บทที่ 10 ตอนที่10
“รถของคุณก็ไม่ได้แย่อะไร”ผมพูดขึ้นทำให้ทุกสายตาพากันจับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว
“คุณเป็นคนท้าผมเหรอ?”เจ้าชายเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแปลกใจ ผมจึงเดินเอามือล้วงกระเป๋าเข้าไปยืนประจันหน้ากับเขา
“ใช่ครับ ผมแทนยินดีที่ได้รู้จัก^_^”ผมพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงเป็นมิตรและยื่นมือไปข้างหน้าของเจ้าชาย
“ผมเจ้าชาย ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”เจ้าชายเอ่ยขึ้น พร้อมกับยื่นมือมาจับมือกับผม
“คุณคงจะไม่รังเกียจที่จะแข่งรถกับผม?”ผมเอ่ยขึ้นในขณะที่เราสองคนปล่อยมือกันแล้ว ลูกของหนูผิงทั้งสองคนไม่ถือตัวทั้งสองคนเลยเหมือนแม่จริงๆ
“ที่ผมมาหาคุณไม่ใช่ว่าผมรังเกียจคุณแต่รถของคุณมันเเพงเกินไปที่จะมาเป็นของเดิมพันของผม ผมชื่นชอบการแข่งรถแต่ผมไม่อยากได้ของของใคร”เจ้าชายเอ่ยขึ้นแววตาของเขาและนำ้เสียงของเขามันสื่อว่าเขาพูดจริง ผมก็พยักหน้าเข้าใจ
“งั้นเราไม่ต้องวางเดิมพันก็ได้เรามาแข่งกันดูเฉยๆแบบนี้คุณโอเคไหมครับ?”ผมเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาและดูจริงใจ คำพูดของผมทำให้เจ้าชายยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบให้เขา
“โอเคครับตามนี้เลย”เจ้าชายรีบตบปากรับคำผม ผมก็ยิ้มให้เขาและพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นผมไปขอตัวเตรียมตัวก่อนนะครับ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา^_^”ผมตอบเขาไป เขาก็รีบโค้งตัวให้ผมผมก็โค้งตัวให้เขา เขาก็รีบวิ่งไปยังรถเฟอรารี่สีแดงสดเปิดประทุนที่เครื่องยนต์ถูกดัดแปลงมาอย่างดี และความเร็วของรถคันนี้ก็น่าจะสูสีกับรถของผม
“มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ?”ไอนอฟเอ่ยขึ้นถามผมด้วยนำ้เสียงเป็นห่วง
“ทำไมว่ะหลอกให้ไก่ตายใจและก็เชือดมันอย่างเลือดเย็น^-^”ผมพูดขึ้นและสายตาของผมยังคงจับจ้องไปยังเด็กผู้ชายอายุ20ปีที่กำลังเช็คเครื่องยนต์ของตัวเองอยู่ ที่จริงพวกเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความแค้นนี้เลย แต่พวกเขาแค่ผิดที่เกิดมาเป็นลูกของคนที่ฆ่าพ่อแม่และครอบครัวของผม ผมจะทำให้พวกมันรู้ว่าการสูญเสียมันเป็นยังไง แต่ผมจะไม่ฆ่าใครหรอกนะครับ แต่ผมจะใช้วิธีของผมเอง
“มึงอย่าบอกนะว่าน้องผู้หญิงคนเมื่อเย็นคือลูกสาวของหนูผิงอ่ะ”ไอนอฟเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ ผมจึงค่อยๆหันไปมองหน้ามันและแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นให้มัน
“มึงยิ้มแบบนี้แสดงว่าใช่”ไอนอฟเอ่ยขึ้นอีก ผมก็หัวเราะในลำคอกับท่าทางของมัน
“ใช่แล้วจะทำไมว่ะ เธอก็แค่ผู้หญิงที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย”
“เอ่อนั่นสิเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วมึงจะเอาความแค้นของมึงไปลงที่เด็กผู้หญิงน่ารักๆแบบนั้นได้ลงคอเหรอว่ะ?”
“ใช่และมึงก็เลิกห้ามกู เพราะกูไม่ล้มเลิกความตั้งใจของกูแน่นอน”ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและเเววตาที่จริงจังทำให้ไอนอฟหยุดพูดลงไปทันที
ติ๊ดดดดด
เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและก็ต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าเบอร์ใคร เพราะไม่ขึ้นชื่อ
“ฮัลโหลครับ ผมหมอแทนพูดสายครับ”ผมกรอกเสียงหวานลงใส่ปลายสายไปเมื่อหลังจากกดรับสาย
(สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน น้องหญิงเองนะคะ)เสียงหวานไพเราะดังมาจากปลายสายเสียงของเธอทำให้ผมเผลอยิ้มขึ้นมา ติดกลับง่ายจังเลยนะครับเด็กน้อย
“ครับ ไม่ทราบว่าน้องหญิงมีปัญหาอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”ผมแกล้งถามเธอไป
(อ๋อพอดีว่าน้องหญิงจะโทรมาขอบคุณคุณหมอแทนนะคะ)
“อ๋อเร่ื่องนั้นไม่เป็นไรครับ ว่าแต่นี้ก็ดึกแล้วทำไมน้องหญิงยังไม่นอนอีกครับ?”ผมเอ่ยถามเธอไปพลาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่ตอนนี้ก็ล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว
(น้องหญิงนอนไม่หลับนะคะถ้ายังไม่ได้พูดขอบคุณคุณหมอ)เสียงหวานของเธอพูดขึ้นมา
“อ๋อครับ เรื่องเล็กน้อยเพราะดูก็รู้ว่าพี่ชายของน้องหญิงค่อนข้างจะหวงน้องหญิง”
(ค่ะ พี่ชายไม่ชอบให้หญิงไปคุยกับผู้ชายนะคะ)
“อ๋อครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับพอดีวันนี้ผมอยู่เวร”ผมแกล้งโกหกเธอไปเพราะใกล้จะได้เวลาแข่งของผมกับพี่ชายของเธอแล้ว
(อ๋อค่ะ น้องหญิงขอโทษนะคะที่รบกวนเวลาของคุณหมอแทนงั้นแค่นี้นะคะสวัสดีค่ะ ติ๊ด)น้องหญิงพูดรัวเร็วและตัดสายผมทิ้งไปอย่างไว ท่าทางที่ไม่ทันคนของเธอทำให้ผมนึกขำ
“ยิ้มอะไรว่ะ มึงบ้าป่ะเนี่ย!!”ไอนอฟโวยขึ้น ผมก็ยะกไหล่ให้มันและเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูของผมลงไปให้เสื้อสูทสีดำของผมและเดินไปยังรถของผมทันที
