บทที่ 3 คำสั่งประกาศิต (75%)
“ฮันนี่!” อุทานลั่นพร้อมหรี่ตามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขายังจำยายแว่นใส่เหล็กดัดฟันได้ไม่เคยลืมเลือน ผู้หญิงอะไรน่ากลัวเสียยิ่งกว่าไอ้ด่างที่ใส่กระจับครอบปากไว้ อ้าปากแต่ละทีก็แทบน้ำลายไหลเยิ้มเหมือนหมาบ้า ไม่สวยไม่พอ แม่คุณยังพกความสยองติดตัวมาเป็นกระบุง
“ใช่ แม่หนูฮันนี่ โดโนแวย์ ลูกสาวของท่านนายพลบิช็อฟ โดโนแวย์ ที่เคยอยู่ข้างบ้านเราอย่างไรล่ะ” นางอลิเซียพยักหน้าให้หลานชายตัวแสบเบาๆ พลางแอบกระหยิ่มในใจ เพราะรู้ดีว่าหากยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวอ้าง ขี้คร้านพ่อตัวดีจะรีบวิ่งแจ้นไปหาเมียมาให้นางดูหน้า
“หัวเด็ดตีนขาดยังไงผมก็ไม่แต่งงานกับยายหมาบ้านั่น” แอรอนยืนกรานเสียงแข็ง
“ไม่แต่งก็ต้องแต่ง ในเมื่อแกไม่ยอมหาหลานสะใภ้ตามที่ย่าต้องการ ฉะนั้นแกก็ต้องแต่งงานกับคนที่ย่าหามาให้อย่างไม่มีข้อแม้” เห็นพ่อคุณเล่นแง่ดีนัก นางอลิเซียยิ่งอยากเอาชนะคนหัวดื้อเสียให้เข็ด จึงส่งเสียงแข็งไปออกคำสั่งเชิงบังคับหลานชาย
“อย่าทำอย่างนั้นนะครับ คุณย่า ถ้าคุณย่าไม่อยากเห็นหลานชายตัวเองลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง เพราะโดนยายฮันนี่ขย้ำคอตายอย่างน่าอนาท” เสียงหลงเอ่ยห้ามปราม พร้อมทำท่าสยดสยองเมื่อนึกถึงใบหน้าของสาวเจ้า จนผู้เป็นย่าซัดเผียะเข้าที่ลำแขนแกร่งอย่างหมั่นไส้ในความห่ามของพ่อยอดชาย
“กลัวอะไรเขานักหนาฮึ พ่อตัวดี ฉันว่าหนูฮันนี่เหมาะกับแกจะตาย” นางอลิเซียไหวไหล่เบาๆ ท่าทางไม่ได้แยแสอาการจะเป็นจะตายของเจ้าหลานชายตัวแสบเลยสักนิด ส่วนคนฟังได้แต่แอบเบ้ปากไปกับประโยคแสนชื่นชมของคุณย่า ก่อนจะโต้ตอบอย่างอดใจไม่ไหว
“ฮึ่ย…แค่คิดถึงหน้าแม่นั่น ผมก็ทำเหลนให้คุณย่าไม่ลงแล้วครับ ขนาดดับไฟยังคิดสภาพการมีเซ็กส์กับหล่อนไม่ออกเลย ให้ตายเถอะ!” แอรอนว่าพลางทำท่าขนลุกขนชันได้อย่างน่าหยิกให้เนื้อเขียว
เผียะ!
ฝ่ามือเรียวของนางอลิเซียฟาดลงตรงแขนล่ำของหลานชายอีกครั้ง เป็นผู้ชายอกสามศอกแท้ๆ ยังมากระแนะกระแหนผู้หญิงได้อย่างน่าหมั่นไส้ หากเกิดเป็นหญิงนางไม่ต้องเทียวขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะความปากเปราะของหลานหรืออย่างไร แต่ถ้าหากแอรอนเกิดเป็นหญิงเสียตั้งแต่แรกนางอาจจะไม่ต้องปวดหัว เพราะความเจ้าชู้ของเขาก็เป็นได้
“ดูถูกเขาเข้าไป หากได้ลองของแปลกสักครั้ง แล้วแกอาจจะติดใจก็ได้นะ” เปรยเบาๆ ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าแม้จะชักเอาแม่น้ำทั้งห้ามากองตรงหน้า พ่อเจ้าประคุณคนกลัวของแปลกก็ไม่ยอมตกปากรับคำแต่งงานกับลูกสาวนายพลบิช็อฟอย่างแน่นอน
“ไม่เด็ดขาดครับ คุณย่า ของแปลกแบบนั้นผมไม่กล้ากระเดือกหรอก ประเดี๋ยวติดคอแล้วจะยุ่ง อย่าให้ผมแต่งงานกับแม่นั่นเลยนะครับ”
เสียงห้าวปฏิเสธหญิงสาวที่คุณย่ากำลังตั้งท่าจะยัดเยียดให้ ถ้าหล่อนสวยกว่านี้สักหน่อย เขาคงหลับหูหลับตาเอาทำเมียได้ หากหาเมียไม่ทันท่วงทีตามที่คุณย่ากำหนดไว้ แต่นี่แม่คุณน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอะไรดี มองหน้าหล่อนแล้วเขาคงหมดอารมณ์ทางเพศไปโดยปริยาย
“ถ้าแกไม่อยากให้ฉันจับแต่งงานกับหนูฮันนี่ แกก็รีบหาเมียให้ได้ แล้วก็เอาทะเบียนสมรสมายืนยันว่าแกได้แต่งงานแล้วจริงๆ แต่ถ้าหากแกทำอย่างที่ฉันต้องการไม่ได้ แกก็ต้องชวดมรดก” น้ำเสียงราบเรียบของประมุขใหญ่แห่งตระกูลมอร์แกนกล่าวถึงความต้องการของตน พลางยกขาขึ้นไขว่ห้าง แล้วปรายตามองอีกฝ่ายอย่างสบายอารมณ์
“ทะเบียนสมรส!” เสียงสูงของแอรอนอุทานเป็นครั้งที่เท่าไรไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าเขากำลังทำท่าตกใจสุดขีด แล้วนี่จะบ่ายหน้าไปให้ใครช่วยดีล่ะ
‘เมียมันสั่งตัดได้เหมือนเสื้อผ้าก็ดีน่ะสิ เขาจะได้ไปสั่งตัดมาให้คุณย่าดูวันนี้พรุ่งนี้เสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย’ ยิ่งคิดพ่อหนุ่มกะล่อนก็ยิ่งกลัดกลุ้ม
“ใช่ แกจะไม่เอาก็ได้นะมรดกในส่วนของฉัน เพราะมรดกที่พ่อแม่แกทิ้งไว้ให้ กินทิ้งกินขว้างทั้งปีทั้งชาติก็ไม่หมดอยู่แล้วนี่ แบ่งๆ ให้ริชาร์ดเอาไปใช้บ้างจะเป็นไรไป จริงไหมแอรอน?” นางอลิเซียจงใจกล่าววาจากระตุ้นให้อีกฝ่ายต้องคิดหนักกว่าเดิม
แม้ว่ามรดกในส่วนที่แอรอน มอร์แกน ถือครองอยู่จะมีมูลค่ามากมายมหาศาล ชนิดที่ว่าแจกจ่ายคนทั้งเมืองกินใช้ตลอดปีตลอดชาติก็ยังไม่หมด แต่เขาจะไม่ยอมให้ไอ้ริชาร์ดมันเชิดมรดกในส่วนของคุณย่าไปได้ อะไรที่มันสมควรเป็นของเขาตั้งแต่แรก มันย่อมต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาโดยชอบธรรมอยู่วันยังค่ำ แต่ในเมื่อคุณย่ายื่นคำขาดมาทำนองนี้ เขาก็ต้องเล่นตามน้ำไปก่อน
“โอเคครับ คุณย่า ภายในสามเดือนนี้ ผมรับรองว่าคุณย่าจะได้เห็นหน้าหลานสะใภ้อย่างแน่นอน” แอรอนเอ่ยปากรับคำอย่างแข็งขันเพื่อเป็นการตัดบท ก่อนที่คุณนายอลิเซียจะต่อความยาวสาวความยืดไปมากกว่านั้น รับคำส่งเดชไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
หลังจากรับปากตกลงกับคุณย่าสุดที่รักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของร่างทรงพลังก็เดินกระแทกส้นเท้ามาตามทางเชื่อมเข้าสู่เพนต์เฮาส์หลังงาม ซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ภายในอาณาบริเวณเดียวกันกับคฤหาสน์มอร์แกน ก่อนจะสาวเท้ามั่นคงตรงดิ่งไปยังห้องทำงานที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่บนชั้นสาม
แอรอนทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงาน พร้อมพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมาอย่างยาวเหยียด ที่เขาต้องออกแบบและสร้างเพนต์เฮาส์หลังนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียนจบใหม่ๆ ก็เพราะว่าต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งคุณย่าของเขาก็เคารพในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนี้หรือเรื่องไหนๆ ถ้าไม่นับรวมถึงเรื่องที่ท่านเคยเปรยเอาไว้ว่าอยากเห็นหน้าเหลนเมื่อสามปีก่อน นางอลิเซียก็ไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาเลยสักครั้ง จวบจนกระทั่งวันนี้อยู่ดีๆ ท่านก็ยกเอาเรื่องมรดกขึ้นมาพูด โดยพ่วงเข้ากับเรื่องการแต่งงาน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องหาผู้หญิงสักคนมาทำเมีย และอาจหมายรวมไปถึงการทำเหลน เพื่อให้มรดกไม่ไปตกอยู่ในมือของลูกเมียน้อยอย่างไอ้ริชาร์ด และมันก็จะทำให้เขารอดพ้นจากการจับแต่งงานกับฮันนี่ โดโนแวย์ ไปโดยปริยาย แต่ผู้หญิงดีๆ สมัยนี้มันหาง่ายเสียเมื่อไรกันล่ะ คิดแล้วก็กลุ้มนักเชียว
