บทที่ 6 ให้คืบ จะเอาศอก

“อ๊าย... อ๊าย... อร๊า...” ดอกแก้วส่งเสียงหวีดร้องทุกครั้งที่ชายหนุ่มขย่มดันกระทั้นเสย บางทีเขาก็แกล้งเสือกกาย ไถลส่วนปลายถอกบานเฉียดฉิวรูสาว ทำเอาหล่อนหวาดเสียวจนก้นเกร็งไปหมด

“โหนกนูนกระแทกมันจริง ๆ ซี้ด...” ดำจับท่อนเรียวงามหนีบเข้าหากันและกอดกดเอาไว้แน่น จากนั้นก็ขย่มโยกลำลึงค์ที่ขรุแข็งด้วยเส้นเลือดปูดโปนบดขยี้ร่องกลีบอวบอูมจนปลิ้นอ้าแดงแจ๋

“อูย... ดอกแก้วจ๋า... พี่เสียวน้ำจะแตกแล้ว อา... ซี้ด...” เสียงครางห้าวพร่าชวนให้คนฟังเสียวซ่านสะท้านทรวงไปด้วย

ดอกแก้วจ้องเขม็งที่ส่วนหัวบานร่า ตรงตุ่มตาเล็กจิ๋วมีหยาดน้ำหนืดใสย้อยหยดลงมาเป็นสายเหนียว พ่อหมอดำเพ่งพิศใบหน้าสวยหวานด้วยความลุ่มหลงพิศวาส ขณะที่หญิงสาวมองดูองคชาตของเขาด้วยความตื่นเต้นระทึกขวัญ เรือนกายบึกบึนเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นทุกที ท่อนเอ็นใหญ่ยาวกระทุ้งกระถอกเบียดเสียดเข้าหาร่องเนื้อแน่นนุ่ม ทั้งสองประสานเสียงครวญครางเหมือนจะขาดใจ

ฉับพลันคลื่นความหฤหรรษ์ก็พุ่งกระฉูดสวนทาง น้ำรักสีขาวขุ่นที่ฉีดพ่นออกมาจากปลายลึงค์ สาดซัดไปถึงเนินอกขาวสล้างและริมฝีปากของหญิงสาว

ดอกแก้วแลบลิ้นสีชมพูเลียความเปียกชื้นอย่างงุนงง ภาพบาดตาบาดใจนั้นทำให้พ่อหมอดำแผดเสียงคำรามในลำคอ ร่างหนาถาโถมเข้าหาร่างบางที่กำลังนอนระทดระทวย ประกบริมฝีปากจูบบดขยี้กลีบปากเต็มอิ่มด้วยอารมณ์หื่นกระหาย

หลังจากนั้นเสียงครวญครางกระเส่ารัญจวนและเสียงขยับโยกกระแทกกระทั้นก็ดังกังวานขึ้นอีกครั้ง

“เป็นอย่างไรบ้าง พี่ดอกแก้ว”

บุหงาเอ่ยถามพี่สาว เมื่อทั้งสามพี่น้องอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า

“หื่นห่าม ดุดัน แต่พี่ชอบ”

ดอกแก้วตอบอย่างตรงไปตรงมา ก่อนหน้านี้หล่อนได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับพ่อหมอดำมาว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ายำเกรงคนหนึ่ง ซึ่งเศรษฐีทองก้อนไม่กล้าข้องแวะด้วย อีกทั้งยังไม่มีเมีย ดังนั้นเขาจึงตกเป็นเป้าหมายสำคัญของหล่อน ส่วนเรื่องขุนเรืองเป็นเพียงข้ออ้าง

“ในที่สุด พวกเราก็จะมีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว”

การะเกดดีใจจนออกนอกหน้า

“ยังหรอก พี่กับพ่อหมอดำยังไม่ได้เป็นผัวเมียกัน”

“อ้าว!” บุหงากับการะเกดอุทานอย่างพร้อมเพรียง

“พี่ขอร้องให้พ่อหมอดำ ใคร่ครวญให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพราะพวกเราอาจจะสร้างปัญหาให้กับคนที่นี่ในภายหลัง ไอ้สารเลวทองก้อนมันชั่วช้าอัปรีย์เกินมนุษย์ เพียงแค่พวกเรามีผัวมันคงไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่”

“เฮ้อ...” บุหงากับการะเกดซัดลมหายใจทำท่าห่อเหี่ยว

“ผู้ชายอย่างพ่อหมอดำเป็นคนเย่อหยิ่งมีศักดิ์ศรี เขามีดีเกินตัว คงไม่ยอมให้ผู้หญิงควบคุม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีกิเลสตัณหา” ดอกแก้วไม่อยากให้น้อง ๆ หมดหวัง

ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ดีเลวอย่างไรก็มีสันดานเป็นสัตว์นักล่าที่ชอบแข่งขันเอาชนะเหมือนกันหมด หากหล่อนยอมถลกผ้าถุงให้เขาขึ้นขี่ง่ายเกินไป เขาอาจมองเห็นหล่อนเป็นผู้หญิงไม่มีคุณค่า ทว่าหล่อนก็ควรจะอิดเอื้อนเล่นตัวแต่พองามไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี

พ่อหมอดำมีสหายรักสองคนคือพ่อหมอเมฆินทร์และพ่อหมอไกร ทั้งสามเป็นศิษย์ก้นกุฏิรุ่นสุดท้ายของพ่อปู่ฤษี พวกเขาใช้ชีวิตวัยหนุ่มหกคะเมนตีลังกา ร่วมหัวจมท้ายทำเรื่องเสี่ยงตายมาด้วยกันหลายปี แม้ว่าแยกย้ายกันไปปักหลักปลูกเรือนอยู่คนละหมู่บ้าน แต่ไปมาหาสู่กันเป็นประจำเพราะต่างก็ชื่นชอบการฟันดาบเป็นชีวิตจิตใจ

“ไอ้ดำ วันเสาร์ขึ้นสิบห้าค่ำนี้เป็นวันบูรณจันทร์ กูจะใช้ลานฟันดาบของมึงทำพิธีปลุกเสกเหล็กไหลโกฏิปี” พ่อหมอไกรเอ่ยขึ้นห้วน ๆ

“เรือนมึงก็มีลานฟันดาบ จะมาวุ่นวายกับที่นี่ทำไมวะ”

พ่อหมอดำมองเพื่อนตาขวาง ไอ้ไกรมันรู้ดีว่าเขารักสันโดษไม่ชอบความโกลาหล หากมีการประกอบพิธีกรรมอันเชิญเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจำเป็นต้องกระทำอย่างเปิดเผย ผู้คนที่ฝักใฝ่ในวิชาอาคมไสยเวทย์จะแห่แหนมาร่วมงานกันอย่างเอิกเกริก

“ที่ดินผืนนี้อยู่ในตำแหน่งมงคล ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทั่วถึงตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงเที่ยงวัน ตรงตามหลักโหราศาสตร์”

“ไอ้ไกรมันอุตส่าห์ดั้นด้นเสาะหาเหล็กไหลโกฏิปีมาได้แล้ว มึงก็ยอมอ่อนข้อให้เพื่อนสักครั้งเถอะวะ อีกไม่กี่วันก็เป็นวันบูรณจันทร์ กว่าจะเดินทางมาถึงหมู่บ้านจำปาขาว กูต้องขี่ม้าจนตูดด้าน อย่าให้กูต้องถ่อสังขารไปที่เรือนของไอ้ไกรเถอะวะ” พ่อหมอเมฆินทร์คะยั้นคะยออีกเสียง

“พอกูให้คืบ พวกมึงก็จะเอาศอก” พ่อหมอดำบ่นพึมพำแต่ไม่ปฏิเสธ

ชายหนุ่มทั้งสามไม่ค่อยได้พบปะพูดคุยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาบ่อยนัก ถ้าหากมีโอกาสก็จะขลุกอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน และตอนเที่ยงพวกเขาจะกินข้าวที่ลานฝึกดาบ ทว่าคราวนี้คนที่ยกสำรับกับข้าวมาให้คือสาวสวยแปลกหน้า

ดอกแก้วเป็นกุลสตรีที่มีลักษณะงามพร้อมทุกประการ ท่วงท่ากิริยาดูแฉล้มแช่มช้อยมีเสน่ห์ ทุกครั้งที่หล่อนปรากฏตัว ไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนต้องเหลียวมองหล่อนด้วยความสนอกสนใจ แม้กระทั่งเหล่าลูกศิษย์ลูกหาของพ่อหมอดำที่กำลังซ้อมฟันดาบกันอย่างดุเดือดยังต้องหยุดมอง

“ไอ้ดำ นั่นใครวะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป