บทที่ 7 ชะตาพลิกผัน (100%)
“สวยและเซ็กซี่อย่างเธอคงทำเงินให้ฉันได้ไม่น้อย” พูดกับตัวเองอย่างพออกพอใจ ยอมรับด้วยสายตาประจักษ์ว่าน้องสาวไอ้อธิปมันสวยชนิดหาตัวจับยากและเซ็กซี่ขยี้ใจ เหมือนที่พี่ชายมันเคยคุยโวโอ้อวดเอาไว้ไม่มีผิด อยากจะพาขึ้นเตียงไปท่องสวรรค์ชั้นฟ้า แต่ก็ต้องหักใจเพราะงานใหญ่และเงินกำลังรออยู่
“แล้วเสี่ยจะเอายังไงต่อไปครับ” ผู้ที่นั่งในตำแหน่งคนขับเอี้ยวหน้ากลับมาถามไถ่ผู้เป็นนายเพียงนิด ก่อนจะหันกลับไปมองเบื้องหน้าของท้องถนนดังเดิม
“ส่งตัวเธอขึ้นเรือไปสวีเดนทันทีที่ถึงท่าเรือ” สั่งลูกน้องเสร็จเสี่ยวันชัยก็เมินหน้าเหลี่ยมๆ ของตัวเองออกไปมองนอกกระจกรถด้วยเกรงว่าหากจับจ้องที่ใบหน้าสวยสะพรั่งดั่งดอกไม้แรกแย้มของคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มไปนานๆ จะทำให้เขาตบะแตกขึ้นมาได้
“ครับเสี่ย” ลูกน้องหน้าเหี้ยมรับคำผู้เป็นนายอย่างแข็งขัน พลางเหยียบคันเร่งตรงไปยังท่าเรือที่เสี่ยวันชัยใช้ในการส่งผู้หญิงไปยังต่างแดนเป็นประจำ
เมื่อลักษณ์ณารารู้สึกตัวอีกที เท้าน้อยทั้งสองข้างของเธอก็ไม่ได้เหยียบอยู่บนผืนแผ่นดินถิ่นสยามอีกแล้ว สิ่งที่เธอเหยียบอยู่มันคือพื้นของเรือขนส่งสินค้าลำใหญ่ที่กำลังล่องลอยอยู่ในน่านน้ำที่ไหนสักแห่ง ซึ่งเธอก็มิอาจทราบได้เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยขึ้นเรือมาก่อน รู้แต่ว่าทุกอย่างมันดูโคลงเคลงชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน
บนเรือลำนี้มีหญิงสาวอีกนับสิบชีวิตที่ถูกจับมา และแน่นอนว่าทุกคนล้วนไม่เต็มใจ เพราะบางคนยังมีร่องรอยของคราบน้ำตาเปื้อนตามใบหน้าอยู่
เธอจะต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้จงได้ ไวเท่าความคิดลักษณ์ณาราซอยเท้าไปยังประตูทันที เมื่อเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อก ปากรูปกระจับก็เผยยิ้มกว้างด้วยความพอใจ ก่อนจะวิ่งไปทะลุสู่อีกห้องใหญ่ที่ดูโล่งกว้าง ร่างบางหันรีหันขวาง หัวใจเต้นระทึกราวกับมีกลองเพลบรรจุอยู่นับสิบใบ
“นั่นเธอคิดจะไปไหนสาวน้อย” เสียงห้วนติดจะดุที่ดังอยู่เบื้องหลังทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก หันขวับกลับมามองเจ้าของเสียงที่ยืนจังก้าอยู่ไม่ไกลจากแผ่นหลังสะท้าน ก่อนจะสาวเท้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปยังประตูทางออก แต่เมื่อเธอไปถึงประตูกลับล็อค
“เปิดสิไอ้ประตูบ้า” มือทั้งสองข้างทั้งบิดทั้งดึงประตูบานนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก เพราะถูกล็อคกุญแจอย่างแน่นหนาจากภายนอก อึดใจต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ มาหยุดลงในระยะประชิดแผ่นหลังบอบบาง เหลียวหลังกลับมามองทั้งดึงประตู ก็เห็นว่าลูกน้องหน้าเหี้ยมของเสี่ยวันชัยกำลังแสยะยิ้มให้
“ทำยังไงก็หนีไม่รอดหรอกสาวน้อย กลับไปห้องเดิมที่เธออยู่” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเหนือศรีษะน้อย ไม่นานเสียงห้วนก็ตะคอกออกคำสั่งตามมา ใบหน้าถมึงทึงจนน่าขนหัวลุก ก่อนจะกระชากมือเธอออกจากลูกบิดประตู
“ไม่ ปล่อยฉันไปนะ แกไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน” สะบัดแขนพร้อมดิ้นเร่าๆ ให้หลุดพ้นจากอุ้งมือสาก ชายหน้าโหดมองแม่สาวจอมพยศอย่างโมโห ดีแล้วที่นายของเขาเรียกใช้บริการขนส่งแม่สาวพวกนี้มาทางเรือ หากขนกันมาทางเครื่องบินคงไม่พ้นโดนจับเพราะความโวยวายของผู้หญิงเป็นแน่
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อพี่ชายของเธอยกเธอใช้แทนหนี้แล้ว” ร่างบางที่ดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธการร้าย พลันหยุดชะงักลง เบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ช็อกกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้
“แกว่าอะไรนะ…” เสียงหวานครางผาดแผ่วราวคนละเมอ ใบหน้างามซีดเผือด อีกทั้งยังบังเกิดความสียใจและน้อยใจให้พี่ชาย ให้เธอใช้หนีแทนด้วยเงินเธอไม่ว่า แต่ทำเหมือนขายเธอโดยเอามาใช้หนี้แทนเงินแบบนี้ เธอรับไม่ได้ และจะไม่ขอทนกับสภาพอันน่าอดสูนี้อย่างเด็ดขาด ยังไงเธอก็จะหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้จงได้
“เธอตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเสี่ยวันชัยแล้ว ชัดไหมคนสวย” ว่าพลางฉุดกระชากลากดึงร่างบางไปยังห้องขังที่เธอเพิ่งจากมา ลักษณ์ณาราพยายามขืนร่างของตัวเองไว้อย่างสุดกำลัง หากแต่แรงเพียงน้อยนิดหรือจะทัดทานได้ เพียงลูกน้องเสี่ยใจมารออกแรงนิดหน่อย เธอก็ปลิวติดมือเขาไปเสียแล้ว
“ไม่มีทาง พวกแกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ฉันจะแจ้งความจับพวกแก” ถึงแม้จะไม่อาจต้านแรงของคนใจโฉดได้ จนร่างบางเซหลุนๆ ไปตามแรงฉุดกระชากอย่างไม่ปรานี แต่ปากเธอไม่ได้ถูกปิดสักหน่อย สู้ด้วยกำลังไม่ได้ก็เล่นสงครามน้ำลายมันซะเลย
“ฮะๆๆๆ เชิญขี่ม้าสามศอกไปบอกตำรวจเลยคนสวย แต่ก่อนที่เธอจะไป หนีให้พ้นจากเรือลำนี้เสียก่อนเถอะ” เสียงหัวเราะขบขันสร้างความไม่พอใจให้เธอเป็นอย่างมาก แถมคำพูดท้าทายยิ่งทำให้คนที่ไม่เคยยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ เช่นลักษณ์ณาราเกิดอาการฮึดสู้
“แล้วแกจะพาพวกเราไปไหน” พวกเราในที่นี้เหมารวมถึงสาวๆ ที่พวกมันจับมาขังไว้ ดวงตาสีนิลจ้องมองใบหน้าชายโฉดไม่ลดละ
“จะไปไหนเมื่อถึงที่หมายก็รู้เองนั่นแหละ อย่าแส่ให้มันมากนัก ถ้าไม่อยากโดนดี!” เสียงกระด้างตะคอกอย่างนึกรำคาญ ก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกเสียงดังปัง สร้างความแตกตื่นให้บรรดาหญิงสาวที่อยู่ในห้องนั้น ต่างตัวสั่นงันงก ถอยกรูดไปนั่งเบียดกันอยู่ที่มุมห้องอีกด้าน
“ไป…เข้าไปอยู่ในนั้น แล้วก็อย่าคิดหนีอีกล่ะ หากดื้อมาก ฉันจะเอาเธอไปให้คนงานในเรือได้เล่นสนุก ทีนี้ล่ะแม่คุณเอ๊ย…พยศไม่ออกแน่” ออกคำสั่งเสียงดุพร้อมขู่สำทับด้วยถ้อยคำอันน่าสะพรึงกลัวสำหรับลูกผู้หญิงในท้ายประโยค แสยะยิ้มเหี้ยมเต็มใบหน้า ก่อนจะผลักร่างเพรียวระหงไปรวมกลุ่มกับผู้หญิงคนอื่นๆ
“ไอ้เลว! ไอ้ชั่ว!” ถึงแม้จะหวาดกลัวสุดชีวิตกับน้ำคำน่าสะอิดสะเอียน แต่ลักษณ์ณาราก็มีสติพอที่จะสู้ ร่างบางกระโจนเข้าไปทุบตีทั่วทั้งตัวของคนใจบาป
