บทที่ 1
เมื่ออเล็กซานเดอร์ ฟอสเตอร์ กระแทกกายเข้าใส่ เอมิลี่ วอร์ดก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็งของชายหนุ่มทอแววเย้ยหยัน “เธอสำออยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
เอมิลี่รู้สึกเจ็บแปลบในใจซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำพูดของเขาเลย
เธออยากจะบอกเขาว่านี่ไม่ใช่การเสแสร้ง แต่มันคือความเจ็บปวดจริงๆ
รายงานผลการตรวจสุขภาพที่เธอเพิ่งได้รับเมื่อเช้า วางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง
มะเร็งเต้านม ระยะที่สี่
“อเล็กซานเดอร์ ฉันกำลังจะตาย” เอมิลี่คว้าแขนของเขา จ้องลึกเข้าไปในใบหน้าที่หล่อเหลาจนน่าทึ่ง พยายามมองหาร่องรอยของความห่วงใยแม้เพียงน้อยนิด
แต่เขากลับเพียงแค่เหยียดยิ้มอย่างไม่แยแส “นี่มันเรื่องอะไร? แค่เพราะฉันไปงานวันเกิดของโซฟี เธอก็เลยจะมาอาละวาดอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเอมิลี่ก็แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อเขาไม่รักเธอแล้ว ทุกการกระทำของเธอก็ดูเหมือนเป็นการสร้างปัญหาในสายตาของเขา
เธอหลับตาลงช้าๆ รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก “คุณเป็นสามีของฉัน แต่คุณกลับไม่ไปตรวจสุขภาพเป็นเพื่อนฉันเพื่อไปฉลองวันเกิดให้ผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่มีสิทธิ์จะโกรธเลยหรือไง?”
เอมิลี่พูดอย่างหนักแน่น น้อยครั้งที่เธอจะวางตัวในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เพราะรู้ดีว่าอเล็กซานเดอร์มองว่าการแต่งงานของพวกเขาน่าอับอาย เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเอ่ยถึง
ก่อนหน้านี้ เอมิลี่รักเขามากพอที่จะยอมรับความเย็นชาของเขาได้
แต่ตอนนี้ เธอกำลังจะตาย
ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย ทำไมเธอจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเองสักครั้งไม่ได้กัน?
ชายหนุ่มที่เมื่อครู่ยังเร่าร้อนพลันถอนตัวออกไปทันที ทั่วทั้งร่างแผ่รังสีแห่งความเกลียดชังอันเย็นเยียบ
“เอมิลี่ เธอล้ำเส้นแล้วนะ” สิ้นคำพูดนั้น อเล็กซานเดอร์ก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เอมิลี่ลุกขึ้นนั่ง อาการคลื่นไส้ตีตื้นขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอโซเซไปเข้าห้องน้ำและโก่งคออาเจียน
ขณะมองใบหน้าที่ซูบซีดของตัวเองในกระจก เธอคิดกับตัวเองว่า ‘พอแล้ว ปลดปล่อยตัวเอง และปลดปล่อยเขาไปด้วย!’
คืนนั้น เอมิลี่ติดต่อทนายความและร่างเอกสารการหย่า
เธอไม่ต้องการอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ หรือทรัพย์สินใดๆ ขอเพียงแค่จบชีวิตแต่งงานกับอเล็กซานเดอร์ให้เร็วที่สุด
ขณะถือกกระดาษแผ่นบางๆ นั้นไว้ในมือ เอมิลี่กลับรู้สึกโล่งใจ
ไม่รู้ทำไม การแต่งงานที่เธอเคยปรารถนากลับกลายเป็นภาระไปเสียได้
เมื่อเธอนำข้อตกลงการหย่ามาที่ฟอสเตอร์กรุ๊ป เจมส์ ผู้ช่วยของอเล็กซานเดอร์ ก็ขวางเธอไว้ที่หน้าห้องทำงาน
“คุณวอร์ด ถ้าผมจำไม่ผิด ฝ่ายกฎหมายไม่ได้อยู่ชั้นนี้นะครับ”
อเล็กซานเดอร์ไม่เคยบอกใครในบริษัทเรื่องการแต่งงานของพวกเขา สำหรับคนภายนอก ซีอีโอแห่งฟอสเตอร์กรุ๊ปยังคงโสด โดยมีข่าวลือว่าเขากำลังคบหากับโซฟี โลรองต์ ด็อกเตอร์ด้านเภสัชกรรมที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้ เจมส์จึงปฏิบัติต่อเอมิลี่อย่างเย็นชาเสมอมา โดยมองว่าเธอเป็นเพียงที่ปรึกษากฎหมายรุ่นเยาว์ที่พยายามจะไต่เต้าทางสังคม
เอมิลี่ไม่มีแรงเหลือพอจะไปต่อล้อต่อเถียงกับคนนอก เธอจึงยื่นซองเอกสารที่บรรจุใบหย่าให้เขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ฝากเอกสารนี่ให้คุณฟอสเตอร์ด้วยนะคะ” พูดจบ เอมิลี่ก็หันหลังเดินจากไป
เจมส์ขมวดคิ้ว ตามปกติแล้ว เขาคงไม่ทำตามคำขอของเอมิลี่ แต่ทว่าวันนี้เธอดูซีดเซียวและเดินไม่มั่นคง อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เคาะประตูห้องทำงาน
เสียงของอเล็กซานเดอร์ดังออกมา เจือไปด้วยความหงุดหงิดและเย็นชา “เข้ามา”
เจมส์ก้าวเข้าไปข้างในด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “คุณฟอสเตอร์ครับ คุณวอร์ดฝากเอกสารนี่มาให้ครับ”
อเล็กซานเดอร์ชายตามองแฟ้มเอกสารเพียงเล็กน้อย ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเปิดมันดูเลย “คุณก็รู้นี่ว่าจะต้องทำยังไงกับของที่เธอส่งมา”
เจมส์ถอนหายใจในใจ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามองเอมิลี่ในแง่ลบ
ทั้งๆ ที่เธอมีความสามารถอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับเอาแต่วิ่งไล่ตามอเล็กซานเดอร์ผู้ซึ่งมีคนอื่นอยู่ในใจแล้ว มันน่าหงุดหงิดใจที่ต้องทนมองภาพแบบนี้
หลังจากนำเอกสารไปเก็บไว้ในตู้เพื่อให้ฝุ่นจับ เจมส์ก็หันหลังเพื่อจะจากไป แต่อเล็กซานเดอร์เรียกเขากลับมา “เดี๋ยวก่อน ผมมีงานจะให้เอมิลี่ทำ ไปบอกให้แน่ใจว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
“อะไรนะคะ” เอมิลี่แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
เจมส์ทวนคำ “คุณลอรองต์จากสถาบันวิจัยเภสัชกรรมกำลังเผชิญกับคดีหมิ่นประมาท คุณฟอสเตอร์ต้องการให้คุณรับทำคดีนี้ด้วยตัวเอง และต้องชนะเพื่อคุณลอรองต์ให้ได้ครับ!”
ทุกคนในแผนกกฎหมายต่างก็รู้เรื่องคดีนี้ดี
ในฐานะแพทย์เภสัชกรสาวอัจฉริยะรุ่นใหม่ โซฟีก็ดึงดูดคนที่ไม่ชอบหน้ามาตั้งแต่เธอกลับมาที่ประเทศ
มีบัญชีนิรนามบัญชีหนึ่งปล่อยข่าวลือว่าโซฟีเป็นมือที่สามที่เข้ามาแทรกกลางในชีวิตแต่งงานของอเล็กซานเดอร์
ปกติแล้วเรื่องซุบซิบนินทาไร้มูลเช่นนี้คงจะถูกปล่อยผ่านไป
แต่ทว่า บัญชีนิรนามนั้นกลับไม่รู้ไปเอารูปถ่ายจากมื้อค่ำของครอบครัวฟอสเตอร์มาโพสต์ได้อย่างไร
แม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะถูกเบลอ แต่ชาวเน็ตตาดีก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งข้างอเล็กซานเดอร์ไม่ใช่โซฟี
แฮชแท็ก #โซฟีโลรองต์คือมือที่สาม# ก็พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งของเทรนด์อย่างรวดเร็ว
โซฟีตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องบัญชีนิรนามในข้อหาหมิ่นประมาท
ทีมกฎหมายต่างคาดเดากันอยู่ว่าเมื่อไหร่อเล็กซานเดอร์จะยื่นมือเข้ามาจัดการสถานการณ์นี้ให้โซฟี แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าคดีนี้จะตกมาถึงโต๊ะของเอมิลี่
เอมิลี่ตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธ
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าภรรยาตัวจริงอีกแล้วว่าโซฟีเป็นมือที่สามจริงหรือไม่!
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับเหล่านั้น รูปภาพโจ่งแจ้งพวกนั้น ข้อความเสียงส่วนตัวพวกนั้น ทั้งหมดถูกส่งมาจากโซฟีผู้ที่ใครๆ ก็มองว่าแสนดี!
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าโซฟีอีกแล้วว่าเอมิลี่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมได้อย่างไร
แล้วตอนนี้ อเล็กซานเดอร์กลับต้องการให้ภรรยาของเขาช่วยให้ชู้รักชนะคดีหมิ่นประมาทเนี่ยนะ? เขาเคยเห็นว่าเอมิลี่เป็นคนบ้างไหม?
“คุณวอร์ดครับ? ได้ยินที่ผมพูดไหมครับ” เจมส์เอ่ยเสริม
เอมิลี่หลุดจากภวังค์และปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ฉันไม่รับทำคดีนี้ค่ะ”
เจมส์ไม่ได้แปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอ ในมุมมองของเขา อเล็กซานเดอร์กำลังเตือนเอมิลี่เป็นนัยๆ ให้รู้จักที่ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงมอบหมายงานนี้ให้เอมิลี่ ทั้งๆ ที่ในแผนกกฎหมายยังมีคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่านี้อีกล่ะ?
“คุณวอร์ดครับ อย่าลืมว่าคุณยังเป็นพนักงานของฟอสเตอร์กรุ๊ปอยู่ คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธงานที่ได้รับมอบหมายหรอกครับ”
เอมิลี่ยิ้มอย่างขมขื่น ถอดบัตรพนักงานออกจากคอ แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้นฉันขอลาออก”
เธอเดินออกจากฟอสเตอร์กรุ๊ปไปโดยไม่หยิบอะไรติดมือไปด้วยเลย เธอเดินออกไปตัวเปล่า
“ติ๊ง!”
แอปแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เป็นการแจ้งเตือนที่แสดงเพียงวันที่ โดยไม่มีข้อความอื่นใด สีหน้าของเอมิลี่เปลี่ยนไปในทันที
เธอรีบวิ่งไปที่ถนน โบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วบอกที่อยู่ “สถานกักกันวิลตันค่ะ”
อเล็กซานเดอร์เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดจากชั้น 17 ใบหน้าหล่อเหลาของเขาพลันเคร่งขรึมลง
“คุณฟอสเตอร์ครับ คุณวอร์ดบอกว่า...” เจมส์เดินเข้ามาอย่างประหม่า เสียงของเขาสั่นเทา แต่อเล็กซานเดอร์พูดตัดบทขึ้นมาก่อน
“ไปลากตัวเธอกลับมา ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้บ้านเด็กกำพร้าดอว์นหายไป”












































































































































