บทที่ 9 Chapter 9

ให้ตายเถอะ คิดเรื่องนี้ทีไรให้หงุดหงิดในอก

ด้วยความเบื่อหน่าย เขาเลยเลือกนางเอกสาวสวยมาแก้เซ็ง

บรรยากาศตอนนี้มันควรจะทำให้เขาตื่นเต้นตื่นเร้าไปกับบทสวาทร้อนแรงของนางเอกสาว เขากลับไม่รู้สึกรู้สา

คมคายกวาดมองแสงสีเสียงเบื้องล่าง ที่นี่เป็นผับหรูมีชื่ออยู่ในโรงแรมมีระดับ มีค่าสมัครหลักแสน ดังนั้นจึงมีดารา นายแบบ ไฮโซ คนดังต่างๆ เข้ามาใช้บริการ หากเขาไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ มองไปเรื่อย ไม่มีจุดหมาย กระทั่งสายตาสะดุดหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเบี่ยงตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์เรียกหาเครื่องดื่ม เขาหรี่ตามอง... ผละมือจากพนักโซฟา รวบเส้นผมนุ่มสลวยของนางเอกคนดัง รั้งแผ่วเบาเรียวปากสีหวานก็หลุดจากส่วนขืนแข็ง

เธอยิ้มเอียงอาย ช่างผิดจากวินาทีก่อนหน้าที่กลืนกินกายเขาอย่างเผ็ดมัน

“พอก่อน”

“คะ?”

มือหนาเลื่อนมาลูบแก้มนิ่ม

“ผมนึกได้ว่ามีธุระ”

“แต่ว่า คุณคาร์ล...” ชญานิษฐ์ไม่อยากยินยอม เธอมีอารมณ์จะแย่แล้ว เขากลับจะปล่อยร้างค้างเติ่งกะทันหัน ทั้งที่ตัวเขาเองก็ยัง ...แข็งผงาด!

“คุณยัง...” เธอหลุบตาลงมองส่วนที่มือยังกอบกำ

คมคายกดนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม

“อย่าดื้อสิครับ”

นางเอกสาวขัดใจ หากเมื่อเงยหน้าขึ้น ประกายตาคมกล้านั้นไม่อาจทำให้เธอปฏิเสธได้ดังใจคิด

“ก็ได้ค่ะ นิวจะรอคุณคาร์ลนะคะ”

เขาไม่ตอบ จัดแจงกางเกงเรียบร้อยก็ออกจากห้องไปก่อน ปล่อยให้เธอแต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนตอนแรกเข้ามา

ร่างสูงหยิบบุหรี่ออกมาใส่ปาก จุดไฟ อัดมันเข้าปอดอึกใหญ่ เริ่มเลื่อนนิ้วไปบนสมาร์ตโฟนในมืออีกข้าง ไม่นานเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ จากนั้นเปลี่ยนไปเข้าหน้าจอการโทร. ติดต่อหาใครบางคน

รอสัญญาณไม่กี่ครั้ง ปลายสายกดรับ เขาใช้มืออีกข้างดึงบุหรี่ออกจากปาก เคาะนิ้วเบาๆ ดีดเถ้าที่เผาไหม้ทิ้ง

“ธาม กูมีงานให้มึงทำ”

“...”

“ต้องเรียบร้อยในยี่สิบสี่ชั่วโมง”

ไม่สนการโวยวายจากปลายสาย สั่งเสร็จกดตัดสาย  เลื่อนหาเบอร์ต่อไป คุยไม่กี่คำแล้ววาง ก่อนจะเปลี่ยนหน้าจอไปยังโหมดที่ต้องการ มันเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เขาไม่ได้ยินเสียงแต่ภาพนั้นคมชัดทุกรายละเอียด ยิ่งเห็นไหล่เปลือยผุดผ่องถูกลูบไล้ มันยิ่งทำให้โพรงอกบีบรัดราวกับถูกมือปีศาจบีบเคล้น

หกปี จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็ได้ มันเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ทุกวันนี้เขาคือประธานกรรมการบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยอายุเพียง 35 ปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงและธุรกิจทุกตัวที่เขาดูแลล้วนประสบความสำเร็จดียิ่ง ขณะเดียวกัน เด็กสาวที่เขาให้ออกจากบ้านเมื่อหกปีก่อนก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเช่นกัน

หกปีที่เขาไม่เข้าไปหาไปวุ่นวาย ทำเพียงโอนเงินให้

หกปีที่เธอไม่เคยแตะต้องเงินนั่น ปล่อยให้มันเพิ่มพูนถึงวันนี้มีจำนวนกว่าสิบล้านบาท

ทำไมวันนี้เธอต้องทำตัวสิ้นไร้ มากินข้าวกับไอ้แก่เจ้าตัณหาคนนั้น

จะมากเกินไปแล้ว!

เธออึดอัด เนื้อตัววูบวาบหากไม่ใช่หวามหวิว มันคือความรังเกียจที่ถูกแตะต้อง แม้จะเป็นแค่การโอบเอวแตะไหล่ขณะเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลงเนื้อหาซาบซึ้งที่เธอแทบไม่รู้สึกรู้สาเพราะมัวแต่สะอิดสะเอียน อยากจะหนีไปจากสถานการณ์ชวนอ้วกนี้โดยเร็ว

“ร้อนเหรอครับหนูมะลิ เหงื่อเต็มหน้าเชียว”

“สงสัยเต้นหลายเพลงแล้วเหนื่อยค่ะ วันนี้มะลิทำงานกลางแดดทั้งวันคงจะเพลีย ลิว่าเราไปนั่งพักเหนื่อยดีกว่าไหม”

“จริงสิ งานวันนี้สนุกหรือเปล่า”

ธัชธรรมประคองร่างนุ่มให้นั่งบนโซฟาตัวใหญ่แทนโต๊ะอาหาร มองพริตตี้สาวสวยด้วยแววตากรุ้มกริ่ม เขาเข้าใจว่าเธอคงประหม่า เห็นว่างานนี้เป็นครั้งแรกของเธอ

“ดื่มสักหน่อย”

แก้วไวน์ถูกเลื่อนมา มัลลิกากานต์ยกขึ้นดื่มไม่อิดออด

“สนุกดีค่ะ”

“พอมะลิได้เป็นนางเอกละคร จะสนุกกว่านี้ ค่าแรงมากกว่าวันนี้ไม่รู้กี่สิบเท่า”

“น่าสนุกดีนะคะ”

“ถ้ามะลิชอบ อยากเป็นนางเอกกี่เรื่องผมจัดการให้ได้”

“แหม... จะดีเหรอคะ”

ธัชธรรมเลื่อนกายเข้าแนบติดกายนุ่ม ถือวิสาสะวาดมือมาโอบไหล่สาว ลูบไล้ผิวเนียนเล่นเบาๆ

มัลลิกากานต์ปรายตามองมือใหญ่

“หนูมะลิสวยขนาดนี้จะไม่ดีได้ยังไงครับ ผมรับรองว่า คุณได้แจ้งเกิดในฐานะนางเอกหน้าใหม่ยอดนิยมแน่นอน”

เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ กระซิบเสียงพร่าแบบที่ทำให้เธออยากเบือนหน้าหนี หากที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มหวาน ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบลำไหล่กว้าง เอ่ยยิ้มๆ

“ฟังดูแล้ว ลิช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้รับโอกาส”

นายทุนคนดังยิ้มกว้าง ถูกใจในท่าทางตอบรับของหญิงสาว ก้มหน้าเข้าไปหาใกล้ๆ หวังจะได้ประทับปากลงบนกลีบปากเต็มตึงอวบอิ่มงาม

มัลลิกากานต์กลั้นลมหายใจ เบี่ยงหน้าหลบในท่าทีเอียงอาย เพื่อให้ปลายจมูกและริมฝีปากยิ้มๆ นั้นกดลงกับแก้มนุ่ม

ทว่า... หัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำด้วยความขยะแขยงของเธอพลันระเบิดตูมกลับกลายเป็นความโล่งอก โทรศัพท์ของธัชธรรมร้องลั่นขึ้น ท่าทางเขาไม่อยากรับแต่หลังจากเห็นชื่อคนโทร.มาก็รีบรับรวดเร็ว

“ครับ... อะไรนะครับ”

เธอใช้โอกาสนั้นถอยออกห่างแนบเนียน ไม่ต้องพยายามแอบฟัง ก็ได้ยินว่า ฝ่ายที่โทร.เข้ามานั้นคุยเรื่องรถซูเปอร์คาร์ ธัชธรรมสนใจมาก ฝ่ายนั้นเชิญเขาไปคุยเรื่องรายละเอียด เขาลังเล มองมาที่เธอบอกให้รู้จากสายตาว่า เสียดายถ้าจะปล่อยเธอแค่นี้แต่ก็สนใจรถ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป