บทที่ 5 ทางลัด
“ได้ข่าวว่าส่งนางงามเหรอเจ๊” ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ระหว่างที่บอสตี้กำลังเตรียมความเรียบร้อยให้เด็กในสังกัดของเขา
“เออ คนนี้หมายมั่นปั้นมือสุดๆ นางสวย ขายาว ภาษาเลิศ เดินดี แต่เวรจริงๆ ดันมีตัวเต็งมาขวางทาง” บอสตี้ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็หงุดหงิดทุกที
“น้องพราวเหรอ หนูก็ไม่คิดเลยนะเจ๊ว่านางจะลงประกวด คือเท่าที่มีตอนนี้มันก็ดีแล้วไง ถ้ามงก็เสมอตัว แต่ถ้าตุ้บนี่อายเลยนะ”
“โอ๊ย! มงอยู่แล้วล่ะ ฉันกับยายไอวาคุยกันแล้วว่าหวังจับมือก็พอ ได้ข่าวว่าเจ้าพ่อสื่อถือหุ้นเวที เขาตามจีบนางอยู่นี่”
“เจ๊ แต่หนูได้ยินมานะ ว่าชีเชิดไม่รับความช่วยเหลือจากคุณเจเดน นางค่อนข้างมั่นว่ามงแน่” บอสตี้หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามองว่าการที่พราวฟ้าทำแบบนั้น เจเดนคงรู้สึกเสียหน้า เพราะเขาเคยควบคุมใครต่อใครได้ตามใจ
แต่พราวฟ้าไม่เหมือนคนอื่น เขาไม่มีทางจะได้เธอมาง่ายๆ ยิ่งการประกวดครั้งนี้ถ้าพราวฟ้ามงลงโดยไม่พึ่งเขาเลย เขาก็จะยิ่งเหมือนเอื้อมพราวฟ้าไม่ถึง
“จะอดได้เหรอ” บอสตี้กล่าวอย่างไม่เชื่อ
“เจ๊...ก็เห็นๆ กันอยู่ ชีเต็งมงเบอร์นั้น เหตุผลเดียวที่ชีจะไม่มงคือวันไฟนอลชีป่วยจนถูกหามส่งโรงพยาบาลเท่านั้นแหละ” ใครก็คงคิดแบบนี้ทั้งนั้น เพราะพราวฟ้ากระแสแรงมาก แต่ตอนนี้บอสตี้เริ่มมองเห็นช่องโหว่ ที่เขาจะพาไอวาไปถึงมง
พอเห็นหนทางที่เป็นโอกาส บอสตี้ก็ลงมือทันที โชคเหมือนจะเข้าข้างเขา เพราะวันนี้เจเดนก็มาร่วมงานแถลงข่าวละครเรื่องใหม่ ที่นักแสดงในสังกัดของเธอร่วมแสดงด้วย บอสตี้พยายามมองหาเจเดน เธอตั้งใจจะเข้าไปคุยกับเขาดู เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้จะล็อกมงให้กับพราวฟ้าจริงๆ อย่างที่คนเขาลือกัน
“คุณเจเดนคะ~ สวัสดีค่ะ~” บอสตี้ โมเดลลิ่งสาวปรากฏตัวท่ามกลางแสงแฟลชและสายตาผู้คนในงานเปิดตัวซีรีส์ดังกลางโรงแรมหรู เขายกมือไหว้พร้อมยิ้มหวานใส่เป้าหมายราวกับจังหวะถูกซ้อมมาแล้ว
เจเดน หันมามองอีกฝ่ายอย่างสุภาพ แต่สายตาที่สบเธอนั้นกลับเปลี่ยนเป็นประกายเฉียบคมกว่าตอนยิ้มให้แขกทั่วไป
“คุณบอสตี้...หายไปนานเลยนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งแต่...งานเปิดกล้องที่แล้ว?”
“ใช่ค่ะ หลังวันนั้น...บอสตี้ก็ขอพักใจนิดหน่อย” เธอตอบพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ ราวกับคำพูดนั้นเป็นแค่เรื่องเล่นๆ
แต่คำว่า “พักใจ” ของบอสตี้ ก็ทำให้เจเดนชะงักไปเสี้ยววินาที เขาจำได้...ชัดเจนว่า ‘วันนั้น’ คือวันที่เขาเลือกเด็กจากอีกค่าย แทนที่จะเลือกเด็กของบอสตี้ ทั้งที่พูดกันไว้แล้ว
“แหม...แต่พักไม่นานค่ะ เพราะเด็กในค่ายก็ยังมีคนที่รอคุณเจเดนอยู่นะคะ”
“รอผมหรือรอโอกาสกันแน่ครับ?” บอสตี้ยิ้มรับคำจิกนิดๆ อย่างคนที่ชินกับการถูกลองเชิง เขาขยับเข้ามาใกล้เจเดนอีกนิด เอียงหน้าเล็กน้อยให้พ้นจากสายตาของผู้คน
“ถ้ารอทั้งโอกาสแล้วก็คนที่ให้โอกาสละคะ? พอจะเป็นไปได้หรือเปล่า” เจเดนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอียงตัวไปกระซิบตอบบอสตี้
“สำหรับคุณบอสตี้เนี่ย ผมมีโอกาสให้เสมอนั่นแหละครับ”
“ถ้าคุณเจเดนจะเมตตาพวกเด็กๆ ของบอสตี้ก็ต้องขอบพระคุณแทนทุกคนเลยค่ะ เด็กของบอสตี้คัดมาแล้ว รับรองเลยว่ามีของทุกคน จะขาดก็แต่โอกาสที่คงต้องรอคณเจเดนมามอบให้นี่แหละค่ะ” บอสตี้พูดพลางจ้องตาของอีกฝ่ายนิ่ง ไม่หลบ ไม่เล่น เจเดนยิ้มตอบกลับ แต่ในใจ...เขารู้ว่าเกมนี้ไม่ได้ง่ายอย่างเคย
และเมื่อบอสตี้พูดต่อ...
“จริงๆ แล้วเด็กของบอสตี้น่ะ...ไม่ใช่แค่ประกวดนางงาม แต่บางคนก็อยากเข้าวงใน ‘จริงๆ’ เลยล่ะค่ะ”
“วงใน...แบบไหนเหรอครับ?” เจเดนถามอย่างไม่เข้าใจ
“แบบที่คุณเจเดน อยู่ข้างใน ไงคะ” บอสตี้ยิ้มอย่างมีเลสนัย เจเดนก็ยิ้มอย่างพอใจเช่นกัน
“แต่มีอยู่คนหนึ่งที่อยากได้โอกาสแบบด่วนๆ เธอชื่อไอวาค่ะ เป็นลูกครึ่ง ตอนแรกนางก็เต็งนะคะ แต่ว่าพอนางเอกดังประกาศลงประกวด แสงของเด็กบอสตี้ก็ดับวูบชั่วข้ามคืนเลย” เจเดนหัวเราะเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจคนอื่นเสียด้วย จึงไม่ทันได้เห็นว่าคนที่เป็นตัวเต็งก่อนหน้าพราวฟ้าเป็นใคร
“คุณบอสตี้คงไม่ได้คิดว่าผมจะล็อกตำแหน่งให้พราวเขา เหมือนกับที่คนอื่นคิดกันหรอกใช่ไหมครับ” เจเดนแกล้งถาม
“ไม่คิดหรอกค่ะ น้องพราวเขากระแสดีมากอยู่แล้ว คงไม่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณเจเดนหรอกมั้งคะ” บอสตี้แอบพูดประชดเจเดนเล็กๆ
“เด็กคุณบอสตี้เก่งพอจะสู้กับพราวเขาได้ไหมล่ะครับ?” เจเดนตัดสินใจถามขึ้น ปกติแล้วบอสตี้คัดคุณภาพเด็กในสังกัดมาได้ดีอยู่แล้ว ถึงจะได้เขาเป็นใบเบิกทาง แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือของตัวพวกเธอเองด้วย
“ก็ระดับนางแบบนะคะ เดินดีไม่มีอะไรต้องห่วง เป็นลูกครึ่งพ่นภาษาอังกฤษไฟแลบอยู่แล้ว” เมื่อโอกาสมาวางอยู่ตรงหน้า บอสตี้ก็รีบทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองคว้ามันมาให้สำเร็จให้ได้
“งั้น ผมจะทักหาคุณบอสตี้อีกทีนะครับ ลองนัดให้มากินข้าวกับผมดู ถ้ามีแวว...ผมจะหาทางให้เขาชนะพราวฟ้าให้ได้” บอสตี้ยิ้มกว้างด้วยความพอใจ เธอรู้ดีว่าเจเดนจะต้องทำได้อย่างที่พูดแน่นอน
“ได้เลยค่ะ รออยู่นะคะ” เจเดนพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวเดินออกไป บอสตี้รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความบอกไอวาทันที
‘เดี๋ยวเย็นนี้ฉันเข้าไปหา มีข่าวดีจะบอก’
