บทที่ 7 7

“ผมเคยพูดเล่นกับใครที่ไหน!” เขาบีบมือเธอแน่น แน่นจนเจ็บแต่อณัศยากลับจ้องใบหน้าคร้ามคมโดยไม่ยอมแสดงอาการใด ๆ ออกมา

“ไปอำเภอกับผม จดทะเบียนเสร็จแล้วจะได้กลับบ้าน”

“คุณทศ...จะให้พวกเรากู้ยืมเงินคุณก็ได้ค่ะ”

อณัศยายังยื่นข้อเสนอแต่การเหนี่ยวรั้งของเธอนั้นดูจะไม่เป็นผล ชายหนุ่มก้มหน้าเข้าไปเกือบชิดและกรีดซ้ำหัวใจที่เจ็บปวดของหญิงสาวด้วยสายตาหยามเหยียด

“แบบนั้นมันจะไปสนุกอะไร...คิดว่าผมจะปล่อยคุณกับแม่ของคุณไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ สู้เก็บพวกคุณเอาไว้ ทรมานให้เจ็บเจียนตายและสุดท้ายก็ต้องถูกจองจำด้วยความโลภของตัวเองไปตลอดชีวิต!”

“คุณทศ...คุณไม่ได้ตั้งใจจะช่วยแม่ฉันจริง ๆ”

“ทำไมผมจะไม่อยากช่วยพวกคุณ...เพียงแต่...ช่วยให้ตายช้าลงก็เท่านั้นเอง!”

ครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้หญิงสาวคัดค้านหรือเหนี่ยวรั้งด้วยข้อเสนอใด ๆ อีกต่อไป คนตัวใหญ่ดึงมือร่างเล็กให้เดินตามเขาออกไปด้วยความเยือกเย็น อณัศยากลั้นน้ำตาไปตลอดทาง ไม่คิดว่าชีวิตของเธอจะต้องถูกบีบคั้นจากคนเคยรักที่กลายร่างเป็นซาตานและกำลังจะฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น ทศรัสมิ์ไม่ได้รักเธออีกแล้ว ที่เขาทำทุกอย่างเพื่ออยากเอาชนะ หากก็สายเกินไปที่เธอจะบอกเรื่องนี้กับลีลาเพราะแม้แต่แม่ของเธอก็ยังตกอยู่ในสถานะลำบากโดยไม่รู้เลยว่าผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือที่แท้คือมัจจุราชที่กำลังจะกระชากพวกเธอลงเหวลึก

ทศรัสมิ์พาอณัศยาไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภออย่างที่เขาบอกไว้ ชายหนุ่มไม่ได้ยี่หระใด ๆ กับการจรดปลายปากลงลายเซ็นในกระดาษซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ที่จะเปลี่ยนไปนับจากนั้นด้วยความผูกพันกันฉันผัวเมีย เขาแสดงท่าทีเหมือนรักและอยากจดทะเบียนกับอณัศยาต่อหน้าเจ้าพนักงาน แต่หลังจากที่หญิงสาวยินยอมลงลายเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรและเจ้าหน้าที่ได้ให้หลักฐานการเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายเป็นกระดาษสองแผ่นเพื่อให้คู่รักเก็บไว้ก่อนกลับมาที่รถเก๋งคันหรูทศรัสมิ์ก็เปลี่ยนไปในทันใด ชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะหยิบแผ่นกระดาษมาจ้องมองแต่คนที่มาด้วยกลับนั่งนิ่งอยู่ด้านข้างคนขับ

“หึ!...ก็แค่กระดาษแผ่นเดียว”

ทศรัสมิ์พูดด้วยน้ำเสียงราวกับจะเยาะหยัน มันทำให้อณัศยาเจ็บลึกเพราะเขาทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล่น ๆ ซ้ำยังน่ารังเกียจสำหรับเขา หญิงสาวกุมซองสีน้ำตาลที่มีเอกสารการจดทะเบียนอีกใบไว้พร้อมด้วยน้ำตาหยดไหลลงมาเป็นทาง

“ทีนี้คุณจะทำยังไงกับพวกเรา”

“ทำอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำ”

เขาทิ้งเอกสารในมือลงบนตักของอณัศยาราวกับเป็นของไร้ค่าหากสำหรับเธอแล้วมันคือตรวนเส้นใหญ่ที่จะพันธนาการเธอไว้ไปชั่วชีวิต

“คุณทำแบบนี้ทำไมคะ คุณทศ...ในเมื่อคุณเกลียดฉัน”

“เราเป็นผัวเมียกันแล้วต่างหาก อณัศยา”

“คุณทศ!”

โดยไม่ทันตั้งตัวทศรัสมิ์ก็ตรึงไหล่บางไว้ด้วยมือแกร่งแล้วก้มหน้าลงไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ปากของเขาโฉบปิดริมฝีปากอิ่มแล้วฉกลิ้นเข้าไปในอุ้งปากเล็ก คุกคามเธอด้วยจูบหนักและหื่นหิว ร่างเล็กบางชาไปทั้งตัว เธอพยายามเบี่ยงหน้าหลบแต่เขาหน่วงเธอไว้ด้วยริมฝีปากหยักหนาที่บดบี้บนกลีบปากนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

“คุณทศ!”

อณัศยาร่ำร้องเมื่อริมฝีปากของเธอเป็นอิสระหากก็เพียงจังหวะสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะประกบปิดและบดบี้มันไว้แน่น ลิ้นหนาจ้วงเข้าไปและดูดเสียงของเธอไว้ หญิงสาวเบิกตาโพลงและรู้สึกเจ็บที่มุมปากจนทนแทบไม่ไหว ตั้งแต่คบกับทศรัสมิ์เขาไม่เคยล่วงเกินเธอแม้สักครั้ง แต่ตอนนี้เขากำลังทำร้ายเธอ บีบบังคับเธอด้วยความหยาบร้าย ลิ้นเล็กถูกรุกรานด้วยความกักขฬะที่ทำให้เธอแทบขาดใจและมือไม้อ่อนจนหยิบจับอะไรแทบไม่ไหว สติสัมปชัญญะของเธอสับสนอนอึง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกจูบแม้เพียงสักหน ลิ้นของเธอถูกลิ้นหนาใหญ่เกี่ยวกระหวัด จู่โจมอย่างตั้งใจแต่แล้วเขาก็กระชากอารมณ์ของหญิงสาวด้วยการถอนริมฝีปากออกและผลักร่างแน่งน้อยจนหลังชนคานประตู ทศรัสมิ์ยกมือขึ้นปาดบนริมฝีปากและมองเธอด้วยแววตาและรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม

“นี่มันแค่เริ่มต้น...แล้วคุณจะเจ็บมากกว่าที่ผมเคยเจ็บร้อยเท่าพันเท่า!”

น้ำเสียงหนัก ๆ ที่ถูกเค้นออกมาทำให้อณัศยาถึงกับสะอึก หญิงสาวขยับนั่งตัวตรงขณะแสร้งมองไปทางอื่นและเม้มริมฝีปากที่บวมเจ่อจนรู้สึกเจ็บไว้แน่น ตอนนี้ทศรัสมิ์เหมือนเสือที่เคยบาดเจ็บ เขากลับมาเพื่อระบายความคั่งแค้นและทำลายล้างคนที่เคยสร้างบาดแผลใหญ่ไว้ให้ หญิงสาวอยากจะเข้าใจว่าเขาเคยเจ็บปวดมามากแค่ไหน นี่อาจเป็นการชดใช้กรรมแทนแม่ของเธอที่ก่อมันไว้กับเขาก็เป็นได้ ชายหนุ่มไม่พูดอะไรกับเธออีก เขาขับรถตรงดิ่งกลับบ้านหลังจากนั้น และเมื่อถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพีพัชรสกุล อณัศยาก็รีบลงจากรถแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบกับลลีลาซึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้วที่ห้องรับแขก

“แยม...หนูมาจากไหนลูก...หนูเจอคุณทศเขาหรือยัง?”

สาวใหญ่รีบเอ่ยถามบุตรสาวแต่ยังไม่ทันที่อณัศยาจะอ้าปากตอบก็ได้ยินอีกเสียงแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“เราเจอกันแล้วครับ...เมื่อกี๊เราไปอำเภอมาด้วยกัน”

ทศรัสมิ์เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้าง ๆ อณัศยาที่แทบจะพูดอะไรไม่ออกเพราะทั้งจุกและตีบตันกับสิ่งที่เขาทำด้วยการบีบบังคับเธอสารพัด ลีลาเลิกคิ้วสงสัย

“ไปอำเภออย่างนั้นเหรอคะ...เอ...ไม่ทราบว่าไปทำอะไรกันเหรอคะ?”

“ผมพาอณัศยาไปจดทะเบียนสมรสมาครับ”

“อะ...อะไรนะคะ!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป