บทที่ 7 สารเสพติดชนิดร้ายแรง2
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้านอม โยช่วยน่ะดีแล้ว จะได้เสร็จเร็วๆ ไงคะ” หญิงสาวบอกผ่านรอยยิ้มอ่อนโยน แต่แม่ครัวสาวใหญ่กลับไม่สบายใจเลยสักนิด
“เดี๋ยวก็ถูกเอ็ดเอาเท่านั้นเอง ออกไปดูแลคุณรุตเถอะค่ะ”
ประโยคหลังเอ่ยเสียงแผ่วเบา สายตามองหญิงสาวด้วยความเห็นใจ แม่บ้านสาวหลุบนัยน์ตาลงมองผักนิ่ง ไม่คิดขยับออกไปไหนตามคำแนะนำของแม่ครัว ฝ่ายนั้นจึงได้แต่ส่ายหน้า เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวกำลังดื้อ…
“ตามใจนะคะ ถ้าถูกแกล้งขึ้นมาอีกแล้วจะหาว่าป้าไม่เตือน”
แล้วเสียงสับหมูก็ดังขึ้น ขณะที่โยษิตาเม้มปากแรงๆ ขัดใจทุกสิ่งทุกอย่างกับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น พลันหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมองไปด้านบน บอกตนเองว่าดีเหมือนกันที่เขาพาผู้หญิงที่ชื่อณิชาเข้าบ้าน บางทีผู้หญิงคนนี้อาจเป็นคนที่เขาคิดจริงจัง แล้วเมื่อหล่อนหลุดพ้น หล่อนจะไปจากที่นี่ จะไปและไม่กลับมาอีกเลย
ทว่ามือที่ถือมีดหั่นผักมีอันต้องชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หญิงสาวหยิบออกมาดูแล้วถอนหายใจ ก่อนจะหันไปมองแม่ครัวที่กำลังมองมายังหล่อนด้วยสายตาเข้าใจทุกอย่าง
“โยขอตัวก่อนนะคะป้า” ร่างบางผุดลุกจากเก้าอี้ ตรงไปยังอ่างล้างมือ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวเจ้าไหมมันก็กลับมา คุณรีบไปเถอะ”
หญิงสาวยิ้มให้อีกฝ่าย พลางถอนหายใจยาวแล้วก้าวออกจากห้องครัวในทันที
เมื่อมาถึงหน้าห้องทำงาน หญิงสาวหยุดทำใจห้าวินาทีก่อนจะเคาะประตูสองครั้งจนได้ยินเสียงอนุญาตจึงผลักบานประตูเข้าไป
“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือคะ” หยุดถามที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ดวงตาคู่สวยหลุบมองเอกสารบนโต๊ะที่เขาอ่านค้างไว้ แล้วเขาก็ผลักมันออกห่าง พร้อมกับพยักหน้าเรียกหล่อนให้เข้าไปหา
“มานี่สิ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังตบลงบนขาตัวเองเบาๆ สายตาพุ่งตรงมาที่หล่อนอย่างรอคอย
“ค่ำแล้วนะคะ อีกสักพักคุณณิอาจจะลงมาหาคุณ” แม้จะรู้ว่าไม่เคยได้ผลที่คัดค้านเขาแบบนี้ แต่หญิงสาวก็ยังพยายามยับยั้งเอาไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นเขาก็เอาแต่ใจตัวเองอยู่ร่ำไป วุ่นวายกับหล่อนไม่เลือกเวลาหรือสถานที่ แม้จะมีแขกพิเศษของเขาอยู่ในบ้านแบบนี้แล้วก็ยังไม่หยุด…
“พูดมากจัง มาเถอะน่า” เขาทำเสียงขุ่น นัยน์ตาก็เริ่มขุ่นด้วยเช่นกัน หญิงสาวจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วก้าวเข้าไปหาคนเอาแต่ใจหลังโต๊ะทำงาน
“ก็แค่เนี้ยะ” พูดจบร่างกลมกลึงก็ทรุดนั่งลงไปบนตักกว้างของเขา แล้วแก้มนุ่มนิ่มก็ถูกฝังโดยจมูกและปากร้อนๆ จนขนกายลุกเกรียว ก่อนจะผลักอกของเขาให้ออกห่างอย่างลำบาก
“คุณรุต” ร้องปรามเขาเบาๆ แม้จะรู้ว่าไม่เคยได้ผล เพราะเขาจะทำตามใจตัวเองจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการก็ตามที
คิ้วสีเข้มเลิกสูง ริมฝีปากหยักยกนิดๆ
“เรียกอยู่นั่น มาจูบทีสิ วันนี้เรายังไม่ได้จูบกันเลย” ศีรษะเล็กๆ ของหญิงสาวถูกกระชับด้วยฝ่ามือใหญ่ แล้วเรียวปากนุ่มละมุนก็ถูกบดขยี้ด้วยริมฝีปากร้อนระอุ หญิงสาวต่อต้านได้ไม่นาน ก็ต้องเผยอปากรับปลายลิ้นสากของเขา มิหนำซ้ำยังเผลอตอบรับจุมพิตเอาแต่ใจอย่างเร่าร้อนกลับไปอย่างลืมตัว
“อืม” เสียงคำรามด้วยความพอใจหลุดจากลำคอของมารุต เช่นเดียวกับกระโปรงของหญิงสาวที่ค่อยๆ ร่นขึ้นมาจนถึงสะโพกนุ่ม ก่อนสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือพลิ้วไหววางแหมะลงบนเนินนางอวบอิ่มกลางกาย
“คุณรุต!!” หญิงสาวปัดมือของเขาออก ทั้งยังผลักใบหน้าคมเข้มที่ฟอนเฟ้นอยู่กับอกสล้างของหล่อนให้ผละห่าง
“ฮื้อ” เขาทำเสียงหงุดหงิด หน้าก็หงุดหงิดพอกัน “อะไรอีกล่ะ อยู่เฉยสิ”
เขารัดหล่อนเข้าหา แล้วยังอ้าปากงับเนินเนื้อที่โผล่จากร่มผ้าเพราะถูกเขาปลดกระดุมออกเสียสองเม็ดจนเห็นเนินอกรำไร ขณะที่กระโปรงก็กำลังถูกถลกขึ้นมาถึงเอวอยู่รอมร่อ!!
“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ ปล่อย” หญิงสาวพยายามดึกระโปรงลงปิดบังส่วนสาว ขณะที่คนเอาแต่ใจทำตาเขียว ตามมายึดมือหล่อนเอาไว้แล้วจ้องตากันนิ่ง
“ไม่ จนกว่าเราจะเสร็จธุระกัน!”
คนฟังใจไหววาบ แก้มร้อนผะผ่าว ยิ่งเขาหลุบตาลงแล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นช้าๆ อีกครั้ง ขนกายทุกเส้นก็ลุกเกรียว เป็นเหมือนกับทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกหวั่นไหว
“จะหยุดได้ไง ไม่รู้ตัวเหรอ ว่าตัวเองน่ะ เป็นสารเสพติดชนิดร้ายแรง ขืนหยุดกลางคันฉันก็ลงแดงตายน่ะสิ” ปลายนิ้วเรียวเลือนจากหน้าท้องแบนราบผ่านส่วนโค้งของทรวงอกอวบอิ่ม ขึ้นมาที่ลำคอระหง แล้วหยุดลงที่เรียวปากสีหวาน ไล้เบาๆ จนริมฝีปากที่ปิดสนิทเผยอออก ยอมให้เขาสอดปลายนิ้วเรียวเข้าไปในอุ้งปากนุ่ม ดวงตาสีเข้มวาวขึ้นแล้วบอก
“เรามา…ทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่านะ”
พูดจบ ร่างนุ่มก็ลอยหวือขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานของเขาทันที…
