัวเป็นโจรบ้าห้าร้อยอย่างที่ถูกกล่าวหา

“ลุกขึ้น”

“ไม่ ฆ่าฉันซะเลยสิ” พราวพิลาสกอดตัวเองแน่น เหตุการณ์สดร้อนทำให้เธอหน้าร้อน โกรธ อาย เกลียดกลัว ขยะแขยงผสมปนเปกันยุ่งไปหมด พูดไปแล้วก็นึกอยากตบปากตัวเองที่ยังกล้าปากดี ในขณะที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอเห็นตาคมเรืองรองวาวโรจน์ขึ้นชั่วแวบ พลันร่างสูงใหญ่ก็เคลื่อนเข้ามาประชิดตัวเธอว่องไว เรี่ยวแรงหดหายไปกับความอ่อนล้าและความระทึกจากการถูกรุกรานทำให้เธอไม่สามารถกระโจนหนีหายไปได้อย่างใจนึก

เสียงหวีดร้องลั่น พร้อมร่างบางลอยหวือขึ้นตามเรี่ยวแรงที่มากกว่า

“อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจับทุ่มลงพื้นนะ”

“ไอ้บ้า ไอ้...”

“เงียบ ถ้าไม่อยากถูกฉีกเสื้อผ้าแล้วกลายเป็นเมียไอ้โจรบ้าคนนี้ นี่ละที่เขาว่ากัน คนสวยมักจะโง่ คุณนี่เป็นตัวอย่างที่ใช้ได้ของคำกล่าวนี้เลยนะ” ชีคหนุ่มคำราม จัดการอุ้มร่างบางขึ้นอย่างง่ายดายราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงสสารที่ไร้น้ำหนัก ตาคมดุจ้องดุๆ ที่ดวงหน้าหวาน ปรามหญิงสาวทั้งเสียงและสายตา พร้อมกับเอ่ยก่อกวนยียวนไปด้วย

พราวพิลาสขึงตาเขียวปั้ด ทำไมมันไม่ฆ่าเธอซะเลยนะ อยากอวดเก่งอวดกล้าปากดี ตบตีเตะถีบเพื่อให้พ้นจากอ้อมแขนอันน่าขยะแขยงนี่ แต่เธอไม่กล้า ประกายตาบางอย่างที่ส่งมา มีรังสีน่ากลัวจนเธอไม่กล้าเสี่ยง ได้แต่ทำตัวแข็งในอ้อมแขนของไอ้โจรร้ายที่อุ้มเธอเดินกลับค่ายของพวกมันอย่างไม่สะทกสะท้านและมันไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเอาเสียเลย มองแล้วเจ็บใจเป็นที่สุด

พราวพิลาสไม่รู้ว่าตนวิ่งหนีไปไม่ไกลหรือว่าเจ้าโจรนี่ชำนาญพื้นที่กันแน่ เวลาไม่กี่นาทีเธอก็เห็นกองกระโจม เผลอเหลือบมองหน้าคนอุ้มอย่างขัดใจ

ชีคเบนจามินวางหน้านิ่งเฉย สภาพพระองค์เหมือนโจรมากขนาดนั้นเลยหรือถึงได้หมดสง่าราศีในสายตาของหญิงสาวผู้นี้ เธอจำเขาไม่ได้ไม่แปลก แต่มองเขาเป็นโจรนี่สิ เอาล่ะในเมื่อเห็นเขาเป็นโจร เขาก็จะแกล้งเป็นโจรเล่นกับเธอสักหน่อย เดินทางอีกสามวันก็ถึงตัวเมืองแล้ว เมื่อถึงที่นั่น เมื่อเธอรู้ว่าเขาเป็นใครดูสิว่าแม่เจ้าประคุณจะทำหน้าแบบไหน คิดแล้วน่าสนุกพิลึก

กระโจมถูกไฟไหม้ไปบางส่วน แต่มองแล้วก็คงให้หญิงสาวเข้าไปพักไม่ได้แน่ ชีคหนุ่มก้มลงมองสบตาคู่หวานด้วยสายตาดุๆ กระโจมเป็นร่องเป็นรูแบบนั้น ประเดี๋ยวทหารของเขาได้กลัดมันกันกลางทะเลทรายพอดี เธอนี่เป็นตัวยุ่งวุ่นวายจริงๆ

เบนจามินเลือกที่จะเดินไปยังกระโจมที่พักของเขาเอง เหล่าทหารเมื่อพบว่าผู้เป็นนายเหนือหัวกลับมาแล้วก็พากันแยกย้ายกันไปประจำหน้าที่ของตนเอง เวลาออกพื้นที่ ชีคหนุ่มได้สั่งลูกน้องว่าห้ามให้ใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ฉะนั้นขั้นตอนพิธีการหลายอย่างถูกตัดทอนออกไป แม้แต่การพูดคุยก็หาได้มีราชาศัพท์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความสะดวก และการเข้าถึงทุกพื้นที่ ได้รู้และได้เห็นในสิ่งที่มันเป็นจริง ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำเพื่อเอาหน้า พูดให้สั้นและง่าย เขาชอบเดินทางในฐานะคนธรรมดามากกว่าเจ้าผู้ครองประเทศนี้ ตอนนี้เหลือกระโจมห้าหลัง ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อนึกอะไรได้ บ่ายหน้าไปยังกระโจมของตนแทน เมื่อไปถึงก็ได้พบกับราชองครักษ์คนสนิทที่รออยู่แล้ว

“ไงฟาดิล นายซุนนูร์ไปถึงไหนแล้ว”

ฟาดิลเหลือบมองเจ้าของร่างอรชรในอ้อมแขนของชีคหนุ่มก่อนตอบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป