บทที่ 9 เสียงสะท้าน2

ณิชาลอบสังเกตแม่บ้านสาวสวยที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลสาวใช้อีกต่อหนึ่งเงียบๆ ยิ่งเห็นว่าคุณเมธัตให้ความเอ็นดูก็ยิ่งอยากรู้จักมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งทุกคนอิ่ม จึงพากันย้ายไปที่ห้องนั่งเล่น โยษิตาตามไปดูแลไม่นานนัก ก่อนปล่อยให้เจ้านายทั้งหลายใช้เวลาช่วงนี้เป็นการส่วนตัว

“คุณโยดูสาว สวย มากกว่าจะเป็นแค่แม่บ้านนะคะคุณลุง” ณิชาเปรยออกมาตรงๆ สายตามีความอยากรู้มากมายจนเมธัตต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะที่มารุตนิ่งเงียบตามแบบฉบับของเขา ส่วนวารุณีที่นั่งข้างสามีตวัดสายตามองมารุตแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ

“โยเป็นลูกสาวของอดีตคนสนิทของลุง พอคนสนิทของลุงเสียชีวิตไป ลุงกับแม่ของเจ้ารุตก็เลยรับเลี้ยงโยตั้งแต่นั้นมา อายุอานามอ่อนกว่าหนูไม่กี่ปีหรอก ตอนนี้ก็ยี่สิบหกแล้ว”

“ณิสามสิบเอ็ดค่ะ รุ่นราวคราวเดียวกับคุณวา” มองสบตาวารุณีพลางยิ้มหวาน ทำให้คุณเมธัตมองภรรยายิ้มๆ อีกฝ่ายจึงหันมายิ้มให้สามีอย่างเสียไม่ได้

“แล้วคุณโยเรียนจบอะไรมาคะ” ยังสนใจในตัวแม่บ้านสาวคนสวยของเมธัตไม่คลาย

“จบการโรงแรม” มารุตเป็นคนตอบ ทำให้ณิชาหันมาเลิกคิ้วกับชายหนุ่ม

“อ้อ ก็ตรงสายดีค่ะ จบมาก็มาเป็นแม่บ้านให้กับคุณลุง แบบนี้ก็เหมาะดีแล้วนะคะ”

เมธัตยิ้มตอบเพื่อนคนสนิทของลูกชายพลางบอก

“โยเก่งหลายเรื่อง ไม่เคยบกพร่องเรื่องงานบ้านงานเรือน คนรู้จักของลุงยังเคยยืมตัวไปช่วยจัดงานเลี้ยงที่บ้านพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง เจ้าตัวเองก็เคยขอออกไปทำงานข้างนอกเหมือนกัน แต่ลุงเป็นห่วง อีกอย่างทำที่นี่ก็เหมือนกัน ก็เลยยังไม่อยากให้ออกไปไหน นอกจากอยู่ที่นี่” สายตาของท่านมองไปยังบุตรชายยิ้มๆ มารุตสบตาบิดาแวบหนึ่งก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ แล้วมองตรงไปยังจอทีวีขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ให้ความสนใจอย่างที่แสดงออกเลยสักนิด

“เก่งจังเลยนะคะ แล้วมีแฟนหรือยังคะ สวยแบบนี้คงต้องมีแล้วแน่ๆ ใช่ไหมคะ”

คำถามของณิชาทำให้คุณเมธัตหัวเราะออกมาเบาๆ จนหญิงสาวต้องขมวดคิ้วมุ่น

“มีอะไรหรือคะ หรือว่าณิพูดผิด” เอ่ยถามด้วยสีหน้าเจือยิ้ม หากแววตากลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย มองตามสายตาของท่านไปหยุดที่มารุต ที่ทำหน้าเรียบเฉย ทว่ามุมปากข้างหนึ่งยกยิ้ม

“โยยังไม่มีแฟนอย่างที่หนูคิดหรอก” คนฟังทำหน้าเหลือเชื่อ จนคนตอบหัวเราะออกมาอีกครั้ง แต่สายตาเหลือบมองลูกชายที่ทำหน้านิ่งอย่างหมั่นไส้ “โยน่ะ สวยจนมีแมวมองติดต่อให้ไปเป็นดาราด้วยซ้ำ แต่มีคนหวง เลยไม่ยอมอนุญาตให้เปิดตัวบ่อยนัก ส่วนหนุ่มๆ ที่มาจีบ ก็ถูกแกล้งจนเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศละทาง”

คำตอบของคุณเมธัตทำให้ณิชารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงหันไปมองคนข้างกายที่ทำหน้าเรียบเฉย ทว่ามุมปากแต้มยิ้มแปลกๆ จนหัวใจหล่อนกระตุก

หรือว่าคนที่หวงคือ…

“ดึกแล้ว คืนนี้ลุงขอตัวก่อนแล้วกันนะหนู พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัท ตามสบายนะ” คุณเมธัตลุกขึ้นยืน วารุณีจำต้องลุกตาม ท่านอ้อมแขนมา กอดเอวภรรยา ยิ้มให้หล่อนแล้วพาก้าวออกจากห้องนั่งเล่น ณิชามองทั้งสองจนลับสายตาก่อนหันมามองผู้ชายที่ตนหมายตาเอาไว้อีกครั้ง

“ไม่ยักรู้ว่าคุณวาแต่งงานกับคุณพ่อของคุณ” ณิชาได้โอกาสจึงเอ่ยถามเขา ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม พลางหลุบตามองคนข้างกายที่เวลานี้เบียดเข้าหาจนแนบสนิทไปข้างหนึ่ง

“สามปีแล้ว”

ณิชาทำตาโต ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าตนตกข่าว

“จริงเหรอคะ ทำไมเงียบจัง ณิไม่ยักจะรู้” บอกพลางยกมือขึ้นลูบอกเขาเบาๆ ดวงตาคู่งามมองใบหน้าคมคายไม่คลาด พยายามมองหาความผิดปกติบนใบหน้าคมคายของเขา แต่ไม่พบสักวินาทีเดียว

“คุณพ่อกับคุณวาตกลงใช้ชีวิตด้วยกันเงียบๆ มีเลี้ยงกันเล็กๆ ภายในครอบครัวเท่านั้น ก็เลยไม่มีข่าวอะไร"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป