บทที่ 4 4
“เชิญด้านในเลยนะคะ มิสดารินทรา”
พนักงานสาวสวยของบริษัทหันมาเอ่ยกับมษยาเมื่อพาหญิงสาวชาวไทยซึ่งมีฐานะเป็นพนักงานใหม่มาหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่งบนชั้นที่หกสิบของตึกนอร์ธเทิร์นซี งหญิงสาวชาวไทยยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเบา ๆ และก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่เธอถึงกับตกตะลึงในความโอ่โถงและอลังการของการตกแต่งสมกับเป็นห้องของท่านประธานเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ราวกับนี่เป็นห้องพักส่วนตัวมากกว่าจะเป็นที่ทำงานด้วยซ้ำ ภายในนั้นไม่มีตู้เอกสาร มีแต่โต๊ะทำงานซึ่งมีแลปท็อปเพียงเครื่องเดียว ด้านหลังมีชั้นวางโมเดลรูปเรือหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้หญิงสาวเผลอมองอยู่นานกระทั่งเธอได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อรุณสวัสดิ์...มิสดารินทรา”
มษยาชะงักกึกเมื่อสดับน้ำเสียงที่เธอเหมือนจะคุ้นเคยกับมันมาก่อน น้ำเสียงห้าวลุ่มลึกและเต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ดังอยู่ข้างหลัง และเธอก็ไม่เคยลืมเลือนน้ำเสียงนั้นตลอดระยะเวลาเนิ่นนานหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปหากได้ยินเสียงฝีเท้าสืบเข้ามาใกล้ขณะร่างบอบบางยืนนิ่งและประสานมือไว้เบื้องหน้าด้วยปลายนิ้วกดเกร็ง เธอเกือบจะกลั้นหายใจกับความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายก่อนค่อย ๆ หันกลับไปเบื้องหลัง
“เคน...”
ริมฝีปากอิ่มระริกสั่นเปล่งเสียงลอดผ่านออกมาเบาแสนเบาพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย บุรุษร่างสูงสง่าในชุดสูทตรงหน้าคือคนคนเดียวกันที่เธอเห็นหน้าลิฟท์ซึ่งก็คือเขาจริง ๆ
เคน คลิฟตัน
“เคน...”
“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสดารินทรา”
ชายหนุ่มเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง แม้เขาจะเรียกขานชื่อเธอไม่เหมือนดังเก่าทว่าน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยินไม่แปลกเปลี่ยน ใบหน้าคร้ามเข้มภายใต้เรือนผมดกหนาสีบรูเน็ตเข้มขลับที่เธอเคยเห็นเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรนั้นเปล่งประกายลุ่มลึกบนใบหน้าคมคายโหนกแก้มสูงรับจมูกโด่งยาวและริมฝีปากหยักหนาได้รูป เขาหล่อเหลาและดูภูมิฐานขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แตกต่างไปจากเมื่อก่อนซึ่งเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มให้เธอเสมอ มษยาเกิดความคิดขึ้นมากมายแต่แล้วเมื่อตั้งสติได้และกำลังจะอ้าปากถามก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อนว่า
“ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง...มิสดารินทรา
“เคน...เอ้อ...คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
“ผมอยู่ที่นี่”
เคนกล่าวสั้น ๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าร่างบางตรงไปยังเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานและหย่อนตัวลงนั่งขณะที่มษยามองเขาและเริ่มลำดับความคิด กระทั่งเขากล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ในฐานะ...ประธานบริหารสูงสุดของนอร์ธเทิร์นซี อิงค์ คอร์ปอเรชั่น”
มษยาถึงกับนิ่งอึ้ง เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนี้...ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน คำตอบนั้นสร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวอย่างล้นเหลือ เธอเคยรู้ว่าเคนเป็นลูกชายมหาเศรษฐีลำดับต้นของอเมริกา แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาคือผู้บริหารลำดับสูงสุดขององค์กรที่เธอพึ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก มษยาทำสีหน้าแทบไม่ถูก แม้ว่าเธอจะเคยสนิทกับเขาในขั้นที่เรียกว่า คนรัก มาแต่เก่าก่อนแต่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับเคนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว หญิงสาวรู้สึกได้ในทันทีว่าเธอควรต้องวางตัวเช่นไร ซึ่งการรักษาระยะห่างระหว่างกันน่าจะเป็นการดีมากกว่าอย่างอื่น
เพราะทุกอย่างไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว....
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรถึงตอนนี้เธอก็ยังดีใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าในชีวิตของเขาและความรู้สึกหวังดีต่อคนที่ตัวเองรักก็เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังมาโดยตลอดแม้ว่าวันเวลาเหล่านั้นจะพ้นผ่านไปจากชีวิตของเธอและเขานานแล้ว หญิงสาวฝืนยิ้ม
“ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้งเหมือนกันนะคะ ฉันยินดีด้วยนะคะเคน คือ...ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นผู้บริหารของที่นี่”
“ผมอาจไม่ค่อยออกงานสังคมกระมังและที่สำคัญนอร์ธเทิร์นซีก็พึ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ งานของผมคือทำยังไงให้บริษัทขยายตัวและได้ผลกำไรมากที่สุด ส่วนคุณ...ผมนึกว่าคุณจะแต่งงานกับใครไปแล้วเสียอีก”
เคนเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้างขณะเอนหลังพิงเก้าอี้และประสานมือทั้งสองไว้บนเข่า ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้ารูปไข่งดงามของหญิงสาวตรงหน้า มษยาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เขาเคยเห็น เขาเคยเห็นเธอเป็นเด็กสาวแรกรุ่นงดงามสะพรั่งเหมือนดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ เขาเคยคิดว่าเธอเธออ่อนเยาว์และไร้เดียงสาเพราะแม้แต่ จูบ ครั้งแรกเธอยังทำประหนึ่งว่าไม่เคยได้รับมันจากผู้ชายคนไหน แล้วตอนนี้เธอจะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ชายหนุ่มไม่ได้นึกถึงด้วยความประหลาดใจ หากแต่มีบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใต้ใบหน้าคมคร้ามซึ่งดูเสมือนเรียบเฉยนั้น
เขาไม่เคยลืมเลือนว่าเคยมีความสัมพันธ์งดงามกับหญิงสาววัยสิบแปดคนหนึ่งที่ฐานะแตกต่างจากเขาแม้มากเพียงใดหากก็ไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นความตั้งใจจริงที่เขาจะ รัก เธอได้ กระทั่งถึงวันที่เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อแดนไกล เคนรู้สึกได้ถึงความห่างเหินระหว่างกันแม้เขาพยายามที่จะสานความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ยืนยาวมากที่สุด เรียกได้ว่านั่นเป็นรักครั้งแรกและฝังใจสำหรับเขา เป็นความทรงจำปวดร้าวของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกคนรักหักหลังอย่างเลือดเย็น
