บทที่ 1 ความทรงจำ (1)
“เอาตัวคุณหนูกลับบ้าน!”
“หยุด ถ้าพ่อยังวุ่นวายกับชีวิตข้าว ข้าวจะตายตามแม่ไป!!”
ฉันที่เพิ่งกลับจากโรงเรียน ต้องมาหงุดหงิดเมื่อเห็นพ่อยืนรออยู่หน้าคอนโด ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องเข้ามาจับตัวเพื่อจะพากลับบ้าน หึ บ้าน บ้านที่มันไม่ใช่บ้านมาตั้งแต่วันที่พ่อมีคนอื่น
ตั้งแต่แม่พาฉันออกจากบ้าน เพราะพ่อพาเมียอีกคนเข้าไปทำร้ายจิตใจแม่ เธอเป็นผู้หญิงใจร้าย ชอบดุด่าตีฉันประจำ แต่พออยู่ต่อหน้าพ่อ เธอจะทำดี ทำเป็นรักและเอ็นดู ซึ่งฉันเกลียดที่สุดคือคนหน้าไหว้หลังออกแบบนี้!
แม่เป็นฝ่ายเดินออกมาเองและขอหย่าขาดกับพ่อ เพราะพ่อหลงเมียใหม่ไม่ลืมหูลืมตา หาว่าแม่กลั่นแกล้งตัวเองสารพัด แต่ความเป็นจริงผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ทำร้ายฉันกับแม่มาตลอด!
ตอนนั้นที่แม่พาออกจากบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ตอนนั้นฉันอายุแค่ 10 ขวบ เราอาศัยอยู่ในห้องเช่าห้องเล็ก ๆ ยิ่งได้เห็นแม่แอบร้องไห้ทุกคืน คิดดูว่ามันจะเจ็บมากแค่ไหน แต่ก็ทำได้เพียงแค่กอดแม่ไว้และพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ เพราะถ้าฉันร้องไห้อีกคนแม่ก็ยิ่งจะเสียใจเพิ่มมากขึ้น
ดีที่แม่มีเพื่อนที่รู้จัก และเขาแนะนำให้ไปทำงานที่โรงพยาบาลที่เคยทำมาก่อน เราสองคนแม่ลูกเลยไม่อดตายมาได้ ในวันที่ลำบากที่สุดแทบไม่มีอะไรจะกิน แล้วพ่อล่ะพ่อหายไปไหน เขาอยู่ดีมีสุขยิ้มหัวเราะ แต่เราสองแม่ลูกได้แต่กอดกันร้องไห้
แต่ในความโชคร้ายก็ยังเป็นความโชคดี ที่อาหมอให้ความช่วยเหลือเราสองแม่ลูกทุกอย่าง อาหมอดูแลฉันกับแม่เป็นอย่างดี ท่านรักและดูแลเราเหมือนเป็นญาติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน
แต่นั้นมันก็เป็นความสุขแค่เสี้ยววินาที เมื่อแม่ทำงานได้ไม่นาน แม่ก็ล้มป่วย อาหมอพยายามรักษาแม่จนอาการแม่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
แต่แล้วอาการก็ทรุดลง เพราะเห็นข่าวพ่อแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ตั้งแต่วันนั้นแม่ก็เอาแต่ร้องไห้ สุดท้ายแม่ตรอมใจไม่กินไม่นอนและแม่จากฉันไปไม่มีวันกลับ สุดท้ายฉันก็ไม่เหลือใคร
ถึงมันจะผ่านมาแล้วหลายสิบปี แต่ทุกความทรงจำ ทุกความรู้สึก มันกลับยังจำวันนั้นวันที่แม่จากไปได้ไม่เคยลืม เด็กอายุแค่ 11 ขวบ ไม่เหลือใคร ไม่มีพ่อไม่มีแม่ มันเจ็บ เจ็บมากจริงๆ แต่ก็ผ่านมันมาได้จนถึงทุกวันนี้
แต่ถือว่ายังดีที่อาหมอกับอานิภารับอุปการะเลี้ยงดู เพราะฉันไม่มีใคร แม่ไม่มีญาติที่ไหน ส่วนพ่อตอนนั้นหลงเมียใหม่ ไม่สนใจว่าฉันกับแม่จะเป็นตายร้ายดียังไง เขาไม่เคยตามหาถามไถ่
มีแต่อาหมอกับอานิภาที่รักและเอ็นดูมอบความรักความอบอุ่นให้มาตลอด ท่านมีลูกชายคนเดียว คือ พี่ครินต์ ที่ตอนนี้เพิ่งเรียนจบหมอ อีกไม่กี่เดือนเราก็จะได้เจอกันแล้ว
แต่อาหมอต้องไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ภูเก็ต อานิภาเลยต้องตามไปดูแล ตอนแรกอานิภาจะไม่ไปเพราะเป็นห่วงฉัน แต่ฉันดูแลตัวเองได้ และอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบและเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เลยไม่อยากย้ายกลางคัน
อาหมอกับอานิภาเลยตกลงกันให้ฉันเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เพราะท่านสองคนเชื่อใจและมั่นใจในตัวเด็กน้อยคนนี้ที่ท่านเลี้ยงมากับมือ เพราะฉันไม่เคยเกเร ถึงจะซนบ้างแต่ก็ไม่เคยทำให้ท่านทั้งสองต้องเป็นห่วง
ตอนนี้ก็ 18 แล้วจะว่าเป็นเด็กเรียนก็ไม่ใช่ เพราะฉันก็ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่แค่ไม่คิดจะมีแฟน ไม่อยากรักใครแล้วต้องมานั่งเสียใจเหมือนแม่ การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้แย่สักหน่อย สบายดีออกอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องสนใจใคร กินข้าวดูหนังฟังเพลงแค่มีเพื่อนมันก็เพียงพอแล้ว
ฉันเลือกที่จะปิดกั้นตัวเอง แต่ไม่ใช่ไม่มีเพื่อนผู้ชายนะ แต่เวลามีคนมาจีบก็จะปฏิเสธพวกเขาไปทันที มันยังไม่พร้อมจริงๆ
"ใบข้าวลูก พ่อขอโทษ พ่อผิดไปแล้ว" พ่อเดินเข้ามาใกล้
"อย่าเข้ามา" ฉันถอยหนี 2 ปีที่พ่อพยายามจะเอาตัวฉันกลับบ้าน
"มันไม่มีประโยชน์หรอก พ่อเลิกยุ่งกับข้าวเถอะ ตอนนี้ข้าวมีความสุขดีทุกอย่าง มีครอบครัวที่อบอุ่นที่รักและห่วงใยข้าว" ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้สิก็ไม่ได้อยากร้องไห้นะ แต่ 6 ปีเต็มๆ ที่รอและภาวนาให้พ่อมารับตัวกลับไปอยู่ที่บ้าน
แต่ก็ได้แต่ฝันจนถอดใจและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตพ่ออีก เพราะพ่อเองก็คงไม่ต้องการฉันเหมือนกัน
แต่อยู่ๆ พ่อก็มาตามและจะให้กลับไปอยู่ที่บ้าน บ้านที่มีแต่ความทรงจำที่เจ็บปวดและมีเมียใหม่พ่อ มีผู้หญิงใจยักษ์คนนั้น ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้แค่ชอบหน้าแต่เธอเกลียดฉันเลยแหละ และฉันเองก็เกลียดเธอมากเหมือนกัน เพราะเธอคือคนที่ทำให้ฉันต้องเสียแม่ไป!
ทันทีที่เธอรู้ว่าพ่อจะเอาตัวฉันกลับไปอยู่ด้วย เธอก็ตามมาดุด่าและให้คนมาขู่จะทำร้ายอยู่หลายครั้ง ดีที่อาหมอแจ้งความไว้ เธอเลยไม่กล้าทำอะไร ได้แค่ขู่ให้กลัว จากชีวิตที่เคยมีแต่ความสุขก็กลายเป็นอยู่อย่างหวาดระแวง
"ข้าวขอนะคะพ่อ ถ้าพ่อยังเห็นข้าวเป็นลูก ข้าวขอใช้ชีวิตแบบนี้ ข้าวไม่ต้องการเงินทองสมบัติอะไรของพ่อทั้งนั้น"
"ถึงครอบครัวอาหมอจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่ท่านทั้งสองก็ไม่เคยให้ข้าวอด อาหมอดูแลข้าวเป็นอย่างดี"
"ข้าวคงทิ้งพวกท่านไปไม่ได้" ตอนนี้น้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ฉันที่เป็นแค่เด็กที่ถูกอาหมอรับเลี้ยงเพราะความสงสารแต่กลับอยู่ดีกินดีกว่า พี่ครินต์ ลูกชายแท้ๆ อีก
อาหมอกับอานิภาจะสอนให้พี่ครินต์เสียสละให้น้องก่อนเสมอ เพราะฉันคือน้องสาวของพี่ครินต์ อาหมอและอานิภาจะสอนให้เรารักกันดูแลช่วยเหลือกันทุกอย่าง
พ่อทำหน้าเศร้า ฉันรู้ว่าพ่อไม่ค่อยสบาย และอยากให้ฉันกลับไปดูแลธุรกิจที่พ่อสร้างมากับมือ
