บทที่ 4 คำสั่งประกาศิต (100%)
“เฮ้อ…ฉันควรทำอย่างไรดีนะ แม่กวางน้อย” หยิบปิ่นปักผมในลิ้นชักขึ้นมามอง แล้วรำพันกับตัวเองเบาๆ ใบหน้าคร้ามคมมีร่องรอยของความหนักใจกับคำสั่งประกาศิตอยู่เต็มเปี่ยม
“ถ้าได้เจอเธออีกสักครั้งก็คงดีสินะ จะจับมาทำเมียเสียให้เข็ด” ชั่วพริบตาเขาก็พูดคนเดียวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่คิดถึงเธอ จะทำให้เพลย์บอยที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิงอย่างแอรอน มอร์แกน สามารถสลัดความกลัดกลุ้ม แล้วแปรเปลี่ยนเป็นมีความสุขและกระชุ่มกระชวยได้อย่างน่าอัศจรรย์
“บ้าเอ๊ย อยู่ๆ ทำไมเราต้องคิดถึงแม่นั่นด้วยวะ” ร่างทรงพลังสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อระลึกได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงแปลกหน้าที่เคยช่วยชีวิตเธอกับลูกเอาไว้เมื่อสามปีก่อน เสียงห้าวก็สบถเตือนสติตัวเองทันที ชายหนุ่มสะบัดหัวขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน แล้วพยายามนึกถึงใบหน้าของสาวๆ ที่เคยควง
“ทำไมมันคิดหน้าใครไม่ออกเลยวะ” หนุ่มหล่อบ่นอุบพร้อมตีหน้ายุ่ง เพราะตอนนี้ในหัวสมองอันชาญฉลาดมีแต่หน้าแม่กวางน้อยลอยอยู่เต็มไปหมด
“แล้วเราจะไปหาใครมาเป็นเมียเฉพาะกิจล่ะเนี่ย” มือใหญ่ยกขึ้นขยี้กลุ่มผมที่จัดทรงเอาไว้อย่างดี พร้อมบ่นเบาๆด้วยความหนักใจ
หลังจากที่เริ่มคิดได้ว่าตัวเองจะต้องหาใครสักคนมารับบทเมียกำมะลอ ตามคำที่เพื่อนรักอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด เคยแนะนำเอาไว้เมื่อสามปีก่อน แอรอนก็โทร.ไปเรียกให้เลขาฯ ขึ้นมาพบที่ห้องทำงานทันที
ไม่ถึงสิบนาทีเสียงเคาะประตูของลูกน้องคนสนิทก็ดังขึ้น หลังน้ำเสียงทรงพลังเอ่ยอนุญาตออกไป ร่างสูงใหญ่ของร็อบก็ก้าวเข้ามาภายใน
“นายเรียกผม มีอะไรหรือเปล่าครับ” เมื่อมายืนกุมมือสงบนิ่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของผู้เป็นเจ้านาย ร็อบก็เอ่ยถามไถ่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทันที
“เอารูปและประวัติของผู้หญิงในลิสต์มาให้ฉันดูหน่อย” ทั้งที่ผู้หญิงบางคนเขาเพิ่งนอนด้วยไปหมาดๆ แต่หัวสมองอันชาญฉลาดของพ่อยอดชายกลับจำหน้าหล่อนแทบไม่ได้เลย และแน่นอนว่าชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ต่างจากอากาศธาตุด้วยเช่นกัน
ในเมื่อยังคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้ แอรอนถึงต้องใช้วิธีนี้ไปก่อน ถ้าผู้หญิงคนใดคนหนึ่งมีคุณสมบัติเข้าข่าย บางทีเขาก็อาจจะจ้างให้หล่อนมาเล่นละครตบตาคุณย่า โดยการรับบทเมียตีทะเบียน เมื่อมรดกตกเป็นของเขาแล้วก็จัดการหย่าขาดจากหล่อนซะ แค่นี้เรื่องก็จบ
“ทั้งหมดเลยไหมครับนาย?” ร็อบทำหน้าแปลกใจ เพราะเจ้านายของเขาไม่เคยจะสนใจไยดีผู้หญิงที่เรียกใช้งานเลยสักครั้ง
“เฉพาะคนที่เคยขึ้นเตียงกับฉันก็พอ” เจ้าพ่อหนุ่มสั่งเสียงห้าวห้วน ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดระคนเบื่อหน่าย สาเหตุที่แอรอนต้องเลือกผู้หญิงที่ตัวเองเคยมีสัมพันธ์สวาทด้วย เพราะไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่เหลือในรายชื่ออีกเป็นจำนวนมากเข้ามาพัวพันให้ชีวิตของเขามันอีนุงตุงนังหนักไปกว่าเดิม
“พรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะอยู่ที่โต๊ะทำงานของเจ้านายแน่นอนครับ” เลขาฯ มากประสิทธิภาพรับปากอย่างแข็งขัน งานแค่นี้ไม่คณามือของเขาอยู่แล้ว
“งั้นแกก็ไปพักผ่อนเถอะ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ” โบกมือใหญ่ไล่ลูกน้อง พลางเก็บปิ่นปักผมของแม่กวางน้อยไว้ในลิ้นชักดังเดิม ก่อนที่แอรอนจะก้าวขาออกไปจากประตูบานเดียวกับที่ร็อบเพิ่งก้าวออกไปเมื่อสักครู่
ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้นายเจนภพ อริยโภคทรัพย์ หลุดออกจากภวังค์ความคิดหมกมุ่นของตัวเอง ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมากดรับสาย
“ว่าไง ได้เรื่องแล้วหรือยัง” ภาษาสวีเดนที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบดูเครียดเขม็ง เพราะกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ให้ลูกน้องจัดการมาตลอดระยะเวลาห้าปี งานง่ายๆ ก็แค่เก็บมัลลิกากับแดนไทย แต่พวกมันก็พลาดอยู่ร่ำไป ค่าจ้างเขาก็ทุ่มไม่อั้น ทว่าโชคดันเข้าข้างสองแม่ลูกเสียทุกครั้ง
“เรารู้ที่อยู่ของสองแม่ลูกแล้วครับ” เสียงเข้มรายงานมาตามสาย หลังจากตามสืบอยู่นานเขาถึงได้รู้ที่อยู่ของคนที่เจ้านายต้องการเอาชีวิต เพราะสองแม่ลูกย้ายบ้านบ่อยเสียจนคนที่เขาจ้างให้ไปสืบจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ดี ให้คนจัดการมันซะ ฆ่านังมัลลิกาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องฆ่าลูกมันให้ได้ ฉันต้องการให้ไอ้เด็กเวรนั่นตายให้เร็วที่สุด เข้าใจไหม” แสยะยิ้มเหี้ยมพร้อมสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“ครับนาย”
“บอกคนที่แกจ้างด้วยล่ะว่ามันมีโอกาสแค่สามครั้งเท่านั้น” ก่อนจะวางสายไม่ลืมกำชับอีกฝ่ายด้วยเสียงเข้ม เพราะเจนภพไม่ได้ให้คนของตัวเองลงมือ ด้วยเกรงว่าจะสาวมาถึงตัวหากพลาดพลั้งโดนตำรวจจับ จึงให้ลูกน้องจ้างคนที่สวีเดนเป็นผู้ลงมือ ซึ่งถ้างานพลาดพวกมันก็จะไม่มีเงาหัวด้วยฝีมือลูกน้องของเขาอีกที
“ถ้ารู้ว่าแกจะมีมารหัวขนมาเป็นตัวขัดขวางการได้ครอบครองมรดกของฉันล่ะก็ ฉันคงไม่ทำให้แกแค่โดนไอ้เจนสิทธิ์ไล่ออกจากบ้านหรอก นังมาลินี แต่ฉันจะฆ่าแกตั้งแต่ที่แกระเห็จออกจากบ้านแล้ว เรื่องมันจะได้จบๆ และฉันก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามเก็บลูกชายของแกอยู่แบบนี้” หลังจากวางสาย เจนภพก็เข่นเขี้ยวอยู่คนเดียวด้วยความเจ็บใจที่ตัวเองตัดสินใจพลาดอย่างมหันต์
“พ่อก็เหมือนกัน ขนาดตายไปแล้วยังไม่วายสร้างความยุ่งยากให้กับฉัน เป็นไงล่ะรักมันมากนักไอ้เจนสิทธิ์ ฉันก็เลยส่งมันไปลงนรกรอพ่อ แต่ตอนนี้พ่อก็คงได้เจอกับมันแล้วสินะ” ยิ่งกล่าวถึงบิดา เจนภพก็ยิ่งเดือดดาล เพราะหากอีกฝ่ายไม่ระบุไว้ในพินัยกรรมว่าให้มรดกส่วนของเจนสิทธิ์ตกเป็นของทายาท ป่านนี้เขาก็คงจะได้มันมาครอบครอง และมรดกนับพันล้านก็อาจจะตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวหากเขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้น้องสาวหัวอ่อนอย่างเจนสุดา อริยโภคทรัพย์ ยอมทำเรื่องสละมรดกได้
หลังจากที่เสียลูกชายคนเล็กไปอย่างกะทันหัน นายเจน อริยโภคทรัพย์ ประมุขใหญ่ของตระกูลอริยโภคทรัพย์ก็เกิดอาการล้มป่วยเพราะตรอมใจ ยิ่งรักษากลับยิ่งทรุดหนักอย่างน่าประหลาด ฉะนั้นก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจจึงสั่งให้คนไปตามสืบเรื่องของมาลินี จนได้รู้ว่าเธอได้ให้กำเนิดทายาทของอริยโภคทรัพย์ นายเจนจึงเขียนพินัยกรรมขึ้นโดยยกทรัพย์สมบัติในส่วนที่ลูกชายคนเล็กควรจะได้รับให้ทายาทของเจนสิทธิ์กับมาลินีเป็นผู้รับแทน และระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าเด็กน้อยจะใช้นามสกุลอริยโภคทรัพย์หรือไม่ก็ตาม ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นลูกของเจนสิทธิ์กับมาลินีจริงๆ มรดกก็จะตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรมโดยทันที
