บทที่ 3 หลบหนี
เอมิลี่ตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดแสบร้อนที่แล่นปราดอยู่ระหว่างเรียวขา
ความร้อนรุ่มราวกับเป็นไข้เมื่อคืนก่อนจางหายไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงความหนาวเยือกเย็นไปถึงกระดูกและร่างกายที่ปวดร้าวราวกับแหลกสลาย ดวงตาของเธอเบิกโพลงขึ้น เผยให้เห็นเพดานที่ไม่คุ้นตา ม่านหนาทึบ และร่างของชายหนุ่มที่หลับใหลอยู่ข้างกาย
ความทรงจำจากคืนก่อนหน้าทะลักเข้ามาดั่งเขื่อนแตก... อาการมึนเมาจากการถูกวางยา รอยยิ้มหื่นกระหายของรอย การวิ่งหนีอย่างสิ้นหวังด้วยเท้าเปล่า แล้วก็การพัวพันอย่างไม่อาจควบคุมในห้องน้ำ ตามด้วยคลื่นอารมณ์อันเร่าร้อนบนเตียงนอน
ใบหน้าของเอมิลี่ร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความอับอาย ความละอายใจ และความตื่นตระหนกที่เกาะกุมหัวใจราวกับเถาวัลย์ที่กำลังรัดบีบ
เธอเผลอไปนอนกับคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง
ไม่ได้ เธอต้องรีบไปจากที่นี่ก่อนที่เขาจะตื่น
ชุดราตรีของเธอถูกเขาฉีกจนขาดวิ่น ทำให้เอมิลี่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสวมเสื้อผ้าของชาร์ลส์ ส่วนเจ้าของร่างจะตื่นมาใส่อะไรก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวลอีกแล้ว
ด้านนอกคฤหาสน์จอห์นสัน เอมิลี่กำลังจะก้าวเข้าไปเผชิญหน้ากับไซมอนเพื่อถามว่าทำไมเขาถึงทำกับเธอเช่นนี้
ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำหยาบกระด้างและน่ารังเกียจของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในหูของเธอ "ไซมอน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ แกให้เอมิลี่มาปั่นหัวฉันเล่นงั้นเหรอ! เมื่อคืนฉันแทบแย่ตอนที่ไล่ตามยัยนั่น แกต้องอธิบายมา!"
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะประจบประแจงของไซมอนที่เจือไปด้วยการเอาใจ "ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณเมอร์ฟี เอมิลี่ถูกตามใจจนเสียคน ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง วางใจได้เลยครับ คืนนี้ผมจะส่งตัวเธอไปให้ถึงเตียงท่านเพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมจะจัดการให้เธอเชื่องและไม่กล้าสร้างปัญหาอีก"
"เออ อย่างนี้ค่อยเข้าท่าหน่อย ไปบอกนังตัวดีเอมิลี่ด้วยนะว่าอย่าอกตัญญู การที่ฉันเลือกยัยนั่นถือเป็นโชคดีของมันแล้ว!"
"ครับๆ แน่นอนอยู่แล้วครับคุณเมอร์ฟี" เสียงของไซมอนยิ่งฟังดูนอบน้อมลงเรื่อยๆ
เอมิลี่ไม่ได้ยินบทสนทนาที่เหลืออีกต่อไป
เธอยืนนิ่งแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า เลือดในกายเย็นเฉียบเป็นน้ำแข็ง ความเจ็บปวดฉีกขาดระหว่างเรียวขายังคงอยู่ แต่เมื่อเทียบกับความเย็นเยียบในหัวใจแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลย
ที่แท้... ไม่ใช่แค่แผนการของคลาร่าคนเดียว
พ่อของเธอเองก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ ยาที่ถูกวางเมื่อคืน "คำขอโทษ" ในคืนนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่พวกเขาตระเตรียมไว้อย่างดี
เธอเคยคิดว่าถ้าทนอีกสักหน่อย เธอจะสามารถทวงคืน ‘มิราจแฟชั่น’ ของแม่กลับมาได้ จะสามารถยึดเหนี่ยวความหวังสุดท้ายนั้นไว้ได้
แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอคงทนไปจนถึงวันนั้นไม่ไหว
เอมิลี่กัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงจนได้รสเลือด พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เธอร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือดไปหมดแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือความเย็นเยียบจนถึงกระดูกและความเด็ดเดี่ยว
เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว
ชีวิตของเธอจะถูกครอบครัวจอห์นสันควบคุมอีกต่อไปไม่ได้
...
โทสะที่คุกรุ่นอยู่ในแววตาของชาร์ลส์ยังไม่มอดดับ เรื่องที่เขาถูกวางยาครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามีเป้าหมายที่ตัวเขาโดยตรง ใครก็ตามที่วางแผนเรื่องนี้ช่างเหี้ยมโหดและกะจังหวะได้อย่างไร้ที่ติ หากผู้ช่วยของเขาไม่พบความผิดปกติได้ทันเวลา ผลที่ตามมาคงยากจะคาดเดา
สายตาของเขาทอดมองไปยังคราบเลือดสีแดงคล้ำที่แห้งกรังอยู่กลางผืนผ้าปูที่นอน สีหน้ายากจะคาดเดา
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน?
ความทรงจำเมื่อคืนเลือนรางเต็มที เขาจำได้เพียงกลิ่นหอมจางๆ ของเธอ สร้อยคอไพลินสีน้ำเงินที่แนบชิดกับผิวของเขา และการขัดขืนอันสั่นเทาแผ่วเบาในอ้อมแขน เขาไม่เคยรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่าเธอเป็นยาถอนพิษเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถสยบความดิบเถื่อนในตัวเขาได้
เขาคิดว่าจะซักถามเธอตอนตื่น แต่ไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะหนีไป
ไม่เพียงแต่หนีไป แต่เธอยัง...
สายตาของชาร์ลส์กวาดไปทั่วพรม เธอเอาเสื้อผ้าของเขาไปด้วยงั้นเหรอ?
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเนธาน บราวน์ ผู้ช่วยของเขา ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "ไปสืบมาว่าผู้หญิงที่เข้ามาในห้องฉันเมื่อคืนเป็นใคร"
เนธานลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากปลายสาย ก่อนจะตอบกลับอย่างรวดเร็ว "ครับ คุณวินด์เซอร์ มีจุดบอดของกล้องวงจรปิดตรงหน้าห้องส่วนตัวของคุณพอดีครับ แต่มีภาพจากโถงทางเดินกับลิฟต์อยู่ครับ ผมจะรีบตรวจสอบทันที เราต้องปิดข่าวเรื่องนี้ไหมครับ"
"ไม่ต้อง" ชาร์ลส์ตอบเรียบๆ "ฉันต้องการประวัติทั้งหมดของเธอ ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร"
เขาอยากจะเห็นนักว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร... คนที่กล้าลอบเข้ามาในห้องของเขา จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังเอาเสื้อผ้าของเขาไปด้วยอีก
เนธานไม่กล้าชักช้า "ครับ คุณวินด์เซอร์ ผมจะรีบจัดการทันที!"
หลังจากวางสาย ชาร์ลส์เดินไปที่หน้าต่างและกระชากม่านหนาทึบออก แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาจนสว่างทั่วทุกมุมห้อง แต่ก็ไม่อาจปัดเป่าความมืดมนในดวงตาของเขาได้
ชาร์ลส์สังหรณ์ใจว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าที่ร่วมเตียงกันเพียงคืนเดียว
นิ้วของเขาเคาะเบาๆ กับขอบหน้าต่าง สายตาทอดมองไปยังเส้นขอบฟ้าของตึกระฟ้าในระยะไกล ดวงตาฉายแววครุ่นคิดล้ำลึก
เขาคิดในใจ ‘ผู้หญิงที่ยังไม่รู้จักชื่อคนนั้น... เธอหนีไม่พ้นหรอก’
ไม่ว่าเธอจะหนีพ้นในภายหลังหรือไม่ แต่อย่างน้อยตอนนี้ เอมิลี่ก็หนีรอดมาได้สำเร็จแล้ว
ไซมอนสามารถตามหาเธอเจอได้ทุกเมืองในประเทศผ่านเส้นสายของเขา
ทางเลือกเดียวของเธอคือการหนีออกนอกประเทศ
ไปให้ไกลจากดินแดนที่น่าอึดอัดนี้ ไปยังที่ที่พวกเขาไม่มีวันตามไปถึง
เอมิลี่ลอบเข้าไปในห้องนอนของตัวเองตอนที่คนในบ้านจอห์นสันไม่ทันสังเกต เธอขโมยพาสปอร์ต วีซ่า และบัตรธนาคารที่แม่ทิ้งเงินเก็บส่วนตัวไว้ให้
ทันทีที่เธอยัดทุกอย่างลงในกระเป๋าและหันหลังจะจากไป สร้อยคอของเธอก็ไปเกี่ยวกับช่องว่างของประตูตู้เสื้อผ้า ตะขอหัก และสร้อยคอไพลินสีน้ำเงินอันบอบบางที่สการ์เลตต์ผู้เป็นแม่ทิ้งไว้ให้ก็ร่วงหล่นลงบนพรม
หัวใจของเธอเจ็บแปลบ เธอโน้มตัวลงไปเก็บตามสัญชาตญาณ แต่แล้วเสียงฝีเท้าก็ดังใกล้เข้ามาจากนอกห้อง
"บ้าจริง!"
เอมิลี่จำใจทิ้งสร้อยเส้นนั้น คว้ากระเป๋าแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง เธอรูดตัวลงมาตามท่อระบายน้ำถึงพื้นแล้วปีนข้ามกำแพงออกไปอีกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อได้นั่งบนรถแท็กซี่ มองดูเงาของคฤหาสน์จอห์นสันที่ค่อยๆ เล็กลงในระยะไกล เธอถึงกล้าหันกลับไปมอง น้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาทันที
สร้อยเส้นนั้นเป็นของดูต่างหน้าชิ้นสุดท้ายที่สการ์เลตต์ แม่ของเธอทิ้งไว้ให้
แต่ตอนนี้ แม้แต่ความกล้าที่จะกลับไปเอามัน เธอก็ยังไม่มี














































































































