บทที่ 8 บทที่ 7 ธุรกิจร้านกาแฟ
ป๋าธันวาพาหญิงสาวมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าในเวลาต่อมา ปล่อยให้ได้เที่ยวเล่นให้สนุกสามารถใช้เงินในบัตรได้ตามใจไม่จำกัดวงเงิน เพราะเขาอยากให้รางวัลที่เมื่อคืนเธอทำถูกใจเขามาก
"หนูไปก่อนนะคะ"
เธอเอ่ยออกมาเสียงอ้อนก่อนจะยื่นริมฝีปากไปจุ๊บแก้มเขาด้วยความอ่อนโยน ใบหน้านั้นดูสดใสแตกต่างจากเมื่อวานที่ดูเกินกว่าเขาอย่างกับคนละคน
"เมื่อวานยังทำท่าทีกลัวอยู่เลยทำไมวันนี้ใจกล้าขึ้นเยอะล่ะ"
เขายื่นมือไปลูบแก้มของเธออย่างหลงใหล ไม่คิดเลยว่าผ่านไปแค่คืนเดียวจะทำให้ผู้หญิงที่ดูขี้อายกลายเป็นคนใจกล้าขนาดนี้
"ก็คุณป๋าชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าหนูทำท่าทางกลัวคุณก็จะดุ แต่ถ้าหนูอ้อนแบบนี้คุณป๋าก็จะใจดีกับหนู"
เธอเอ่ยออกมาเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับยื่นมือไปจับชายเสื้อของเขาก่อนจะส่ายไปมา ดูออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อยมันทำให้หัวใจของเขารู้สึกเต้นรัวอย่างประหลาด
"อะแฮ่ม... รีบลงไปได้แล้ว อยากจะซื้ออะไรก็ซื้อเลยนะเดี๋ยวตอนกลับจะให้วิคเตอร์มารอรับ แชมป์นายเอานามบัตรของวิคเตอร์ให้คุณหนูหน่อย"
"ได้ครับนาย"
แชมป์โค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะหยิบนามบัตรของผู้ช่วยอีกคนที่อยู่ในเก๊ะหน้ารถส่งไปให้คุณหนูที่นั่งอยู่เคียงข้างเจ้านาย เขาไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนักแต่เท่าที่สังเกตปฏิกิริยาของทั้งคู่เหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งเกินจะคาดเดา และเป็นผู้หญิงคนแรกที่เจ้านายดูเอาใจใส่เป็นพิเศษ
"นี่ครับคุณหนู"
"ขอบคุณค่ะพี่แชมป์"
เธอส่งยิ้มไปให้ผู้ช่วยคนสนิทของป๋าธันวาก่อนจะรับนามบัตรนั้นมาเก็บไว้ในกระเป๋า ยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มเขาด้วยความอ่อนโยนก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปทันที ซึ่งคนที่ถูกหอมแก้มถึงกับอึ้งไปมุมปากเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย และเมื่อเหลือบสายตาหันไปมองผ่านกระจกก็เจอใบหน้าของผู้ช่วยคนสนิทกำลังจ้องมองอยู่ซึ่งเขาเองก็อมยิ้มเช่นกัน
"แฮ่ม..."
ป๋าธันวากระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยิบไอแพดมากดดู
"ไปบริษัทได้แล้ว"
"ได้ครับเจ้านาย"
แชมป์อมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะรีบขับรถออกไปจากตรงนั้นทันที ดูเหมือนว่าเจ้านายจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้คุณหนูคนนั้นไม่น้อยเลย สงสัยเรื่องนี้คนที่จะให้ความกระจ่างน่าจะมีแค่คนที่นั่งอยู่ข้างหลังคนเดียวเท่านั้น
"ผมถามเรื่องคุณหนูได้ไหมครับ"
"สรุปว่าฉันจ้างมาเป็นผู้ช่วยหรือจ้างมายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน"
เขาเอ่ยออกไปเสียงดุก่อนจะหรี่ตามองผู้ช่วยคนสนิทของตัวเองผ่านกระจก ทั้งสองคนทำงานด้วยกันมานานซึ่งแน่นอนว่าแชมป์ไม่ได้กลัวกับท่าทีของเขาในตอนนี้อยู่แล้ว
"ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์กันมากเกินกว่ารู้จักกันธรรมดา ผมก็แค่อยากรู้จะได้ปฏิบัติตัวถูก"
"ไม่มีอะไรนี่ก็แค่เด็กเลี้ยงคนใหม่ เอามาเล่นสนุกแก้เบื่อก็เท่านั้นเอง"
"แต่เจ้านายไม่เคยเลี้ยงเด็กนะครับ"
และเมื่อเจอประโยคช็อตฟีลของลูกน้องก็ทำให้เขาโยนปากกาใส่หัวลูกน้องของตัวเองจนเขาต้องลูบหัวตัวเองป้อย ๆ พร้อมครวญครางออกมา
"ผมเจ็บนะครับ"
"ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องฉันดีนัก ลงใต้สักเดือนดีไหมเผื่อจะสงบปากสงบคำขึ้น"
"ผมไม่ถามแล้วก็ได้ครับ ไม่เห็นต้องดุกันขนาดนี้เลย"
ฉันทำหน้างอก่อนจะหันไปขับรถไม่ได้เอ่ยถามคำถามอย่างอื่นอีก ส่วนป๋าธันวาหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความไปหาวิคเตอร์เพื่อให้เขาตามไปดูแลเด็กในความดูแลเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังซุกอะไรอยู่
ทางด้านของดาราในตอนนี้เธอเดินขึ้นมาที่ห้าง วิ่งวนไปมาทั่วทุกชั้นและวันนี้เธอตั้งใจที่จะมาซื้อธุรกิจอย่างหนึ่งที่อยู่บนห้างนี้ โดยใช้บัตร black card ที่เขาให้มา แต่อาจจะซื้อแพงมากไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะถูกจับได้
"ซื้อธุรกิจอะไรดีนะ"
เธอหันซ้ายมองขวาเดินไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะเจอร้านกาแฟทำเลทองและดูเหมือนว่าลูกค้าจะเดินเข้าออกเยอะมาก
"ว้าว... ทำไมดูเหมือนร้านนี้ขายดีจัง"
เธอเดินเข้าไปในร้านก่อนจะทำการซื้อกาแฟ 1 แก้วพร้อมกับเค้ก 1 ชิ้นมาลองชิม ซึ่งแน่นอนว่าอร่อยมากมิน่าล่ะถึงมีแต่ลูกค้าเข้ามาซื้อจนคนแน่นขนาดนี้ หญิงสาวพูดคุยกับพนักงานขอพบกับผู้จัดการร้าน และเพียงไม่นานเขาก็เดินเข้ามาหา
"สวัสดีครับเห็นว่าคุณต้องการจะพบผู้จัดการไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า"
ผู้จัดการเดินเข้ามาหาพร้อมกับเลยถามด้วยท่าทีนอบน้อม เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตาก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"ถ้าเกิดว่าหนูจะซื้อร้านกาแฟที่นี่ต้องคุยกับใครคะ"
"หะ... คุณหมายถึงจะซื้อร้านกาแฟนี้เหรอครับ"
"ใช่ค่ะ หนูต้องติดต่อใครคะ"
ผู้จัดการร้านอ้าปากค้างอย่างตกใจ ร้านกาแฟที่นี่ยังไม่เคยมีใครได้เห็นใบหน้าของเจ้าของแม้แต่คนเดียว รู้แค่ว่ามีหลายสาขาซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ถ้าเกิดมีคนสนใจจะซื้อก็สามารถติดต่อกับผู้ช่วยเจ้าของแฟรนไชส์นี้ได้
"ผมก็ไม่เคยเห็นเจ้าของบริษัทเหมือนกันครับ แต่ว่าสามารถคุยกับผู้ช่วยของท่านเจ้าของได้ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมให้เบอร์ติดต่อนะครับ"
"ขอบคุณมากเลยค่ะ"
เธอเล็งร้านกาแฟนี้ไว้เพราะเท่าที่เดินมาร้านนี้น่าจะทำเงินได้ไม่น้อยเลย ถ้าซื้อธุรกิจที่นี่ใช้เวลาแป๊บเดียวก็จะมีเงินคืนป๋าธันวาได้ อิสระอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว...!
"ทำไมฉลาดแบบนี้นะดารา เฮ้อ..."
เธอยิ้มออกมาก่อนจะรับเบอร์โทรศัพท์จากผู้จัดการร้านจากนั้นก็รีบกดโทรไปยังปลายสายทันที และเมื่อมีคนกดรับสายเธอก็รีบเอ่ยถามทันที
(สวัสดีครับ)
"สวัสดีค่ะ พอดีว่าผู้จัดการร้านกาแฟเป็นคนให้เบอร์โทรศัพท์ของคุณมา เห็นเขาบอกว่าถ้าเกิดอยากจะซื้อธุรกิจร้านกาแฟที่อยู่ห้างนี้จะต้องติดต่อผ่านคุณ"
(ธุรกิจร้านกาแฟของเรามีสาขาทั่วประเทศ สามารถระบุได้ไหมครับว่าคุณสนใจซื้อแฟรนไชส์สาขาไหน)
"สาขาบนห้างที่อยู่ข้างตึก Live Vision Channel ค่ะ"
(ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปคุยกับท่านประธานให้)
"ชื่อดาราค่ะ ดารา ธิดาภา สุวรรณภาภรณ์"
(โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมขอคุยกับเจ้านายสักครู่ แล้วเดี๋ยวจะติดต่อกลับไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ)
"ขอบคุณมากเลยนะคะ ถ้าเกิดว่าเจ้าของร้านตัดสินใจที่จะขายหนูพร้อมจ่ายเลยค่ะ"
(ได้ครับถ้าอย่างนั้นรอสักครึ่งชั่วโมงนะครับ)
"ค่ะ"
เธอกดวางสายก่อนจะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าอารมณ์ดีสุดขีด ได้เป็นเจ้าของกิจการโดยที่ไม่ต้องลงทุนใช้เงินของตัวเองเลยสักบาท พอกำไรงอกเงยออกมาเธอก็เอาไปชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
"ใครจะฉลาดไปกว่าดาราคนนี้ไม่มีอีกแล้ว"
