บทที่ 1 Chapter 1

ผลัวะ!

อ๊ากส์!

พลั่ก!

เสียงโหยหวนนั้นเรียกรอยยิ้มสาแก่ใจแต้มมุมปากชายฉกรรจ์หกคนที่ยืนอยู่ในห้อง ขณะมองชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีประเคนหมัดหนักหน่วงเข้าใส่หน้าและลำตัวของผู้ชายหนึ่งในห้าที่ถูกมัดโยงด้วยโซ่เส้นโต ทุกครั้งที่จบคำถามและไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เรี่ยวแรงกำลังถาโถมเข้าใส่เชลยตรงหน้าหนักหน่วงมากขึ้น เรียกเสียงโหยหวนลั่น แต่พวกเขาไม่กลัวหรอกว่า เสียงของมันจะเล็ดลอดออกไปเข้าหูใครก็ตามที่บังเอิญผ่านมา นั่นเพราะที่นี่เป็นห้องใต้ดินภายในตึกหลังงามหลังหนึ่งบนอาณาจักรศิลาลักษณ์

ห้อง... ที่ถูกขนานนามว่า ห้องเชือด!

สองข้างกายมัน ชายฉกรรจ์อีกห้าคนถูกมัดมือด้วยโซ่โยง หน้าตาเนื้อตัวพวกมันแตกยับ กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง แต่ละคนคอตกคอพับสลบเหมือด ยกเว้นไอ้คนที่กำลังแหกปากร้อง

“รีบบอกคุณคาร์ลดีกว่าถ้าไม่อยากทรมานมาก”

หนึ่งในชายฉกรรจ์ส่งเสียงข่มขวัญ ขณะที่คนถูกจองจำร่างกายโอนเอนตามแรงหมัด ความเจ็บปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย มันเจ็บจนตัวงอ ร่ำร้องจนเสียงแห้ง คนลงมือก็หาได้สนใจ นาทีนี้ มันได้กลิ่นความตายของตัวเองรำไรขณะผจญอยู่ในนรกแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัส

“รีบๆ ฆ่ากูเลยสิวะ กูไม่กลัวมึงหรอกไอ้คาร์ล”

เจ็บร้าวปางตายตรงชายโครง มันคิดว่ากระดูกส่วนนั้นคงหักไปหลายซี่ การถูกทรมานมาหลายชั่วโมงทำให้มันนึกอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เสียงพูดที่ดังออกมาไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบหากไม่วายปากดี ร่างกายใหญ่โตของมันหาใช่หินผา ถูกทรมานมานาน สติหลุดรอยในที่สุด

“ปลุกมันขึ้นมา”

คมคาย ศิลาลักษณ์ กระตุกยิ้มเย็นเยือก ยิ้มที่ส่งไม่ถึงดวงตาคมกริบดุดันไร้ปรานี

ชายฉกรรจ์ที่อยู่ในห้องนั้นนำถังน้ำมาสาดใส่เชลยทั้งหมด ปลุกพวกนั้นให้คืนสติ

“อย่าทำกูอีกเลย ปล่อยกูเถอะ กูไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ”

ทันทีที่ตื่นมารับรู้ว่ามันยังต้องผจญอยู่ในนรกถึงกับผวาหน้าตาตื่น ใครคนหนึ่งแหกปากร้องวิงวอนราวคนบ้า ดวงตาปูดโปนแดงก่ำเต็มไปด้วยแววหวั่นผวาจับจ้องที่ใบหน้าคมคายแม้ครึ่งใบหน้านั้นจะรกด้วยแนวหนวดเครา ยังเห็นได้ว่าผิวนั้นขาวจัด เกิดจากการใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศหนาวมาหลายปี มันแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยจะจัดเจนฝีมือและทรมานคนได้เหี้ยมโหดขนาดนี้ ภาพลักษณ์ที่พวกมันเคยเห็นจนชินตาคือชายหนุ่มผู้ชื่นชอบความสำเริงสำราญท่ามกลางกลุ่มเพื่อน หญิงสาวสวย และสังคมหรูหรา

“ถ้ามึงไม่รู้อะไรเลยมึงก็ไม่สมควรอยู่รับรู้อะไรอีก”

คมคายเปรย เสียงไร้ความรู้สึก

“ถ้ามันไม่อยากพูด ลิ้นก็ไม่ควรเก็บไว้นะครับเจ้านาย”

รัฐกร ธัญชัยพร ผู้ช่วยและคนสนิทสำทับแทรกเสียงคร่ำครวญของเชลย พอเขาพูดจบมีดเล่มหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า เจ้านายเพียงปรายตามองเฉย เขาจึงคว้ามันมาโยนเล่นโดยไม่ลืมสังเกตสีหน้าหวาดผวาสุดขีดของเชลยอีกสองคนที่ถูกปลดจากโซ่

ผู้ถูกจองจำอีกคนตะเบ็งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวหนุ่มรุ่นลูก ความโหดร้ายทารุณที่มันได้เจอกับตัวเห็นกับตาทำมันแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นมีดคมวับด้านหลังใจมันแทบระเบิด

“กะ... กูไม่รู้เรื่อง กูตรวจเช็กเครื่องแล้ว มันไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ตำรวจก็บอก มึงไม่เชื่อก็ไปเอาเรื่องพวกตำรวจสิวะ พวกกูเป็นแค่ช่างเครื่องจะรู้อะไรวะ”

“มึงไม่ต้องมาสอนว่าพวกกูควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ทางที่ดีมึงบอกมาดีกว่าว่าพวกมึงทำงานให้ใคร คุณคาร์ลอาจจะเมตตามึงบ้างก็ได้”

“กูไม่รู้ ไม่รู้!”

คมคายสีหน้าเรียบเฉยหาได้มีปฏิกิริยาอะไรต่ออาการกระเสือกกระสนหาทางรอด ตากร้าวกระด้างจับจ้องคนที่เป็นหัวหน้าซึ่งต่อสายตากับเขาไม่หลบ ภายใต้ความนิ่ง โพรงอกของเขาระอุไปด้วยความร้อนราวกับถูกไฟนรกแผดเผา เหตุเพราะพวกมัน!

“เอามันลงมา”

ศิลาลักษณ์ทำธุรกิจหลายอย่าง ธุรกิจหลักคือผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มจำพวกเหล้า เบียร์ น้ำเปล่า น้ำอัดลมตลอดถึงเครื่องดื่มชูกำลัง รองลงมาเป็นกิจการขนส่งระหว่างประเทศ กิจการอสังหาและสังหาฯ ตัวแทนนำเข้ารถหรู

นอกจากนี้ก็ยังมีธุรกิจสีเทา คือ ผับ บาร์ โรงแรมหรูในเมืองใหญ่หลายจังหวัด  สนามแข่งรถบนพื้นที่ชายฝั่งติดทะเล แน่นอนว่าต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะใช้บริการได้เพราะค่าสมาชิกหลายแสนบาท สุดท้ายกิจการกาสิโน ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ มีหนึ่งแห่งอยู่บนเกาะ

ไอ้ตัวสวะตรงหน้า มันเคยเป็นผู้บริหารกาสิโนแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้าน ถูกให้ออกเพราะยักยอกเงินมหาศาล มันเคียดแค้นและกลับมาแว้งกัดด้วยการรวมหัวกับทีมช่างเครื่องบินส่วนตัว

เครื่องบินที่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทางไปดูงานที่สมุย พ่อแม่ของเขา การ์ดและนักบินรวมสิบชีวิต ทั้งหมดเสียชีวิตทันที

อุบัติเหตุเครื่องบินตกแม้ไม่ได้มีทุกวัน ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์พันลึก เกิดกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่สำหรับครอบครัวของเขา

ไม่ใช่ ศิลาลักษณ์! ที่มีการป้องกันแน่นหนาด้วยการ์ดมืออาชีพ

ตำรวจสรุปว่ามันเป็นอุบัติเหตุจากหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้

เขาไม่เชื่อ! คนนอกไม่มีทางทำอันตรายพ่อแม่เขาได้ ยกเว้นมันจะเป็นคนใน!

“ฆ่ากูซะเลยสิ”

คมคายกระตุกมุมปาก จ้องคนตรงหน้าเขม็ง ก่อนที่มันจะได้ดูแลกาสิโน มันเคยเป็นหัวหน้าการ์ดของพ่อเขามาก่อน พ่อไว้ใจมันมาก

บทถัดไป