บทที่ 6 ต่างคนต่างอยู่
“ต้องแบบนี้สิ ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน”
“มั้วะ!! สวยนะเรา” ฉันยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะเก็บลิปสติกแท่งโปรดเข้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
ทำไมนะทำไม ไม่เข้าใจเลยทำไมต้องวนเวียนมาเจอกันอีก “ช่างเถอะ สวย ๆ รวย ๆ อย่างเธอจะสนใจอะไรกับผู้ชายแค่คนเดียว” ฉันพูดให้กำลังใจตัวเอง อีกใจก็กลัวตัวเองหวั่นไหวถ้าได้อยู่ใกล้กับพี่เขาอีก
หมับ!!
พรึบ!!
“อ๊ะ...โอ๊ย ปล่อยนะ ปล่อย!!!” ร่างเล็กร้องเสียงหลง เมื่อโดนใครก็ไม่รู้คว้ามือฉุดกระชากลากถูออกจากผับ
“นี่ปล่อยนะ!!” ฉันขัดขืนเต็มแรง สะบัดมือเขาออกแล้วรีบเดินหนีจากตรงนั้น
พรึบ!!
“กรี๊ด!!!! ไอ้บ้า!! ปล่อยนะไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่!!”
ตุ้บ ตุ้บ ปัก ปัก
ร่างเล็กร้องเสียงแหลมหู พร้อมฟาดหมัดทุบแผ่นหลังกว้าง เมื่อถูกอุ้มพาดบ่าเดินตรงไปที่ลานจอดรถ แล้วตอนนี้ทุกคนกำลังสนุกอยู่ในผับ แล้วเนี่ยการ์ดผับ ไปไหนหมด คอยดูนะ จะไล่ออกยกชุดเลย
“กรี๊ด!!! ปล่อยสิวะ” ฉันดิ้นทั้งทุบทั้งตี แต่ไอ้บ้านี่กลับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
พรึบ!!
ปัก!!
“อ๊ะ...เจ็บนะ” ก่อนร่างเล็กจะถูกจับโยนเข้าไปในรถ แล้วคิ้วเรียวต้องขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นหน้าคนร้าย
“เป็นบ้าอะไรของพี่!” เป็นเขา แล้วมันเรื่องบ้าอะไร มีสิทธิ์อะไรถึงได้ลากฉันมาแบบนี้
“เปิด!” ฉันสั่งเสียงแข็ง เมื่อเขาไม่ยอมเปิดประตู
“ฉันบอกให้เปิด!” สองมือกำหมัดแน่น พร้อมพยายามไม่ให้ตัวเองสติแตกโมโหไปมากกว่านี้
“ทำไมจะไปมั่วผู้ชาย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ สายตาที่มองมามันดูถูกเหยียดหยามกันที่สุด
“จะไปทำอะไรมันก็เรื่องของญี่ปุ่น มันไม่เกี่ยวกับพี่ หรือพี่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชายพวกนั้นที่ญี่ปุ่นมั่วด้วย ได้นะ แต่คงต้องรอคิวนานหน่อย” ฉันยิ้มอย่างเย้ยหยัน ในสายตาเขาญี่ปุ่นคนนี้คงไม่มีอะไรดี
“ฮึ...” แต่เขากลับเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน จ้องฉันอย่างกับฉันไปฆ่าใครตาย
“ฉันไม่พิศวาสผู้หญิงไร้ยางอาย แรด ร่านอย่างเธอ!” มือหนาบีบแขนเล็กอย่างแรง
“เหรอคะ แล้วถ้าไม่อยากได้จะลากมาที่นี่ทำไม!” ถึงจะเจ็บแค่ไหน ก็ต้องทำเป็นไม่เจ็บ มือเล็กลูบไล้แผงอกแกร่งไปมาอย่างเอาใจ
“เห็นนะว่าพี่แอบมองญี่ปุ่นอยู่ตลอด ทำไมเหรอคะ เสียดายเหรอ” ฉันยังคงพูดยั่วยวนเขา
“อยากได้ก็บอกกันดี ๆ เห็นแก่ที่ญี่ปุ่นเคยรักพี่ แค่พี่เอ่ยปากญี่ปุ่นจะรับไว้พิจารณา” มือเล็กลูบไล้ใบหน้าหล่อคม กัดปากยั่วยวนพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้
“ที่ฉันลากเธอมา เพราะเห็นแก่พ่อเธอที่มีพระคุณ มีลูกสาวทำตัวร่านแบบนี้รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!” สายตาคู่นั้นที่มองมามันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มือหนาออกแรงบีบ มันเจ็บเหมือนกระดูกจะแหลกเป็นเสี่ยง ๆ
“เป็นคนดีเหมือนเดินนะคะ แต่ไม่ต้องมาอายแทนแด๊ด ถึงญี่ปุ่นจะร่านแต่ญี่ปุ่นก็เลือก และพี่ก็ไม่เคยอยู่ในตัวเลือกนั้น!!” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง คนอย่างเขามันก็แบบนี้ชอบพูดและตัดสินคนอื่นทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักคนคนนั้นดีพอ
“หมดธุระแล้วก็ปล่อย พอดีจะไปร่านต่อ วันนี้ผู้ชายรอต่อคิวเยอะซะด้วย” มือเล็กปัดมือเขาออกแล้วเปิดประตูลงจากรถทันที พร้อมหัวใจที่มันเจ็บ เจ็บทุกครั้งที่ได้ยินคำดูถูกจากผู้ชายคนนี้
หมับ
“ถ้ามันคันมากฉันจะทำให้เธอหายคันเอง!”
“นี่! ปล่อยนะ หยุดนะ พี่แบงค์ ญี่ปุ่นบอกให้หยุด!!” คนตัวเล็กดิ้นพยายามดันคนตัวโตออกจากตัว เมื่อเขาเป็นบ้าอะไรไม่รู้ อยู่ ๆ ก็ดึงตัวไว้แล้วจูบซุกไซ้ซอกคออย่างหื่นกระหาย มันเจ็บจี๊ดเหมือนเนื้อมันจะแตกเมื่อเขาออกแรงดูด
“ปล่อยสิ!” เขาไม่ฟังที่ฉันพูด ยิ่งห้ามยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งทำรุนแรงขึ้นเรื่อย!
“พี่แบงค์ ปล่อยนะ ปะ...ฮื่อ” เสียงของฉันมันถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากอุ่นประกบปากจูบพร้อมเรียวลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาดูดดึงลิ้นเล็กอย่างแรง มือหนาพยายามดึงเสื้อที่ใส่อยู่จนมันขาดรุ่งริ่ง จนเห็นหน้าอก
“ฮื่อ” ร่างเล็กยังคงดิ้นพยายามขัดขืนเมื่อคนตัวโต ที่ดำดิ่งไม่ได้สติ เขาบดจูบขยี้ริมฝีปากบางอย่างแรง เหมือนโกรธแค้นทั้ง ๆ ที่ฉันก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ ถึงได้มาทำกันแบบนี้ มันเจ็บจนบวมชาไปทั่วทั้งบริเวณ
“ปล่อย อึก” คนตัวเล็กพูดเสียงสะอื้น เมื่อคนตัวโตไม่ยอมหยุดแต่เขากลับจูบดูดซุกไซ้ซอกคอ เลื่อนต่ำไปที่เนินอก จนมันเต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ มือหนาบีบขยำหน้าอกอย่างกับจะให้มันแหลกคามือ
ตรืด!!! ตรืด!!
“……” ทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
พรึบ!!
สองมือผลักคนตัวโตออกจากตัวทันที ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่มันขาดมาปิดหน้าอก แล้วรีบรับสาย เป็นขุนศึกที่โทรเข้ามา
บทสนทนาในสาย...
“พี่อยู่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า” ขุนศึกพูดอย่างเป็นห่วง
“ปะ...เปล่านายกลับก่อนได้เลย พอดีพี่จะอยู่เคลียร์งานกับลุงเทวาคงดึก” ฉันพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด ถ้าขุนศึกมาเห็นฉันในสภาพแบบนี้เรื่องก็ต้องถึงหูแดดดี้
“เอางั้นเหรอ ผมก็นึกว่าพี่เป็นอะไร งั้นศึก กลับก่อนนะ พรุ่งนี้มีงานเช้า”
“โอเค บาย” ก่อนขุนศึกจะตัดสายไปทันที...
หมับ!!
“จะไปไหน” ฉันเลือกที่จะลงจากรถทันที แต่เขากลับจับตัวไว้
“.....” ฉันเลือกที่จะไม่ตอบแล้วแกะมือเขาออก แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย
“พี่จะเอายังไงกับหนู ถ้าไม่ชอบก็ต่างคนต่างอยู่!” คนตัวเล็กที่สภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งพูดอย่างเหลืออด
“.....” เขาเงียบแล้วขับรถออกไปทันที
“จอด!” ฉันสั่งเขาเสียงแข็ง แต่เขากลับไม่สนใจฟังแล้วขับรถไปที่ไหนก็ไม่รู้
“ญี่ปุ่นบอกให้จอด!” โอเคฉันจะพูดกับเขาดี ๆ คือตอนนี้ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองอยู่ห่างจากผู้ชายคนนี้
เอี๊ยด!!
“ทำไมอยู่ใกล้ฉันกลัวจะหลงรักฉันขึ้นมาอีกหรือไง” เขาพูดเสียงแข็ง พร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่มาคลุมตัว แล้วเปิดประตูลงจากรถทันที
“ลงมา แล้วใส่ไว้ หรือถ้าอยากให้คนอื่นเห็นก็ไม่ต้องใส่!”
“.....” คนตัวเล็กได้แต่นั่งนิ่ง มองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะยอมใส่เสื้อที่เขาให้แต่ไม่ยอมลงจากรถ ที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้
“จะลงมาดี ๆ หรือจะให้ลากขึ้นไป!” เขาพูดอย่างเหลืออด มองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์
“ญี่ปุ่นจะกลับบ้าน” ร่างเล็กลงจากรถ แล้วเดินตรงไปยังถนนเพื่อที่จะเรียกแท็กซี่
หมับ!!
“อยากโดนลากเข้าข้างทางหรือไงดึกป่านนี้!” แต่เดินไปยังไม่ถึงครึ่งเก้าเขากลับดึงตัวไว้ก่อน
“ญี่ปุ่นจะโดนอะไรมันก็เรื่องของญี่ปุ่น พี่ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อย บอกแล้วไงว่าต่างคนต่างอยู่ เกลียดมากก็ไม่ต้องมายุ่งสิ!” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างเหลืออด ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามที่จะไม่เข้าใกล้เขา ไม่สนใจ แต่เขานั่นแหละที่คอยหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าโกรธแทนกันมาก ก็ตามไปปกป้องกันสิ ไม่ใช่มาตามติดญี่ปุ่นแบบนี้!”
“แต่ระวังให้ดีนะ เผลอเมื่อไหร่จะเล่นงานให้หนักเลย!” ฉันพูดจริงจัง
“ถ้าเธออยากเจ็บตัวก็ลองดู ถ้ากล้าทำอะไรน้ำอุ่น ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!!”
“มานี่!!” แล้วร่างเล็กก็ถูกกระชากเข้าไปในคอนโด ไม่ว่าฉันจะพยายามเท่าไรมันก็สู้แรงเขาไม่ได้ จนสุดท้ายเขาก็ลากมาถึงห้องเขาจนได้
พรึบ!!
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง
“พี่จะทำอะไร” คนตัวเล็กถอยกรูดหนีเมื่อคนตัวโตเดินตรงเข้ามาหา มือหนาพลางปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น
“ทำไม กลัว?” เขายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“กลัวอะไร ใครกลัวมันเป็นเรื่องปกติ แค่ญี่ปุ่นไม่อยากนอนกับพี่ ถึงจะร่านแต่บอกแล้วไงว่าเลือก!” ฉันทำเป็นใจดีสู้เสือ จ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง…
“ร่านแบบนี้ไง ถึงได้หอบลูกมาให้พ่อกับแม่เลี้ยง สงสารก็แต่เด็กที่ต้องมาขาดพ่อเพราะมีแม่นิสัยแบบนี้!”
พรึบ!
มือหนาจับข้อเท้าเล็ก แล้วออกแรงดึงร่างเล็กไปอยู่ใต้ร่างเขา
“มันเรื่องของญี่ปุ่น แล้วไม่รู้อะไรก็อย่ามาพูด ถึงพอตเตอร์จะไม่มีพ่อญี่ปุ่นก็เลี้ยงลูกคนเดียวได้!” ฉันไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องนี้มาได้ยังไง แต่คงจะไม่แปลกเพราะทุกคนรู้ว่าพอตเตอร์เป็นลูกฉัน และฉันก็ไม่เคยอาย...
