บทที่ 3 3
เสียงแหบเบาลอดออกมาจากริมฝีปากระริกสั่นของลลิล เธอจุกจนพูดอะไรไม่ออก มันเป็นเรื่องเกินความคาดหมายและไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ชายที่เธอเห็นว่าเขาเป็นคนเก่งและรับผิดชอบชีวิตของเธอได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเป็นเวลาเกือบยี่สิบปี ดวงตาคู่งามรื้นน้ำขึ้นมอย่างช่วยไม่ได้ เธอได้ยินเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ดังมาตามสาย
“ลิล...พ่อขอโทษ ขอโทษที่ทำให้ลูกผิดหวัง”
“แล้ว...อาพีทจะทำยังไงกับคุณพ่อคะ”
“ตอนนี้แพตก็อยู่ในห้องไอซียู ยังไม่รู้สึกตัว เขาไม่ได้แจ้งตำรวจ แต่พาพ่อมากักตัวไว้ที่ไมแอมี่ เขาดูใจเย็นมากแต่พ่อรู้ว่าพัลเลเดียมไม่มีวันให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นและโดยนิสัยของพีทถ้าเขาไม่พอใจใครก็จะเก็บความแค้นไว้แล้วค่อยทำลายล้างทุกอย่างชนิดที่ต้องวอดวายกันไปข้าง”
“เขาจะ...”
“ไม่...ไม่...ลูกรัก...อย่ากลัว เขาแค่ต้องการกักกันอิสรภาพของพ่อและต้องการแต่งงานกับลูกเพื่อที่จะเป็นการรับประกันว่าบริษัทของเราจะยังอยู่ในมือเขาไม่หลุดรอดไปไหน พ่อแค่อยากให้ลูกเข้าใจว่าตอนนี้เราคงต้องยอมรับสภาพการต้องตกเป็น...ผู้ที่ต้องอยู่ใต้อาณัติของเขาทุกอย่าง ลิล...ยังฟังพ่ออยู่ใช่ไหมลูก ตราบที่ลิลทำตามเงื่อนไขและข้อตกลงของพัลเลเดียมก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อ...อย่างเด็ดขาด”
“หนูจะได้เจอพ่อเมื่อไหร่คะ”
ไม่ทันได้ฟังคำตอบโทรศัพท์ก็ถูกดึงกลับไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ลลิลหันขวับไปมองร่างสูงซึ่งในมือของเขากุมสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นไว้แน่น สัญญาณดูเหมือนถูกตัดขาดไปแล้วแต่หัวใจของหญิงสาวกลับยังห่วงหาอาวรณ์ผู้เป็นบิดา เธอมองอุปกรณ์สื่อสารในมือของพัลเลเดียมดวงตาแดงก่ำ
“คุณอา...”
“ตอนนี้เธอก็คงรู้แล้วสินะลาริมาร์ ว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุผลอะไรที่พ่อของเธอต้องไปอยู่ที่ไมแอมี่”
“คุณพ่อยังไม่ทันตอบเลยว่าลิลจะได้เจอท่านเมื่อไหร่”
“เมื่อฉันพอใจจะให้เธอได้เจอกับเขา เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”
“คุณอา!”
ลลิลปรี่เข้าไปดึงแขนเสื้อของพัลเลเดียมขณะเขาหันหลังให้ ชายหนุ่มหมุนตัวกลับและต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่จ้องเขาด้วยประกายตาเจ็บปวด ร่างบอบบางเผลอกุมแขนทั้งสองของเขาไว้แน่นราวกับเธอต้องการยึดเหนี่ยวไม่ให้เขาไปไหน
“ตอนนี้พี่สาวของคุณอาอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอคะ เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ”
“เธอยังไม่รู้สึกตัว!”
เสียงนั้นกระด้าง ชายหนุ่มขบกรามแน่นและพยายามบังคับแขนทั้งสองข้างให้แนบข้างลำตัวไม่เช่นนั้นเขาอาจพลั้งเผลอกระชากตัวเธอเข้ามาและทำอะไรรุนแรงเกินกว่าที่ตัวเขาสามารถควบคุมได้ แววตาของเขาขุ่นคลั่ก ลลิลได้ยินเสียงเขาขบฟันดังกรอด
“แพตอยู่ในห้องไอซียู พ่อของเธอเล่าให้ฟังหมดแล้วนี่ไม่ใช่หรือว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาทำร้ายพี่สาวของฉัน ทำลายระบบการเงินในล็อค ซาย แฟลคซิทรอน และ...เขาทำลายความเชื่อมั่นของฉันที่มีให้หุ้นส่วนคนสำคัญที่ร่วมงานกันมาหลายปี!”
“ลิลขอโทษ”
“จะมาขอโทษอะไรฉัน!”
“ได้โปรด...”
ลลิลยื้อแขนของเขาไว้และในห้วงนาทีนั้นเมื่อเขาได้เห็นน้ำตาหยดแรกของหญิงสาวกลับทำให้ความรู้สึกในส่วนลึกไหวยวบ หากทว่ามันถูกกดทับด้วยโทสะที่อัดอั้นเกินรับไหว เขาโกรธจนแทบบ้าตั้งแต่ได้รู้ว่าอิสราทำอะไรกับเขาและพี่สาว ทุกความโกรธแค้นประดังอยู่ในหัวใจและเขาคิดว่าต้องการเอาคืนให้สาสม ลลิลหายใจขัดทว่าเธอก็พยายามเข้มแข็งจะพูด
“ได้โปรดเถอะนะคะคุณอา ลิลรู้ว่าถ้าเป็นใครก็ต้องรู้สึกแย่ แต่ลิลแค่อยากขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่พ่อของลิลทำไป”
พัลเลเดียมเลิกมุมปากขึ้นและจับไหล่เล็กทั้งสองไว้แน่น
“คำขอโทษไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก ลาริมาร์...การกระทำต่างหากที่จะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าคนเรารักษาสัจจะของตัวเองมากแค่ไหน”
“ถ้าอย่างนั้นแล้ว จริงใช่ไหมคะที่ว่า...ถ้าหากลิลแต่งงานกับคุณอาแล้วคุณพ่อจะไม่เป็นอะไร”
ริมฝีปากหยักหนาที่เลิกขึ้นค่อย ๆ คลายตัวราบเรียบลง ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาแสนงามคู่นั้นซึ่งบัดนี้รื้นด้วยหยาดน้ำที่พร้อมจะหยดลงบนแก้มของเธอได้ทุกเมื่อ พลเลเดียมเก็บกดความรู้สึกบางอย่างไว้ในที่ลึกที่สุด
ความรู้สึกที่เขาเคยมีต่อลูกสาวของหุ้นส่วนคนสำคัญและมีความสนิทสนมกันมาเนิ่นนาน เขาเห็นลลิลตั้งแต่เธอวัยเยาว์กระทั่งเธอเติบโตเป็นสาวและสวยสะพรั่งมากขึ้นในทุกนาทีทั้งตลอดระยะเวลาหลายปีเขาก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับผู้หญิงคนไหนเลยแม้จะมีสาวสวยมากหน้าหลายตาเสนอตัวให้เลือกจนพี่สาวของเขาก็ยังแปลกใจและคิดด้วยซ้ำไปว่าว่าน้องชายตัวเองเป็นประเภทชอบไม่ป่าเดียวกันหรือไม่
พัลเลเดียมไม่เคยเปิดเผยความนัยบางอย่างให้ใครได้รู้ว่าใต้จิตสำนึกของเขามีภาพของเด็กสาวคนหนึ่ง เธองดงามดังดอกไม้บานยามเช้า ใบหน้าหมดจดและท่าทีอ่อนหวานจับจิตนั้นตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาทุกลมหายใจ เขาปรารถนาเก็บผลึกความฝันนั้นไว้หากอิสราไม่ทำลายทุกอย่างย่อยยับจนเหลือเพียงซากปรักในโลกที่บัดนี้แห้งเหือดและร้อนราวเพลิงผลาญ ชายหนุ่มขจัดความรู้สึกที่เริ่มคุกคามเขาอีกครั้ง แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมในฉับพลันก่อนรอยยิ้มหยันจะผุดขึ้นบนมุมปาก
