บทที่ 7 เรื่องราวในอดีต

“สวัสดีค่ะ แก้วกาญ ผู้จัดการผับค่ะ” แก้วกาญยื่นมือไปให้ชายหนุ่มตรงหน้าทันที

“สวัสดี ผมอคิน ยินดีที่ได้รู้จัก” ชายหนุ่มยื่นมือไปเช็คแฮนด์กลับ ก่อนจะพยักหน้าให้หญิงสาวตรงหน้าลงนั่งที่โซฟาอีกด้าน

“เห็นเด็กบอกว่าคุณไม่ต้องการบริการพิเศษจากเรา”

“ไม่ทราบคุณอยากได้บริการแบบไหนคะ”

“ฉันจัดหาให้ได้นะคะ” แก้วกาญเริ่มชวนคุยเมื่อเห็นบริกรยกแก้วเครื่องดื่มมาให้เรียบร้อย

“ผมมาทำงาน ไม่ได้อยากได้บริการเสริมอะไร”

“ว่าแต่ที่นี่มีบริการเสริมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร” อคินเริ่มเข้าประเด็นทันที

“แหม่ ที่นี่เริ่มมีบริการเสริมตั้งแต่ฉันเข้ามาเป็นผู้จัดการเองล่ะคะ”

“ที่ผ่านมาเจ้าของเขาให้สิทธิ์ในการตัดสินใจทุกอย่างให้ฉัน”

“ฉันเลยอยากทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักมากขึ้น เลยทำบริการเสริมนี้ขึ้นมา” แก้วกาญพูดออกไปเพราะคิดว่าคนตรงหน้าคงอยากรู้อะไรก่อนการตัดสินใจ

“อืม ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย”

“เพราะตั้งแต่เปิดผับมา”

“ผมว่าผมวางแผนโปรโมทผับมากพอ ที่จะทำให้ที่นี่อยู่ได้ด้วยไม่มีบริการเสริมนะ” แก้วกาญถึงกับสะดุดกับคำพูดของคนตรงหน้า ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้บริกรเอาเครื่องดื่มมาเปลี่ยนให้เพราะแก้วของคนตรงหน้าหมดไปแล้ว

“เอ่อ เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ” แก้วกาญเอ่ยถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก

“เอาล่ะผมเสียเวลามากพอแล้ว”

“ผมขอตัวจะขึ้นไปดูบัญชีข้างบนสักหน่อยไ” อคิน ยกแก้วสีอำพันขึ้นกระดกจนหมดแก้วก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสามเพื่อไปที่ห้องทำงานของตัวเองทันที

“คุณจะไปไหน นั่นมันชั้นของเจ้าของผับนะ” แก้วกาญที่เห็นว่าชายหนุ่มที่ตัวเองหมายตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้าถึงกับทำหน้าเหรอหราที่เห็นชายหนุ่มกำลังเดินขึ้นไปที่ชั้นสาม

“ใช่ และคิดว่าคุณคงรู้นะว่าที่นี่มีเจ้าของสามคน” อคิน ตอบพลางปรายตาไปมองที่ผู้จัดการสาวอีกครั้ง

“คุณอคิน!” แก้วกาญพึมพำก่อนจะทำได้แค่กัดริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะหันไปมองแก้วใบล่าสุดที่ชายหนุ่มเพิ่งจะดื่มไปอย่างหมายมั่น

“ฮึ หมดแก้วขนาดนั้น ไม่นานเกินรอ” แก้วกาญพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าหวาน ที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันแรก ก่อนจะปรายตามองอย่างนึกถึงแผนอะไรออกมา

“นิ่มมานี่สิ” ก่อนจะกวักมือเรียกให้เด็กใหม่เข้ามาหา

อคินที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง ก่อนสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะตั้งใจจะเข้ามาดูอะไรบางอย่าง เพราะเพื่อนสนิทที่เป็นหุ้นส่วนกันได้รับรายงานเรื่องผิดปกติบางอย่าง

“ฝีมือใคร” พลางนึกไปถึงแก้วสีอำพันที่ตัวเองเพิ่งดื่มไปตอนนั่งที่โซฟาด้านล่าง ก่อนที่จะได้สั่งให้คนสนิทควานหามือคนทำ อยู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขี้น

“ใคร”

ไเอ่อ ผู้จัดการให้เอาเครื่องดื่มมาให้ค่ะ” นิ่ม หรือ วิลาสินี ลักษณ์วงศ์ สาวน้อยในวัยเบญจเพส บอกออกไป

“เข้ามา” เสียงจากในห้องเอ่ยอนุญาตทำให้ร่างบางค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป แต่แล้วอยู่ ๆ ก็มือหนาคว้ามาที่แขนโดยไม่สนใจว่าถาดเครื่องดื่มจะร่วงแตก

ร่างบางที่ลอยหวือเข้าปะทะกับอกแกร่ง ถึงกับยืนนิ่ง ก่อนละลำละลักเอ่ยปากออกไป

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ”

“ฉันแค่เอาเครื่องดื่มมาให้แทนตามคำสั่งผู้จัดการเท่านั้น” ร่างบางพูดออกไปตามความจริง ใช่ที่จริงคนที่ควรจะเอาเครื่องดื่มขึ้นมาห้องนี้ได้ต้องมีคำสั่งจากเจ้าของผับและผู้จัดการเท่านั้น อยู่ ๆ นิ่มที่เข้ามาเป็นพนักงานวันแรกก็โดนผู้จัดการ บอกเธอให้เอาเครื่องดื่มขึ้นมาส่งที่ห้องVIP

“ฉันไม่ได้เป็นคนสั่งให้เอาขึ้นมา”

“อ้อ นี่เธอคงจะสมรู้ร่วมคิดกับยายนั่นสินะ”

“แต่แปลกนะ ทำไมยายนั่นไม่เข้ามาดูผลงานด้วยตัวเองล่ะ” อคินที่ตอนนี้กำลังอดกลั้นอย่างหนักเพราะฤทธิ์ยาที่โดน ประกอบกับร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขน มีกลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆ ทำให้คนตัวโตสูดความหอมเข้าเต็มปอด

“แต่ก็ดีที่เป็นเธอ”

“ถ้าเป็นยายนั่นต่อให้เข้ามาฉันก็แตะไม่ลง” อคิน ที่ตอนนี้พยายามตั้งสติก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนในอ้อมแขน วงหน้าหวาน ผมหยักโศกที่ทำให้คนตรงหน้าดูเย้ายวนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

“ส่วนเธอ นี่คือบทลงโทษของคนที่สมรู้ร่วมคิด” ร่างบางถึงกับตะลึงเมื่อได้ยินคนตัวโตพูดจบ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคนตัวโตโยนเธอลงบนเตียงกว้างที่อยู่อีกห้องนึง

“คุณ ปล่อยฉันไปเถอะนะ”

“ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันทำตามหน้าที่ของฉันเท่านั้น” ร่างบางละล่ำละลักพูดออกไป

“อย่าเสียเวลาดีกว่า” เสียงรูดซิปกระโปรงดังขึ้นนิ่มถึงกับดิ้นหนีมือหนาที่พยายามจะดึงกระโปรงให้หลุดพ้นจากขาเรียว ก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยสายตากรุ่นโกรธ

“อย่าดิ้นให้เหนื่อยเลย” อคิน ยื่นมือไปลูบที่กรอบหน้าหวานที่พราวไปด้วยเหงื่อและคราบน้ำตา ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง

“ฮึ รู้ไหมยิ่งเธอทำแบบนี้”

“ฉันยิ่งชอบ ดูสิจะพยศได้นานแค่ไหน” อคิน ที่เห็นท่าทางของคนใต้ร่าง เพราะเป็นคนชอบเอาชนะ ยิ่งมาเจอแบบนี้ ยิ่งทำให้คนอย่างเขาถูกใจ ก่อนจะก้มลงไปที่ริมฝีปากสีสด ค่อย ๆ บดจูบขบเม้มทีล่ะนิด มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างบาง

เพราะฤทธิ์ยาทำให้อคินเองก็ทนได้ไม่นาน จนเมื่อความอดทนสิ้นสุดลง มือหนากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ร่างบางสวมอยู่จนกระดุมกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง

ก่อนจะก้มลงไปสูดความหอมที่อกอิ่ม ริมฝีปากหนากดจูบไปทั่วพร้อมฝากรอยสีกุหลาบไปทั่วอกอิ่มก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอหลังอย่างชำนาญ

นิ่มถึงกับผวาก่อนจะพลิกตัวหันหลังหนีเพื่อให้พ้นจากสายตาคมที่มองไปทั่วร่างก่อนจะพยายามเขยิบหนีจนชิดหัวเตียง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป