บทที่ 13 บทที่ 3 (อดีต)เพลย์บอย - 100%

"จะด่าพี่ว่าสันดานเสียก็ด่ามาตรง ๆ เถอะ พี่ไม่โกรธหรอก" เขาพูดกลั้วหัวเราะ รู้สึกสนุกไม่น้อยที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอ

"ฉันยังไม่ได้พูดคำนั้นสักคำเลยนะคะ คุณพูดมาเองทั้งนั้น แล้วตกลงจะคุยเรื่องงานไหมคะ ถ้าไม่คุยฉันจะได้ออกไปทำงานที่ค้างไว้จากเมื่อวาน" เธอตวัดสายตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นแววตายิ้มได้กับสีหน้ารื่นเริงของชายหนุ่มก็รู้สึกหมั่นไส้เสียจนอยากเอากาแฟรดหัวเขา ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้านี้คือเจ้านาย

"ฮ่า ๆ โอเค คุยแล้วครับคุยแล้ว แหมดุจัง กลัวจนใจสั่นไปหมดแล้วเนี่ย" เขายังคงเย้าแหย่ไม่เลิก แล้วรีบเข้าสู่โหมดการทำงานก่อนที่หญิงสาวจะโกรธจนเดินหนีออกจากห้องไปเสียก่อน

"เรามาอัปเดตตารางงานกันหน่อย สองเดือนข้างหน้าจะมีงานจิวเวลรี่แอนด์วอตช์ที่ไบเทคบางนา จันทร์ช่วยแจ้งทีมการตลาดและฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้มาประชุมในวันจันทร์หน้าด้วยนะ ตอนสิบโมงครึ่ง พี่อยากรู้ความคืบหน้าว่าฝ่ายการตลาดวางแผนอะไรไว้แล้วบ้าง นี่คือเรื่องที่หนึ่ง" เขาหยุดพูดแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเพื่อให้เวลาจันทร์เจ้าจดบันทึกได้ทัน

"เรื่องที่สอง ตามเรื่องห้างสรรพสินค้าในเครือเอ็มซีกรุ๊ปที่กำลังก่อสร้างและจะเปิดในกลางปีหน้าด้วย เรื่องนี้ต้องตามกับฝ่ายการตลาด ให้เขาทำรายงานส่งพี่หน่อยว่าตกลงค่าเช่าพื้นที่มันเท่าไรกันแน่ และเราได้พื้นที่เท่าไร ได้ทำเลตามที่เราต้องการรึเปล่า"

ชินดนัยเปิดตารางนัดหมายในคอมพิวเตอร์แล้วไล่ไปทีละข้อเพื่อให้หญิงสาวได้จดบันทึกเอาไว้ เพราะพริมา เลขานุการคนเก่าที่เขาไล่ออกไปดันลบตารางนัดหมายในเครื่องที่จันทร์เจ้าใช้งานอยู่ออกไปจนหมด เพื่อต้องการกลั่นแกล้งเลขาฯ คนใหม่ที่จะมารับช่วงต่อ และเขาเองก็เพิ่งมารู้เรื่องนี้จากเอมิกาตอนที่ให้อีกฝ่ายมาช่วยเขาดูแลงานต่าง ๆ ระหว่างที่รอรับสมัครเลขานุการคนใหม่

"เรื่องที่สาม วันที่เก้าเดือนหน้าจะมีการประมูลของมีค่าของบรรดาเหล่าไฮโซและคนที่มีชื่อเสียง แต่บริษัทต่าง ๆ ก็สามารถส่งของเข้าร่วมประมูลได้ ซึ่งงานนี้สถานฑูตไทยเป็นเจ้าภาพ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ประสบภัยธรรมชาติ บริษัทเราจะส่งนาฬิกาไปร่วมประมูลสองเรือน แบรนด์ละหนึ่งเรือน พี่อยากให้จันทร์ตามกับฝ่ายผลิตหน่อยว่าเขาจะส่งมาให้เราเมื่อไร"

ชายหนุ่มคลิกดูปฏิทินของอีกสามเดือนถัดไปแล้วเห็นว่ายังไม่มีอะไรสำคัญจึงไม่ได้เอ่ยถึง

"หลัก ๆ ที่สำคัญก็มีสามงานนี่แหละ มีอะไรสงสัยหรืออยากถามไหม" เขาหันไปมองหน้าเธอแล้วรอฟัง

จันทร์เจ้าครุ่นคิดไม่นานก็ถามสิ่งที่อยากรู้ คราแรกเธอคิดจะเก็บไว้ถามเอมิกา หรือเลขาฯ รุ่นพี่คนอื่น ๆ แต่คิดไปคิดมา ไหน ๆ เจ้าของบริษัทก็เปิดโอกาสให้ซักถามแล้วจึงวางความขุ่นข้องหมองใจก่อนหน้านี้ทิ้งไปเพื่อตักตวงความรู้จากเขา

"ทำไมนาฬิกาบางรุ่นถึงไม่ผลิตออกมามากหน่อยล่ะคะ ในเมื่อรุ่นนั้นเป็นที่นิยมของคนที่เล่นนาฬิกา ทำไมถึงต้องสั่งล่วงหน้าแล้วรอกันเกือบปีถึงจะได้ของ"

"ถ้าผลิตออกมาจำนวนมากในครั้งเดียวมันก็เกร่อน่ะสิ คุณค่าของมันก็จะลดลงทันที จุดเด่นของยี่ห้อนี้ก็คือชิ้นส่วนกลไกต่าง ๆ ที่มาประกอบกันนั่นน่ะ เขาจะผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมดต่อการประกอบนาฬิกาขึ้นมาหนึ่งเรือน จะไม่มีการทำตุนเอาไว้หลายชิ้นแล้วประกอบกันเป็นนาฬิกาทีละหลายเรือนเหมือนยี่ห้ออื่น"

ชายหนุ่มหยุดพูดพลางเปิดคลิปการผลิตนาฬิกาจากคอมพิวเตอร์ให้หญิงสาวดูก่อนพูดต่อ

"ที่สำคัญคือการผลิตชิ้นส่วนทุกชิ้น รวมไปถึงการประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน เขาใช้แรงงานคนในการทำทุกขั้นตอน เพราะฉะนั้นกว่าจะได้นาฬิกาแต่ละเรือนจึงใช้เวลานานมาก บางรุ่นช่างทำนาฬิกาใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้ออกมาสักเรือนเพราะชิ้นส่วนยิบย่อยที่ประกอบกันเป็นกลไกมีมากถึงพันกว่าชิ้น ยี่ห้อนี้ถึงได้แพงกว่ายี่ห้ออื่นไงล่ะ แต่ก็มีคนยอมจ่ายเพราะเขาถือเป็นการลงทุน เขาซื้อความคุ้มค่า บางคนก็ถือว่าจ่ายเงินซื้องานศิลป์ที่มีความประณีตไปเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวที่สามารถเป็นมรดกตกทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้"

ชินดนัยมองภาพเคลื่อนไหวจากหน้าจอไปพร้อมกับเธอ จันทร์เจ้าพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจตามที่เขาบอก

"ของบางอย่างถ้ามีมากเกินไปมันก็จะไม่น่าค้นหาและไม่น่าครอบครองเพราะเราสามารถหาซื้อเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้าของชิ้นนั้นผลิตมาแค่ไม่กี่ชิ้น แถมกว่าจะได้ยังต้องรอกันเป็นปี ๆ คนก็ยิ่งรู้สึกว่าของสิ่งนั้นมันมีค่ามีราคา และภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ" พูดจบเขาก็ถอดนาฬิกาที่ตนใส่อยู่แล้วยื่นให้หญิงสาวดู

"ลองดูกลไกของมันสิ ดูชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของมัน"

จันทร์เจ้ามองหน้าเขาก่อนจะตัดสินใจยื่นมือออกไปรับนาฬิกามาถือไว้แล้วพลิกดูด้านหลังซึ่งเป็นกระจกใสจนมองเห็นกลไกด้านในได้อย่างชัดเจน

เมื่อก่อนเธอก็เคยเห็นของบิดา รุ่นที่ชินดนัยใส่อยู่นี้ท่านก็มีหนึ่งเรือนเช่นกัน แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก รู้แค่ว่าเป็นนาฬิกาที่สวย หรูหรา และมีราคาแพง ท่านเก็บไว้ในตู้เซฟอย่างดี และจะหยิบมาใส่ในโอกาสพิเศษเท่านั้น ทว่าตอนนี้มันถูกนำขายทอดตลาดไปแล้วเรียบร้อย

"อย่างที่เห็นในคลิปนั่นแหละ ชิ้นส่วนพวกนั้นทำด้วยมือทั้งหมด วัสดุที่ใช้ก็เป็นวัสดุอย่างดี และแต่ละชิ้นส่วนก็ต้องประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างพอดีไม่มีขาดหรือเกินอย่างเด็ดขาด นาฬิกาแต่ละรุ่นก็ใช้ชิ้นส่วนภายในไม่เท่ากัน แต่จำนวนของชิ้นส่วนในแต่ละรุ่นนั้นก็ต้องตรงตามนั้นเป๊ะ ๆ ด้วย ห้ามขาดแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่อย่างนั้นจะถือว่านาฬิกาเรือนนั้นไม่สมบูรณ์"

ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ชินดนัยจึงตะโกนอนุญาตคนที่มาเคาะ จากนั้นประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเอมิกาเดินเข้ามา

"ท่านประธานคะ คุณรมิดาขอเข้าพบค่ะ"

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไร เสียงของหญิงสาวเจ้าของชื่อก็ดังขึ้นหน้าประตูพร้อมกับร่างเพรียวระหงในชุดเดรสแขนกุดสีแดงเลือดหมูเดินนวยนาดเข้ามาโดยไม่ต้องรอให้เลขานุการออกไปเชิญ

"ไฮ...ชินขา ดาด้าเองค่ะ" คนพูดยิ้มเจิดจ้าจนกระทั่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชินดนัยแล้วทรุดตัวนั่งลงติดกับเขา จากนั้นเจ้าตัวก็ยกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มแล้วยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้างอย่างสนิทสนมท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของจันทร์เจ้าและเอมิกา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป