บทที่ 1 บทนำ

ฟ้างามยืนเกาะขอบหน้าต่าง เหม่อมองไปยังท้องฟ้าสีสันน่ากลัวในยามตะวันชิงพลบตรงเทือกเขาภูหลวง ท้องฟ้าสดใสถูกดวงตะวันร้อนแรงเผาไหม้จนดูคล้ายกับว่าจะไม่เหลืออะไร ก่อนที่จะมืดมิดลงไปเมื่อไร้แสงตะวัน

มันก็คงเหมือนชีวิตเธอก่อนหน้านี้...

ความสดใสของฟ้างามผืนนี้เคยถูกแสงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ไม่ต่างจากท้องฟ้าในยามนี้เสียเท่าไหร่ คิดแล้วน้ำตาอุ่นจัดก็ไหลลงมาอาบแก้มขาว สองมือเลื่อนลงไปลูบหน้าท้องนูนป่องที่มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ข้างใน

ลูกของเธอและเขา...

ลูกของเรา...

แต่เขากลับไม่ต้องการ

‘อย่าสะเออะเอาไอ้เด็กเวรนี่มาเรียกร้องความเป็นพ่อจากฉัน เพราะแม่มันทำตัวอย่างกับโสเภณี คันที่ไหนก็เอาที่นั่นแบบนี้ บางทีมันอาจจะเป็นลูกของไอ้ขอทานแถวนี้ก็ได้’

ถ้อยคำเหล่านั้นฟ้างามจำได้ขึ้นใจและบอกกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มีวันบากหน้ากลับไปให้เขาดูแคลน แม้ใจมันจะเจ็บปวดเพราะเคยรักเขามากแค่ไหน แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ก็เริ่มจากการเปลี่ยนใจตัวเอง

หญิงสาวลูบหน้าท้องทั้งที่มีน้ำตา ก่อนจะคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่ที่ตู้เล็กข้าง ๆ ไปเก็บในครัว แต่ในจังหวะที่พาตัวเองก้าวออกไป ความรู้สึกแฉะตรงหว่างขาพาให้เธอฉงน มันเป็นความแปลกที่เธอคุ้นเคยมาตลอดชีวิตจนกระทั่งก่อนตั้งครรภ์

ฟ้างามกลั้นใจเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ใกล้ ๆ ในใจภาวนาขออย่าให้เป็นเรื่องร้าย แต่เมื่อถลกชายชุดคลุมท้องขึ้น แล้วลองเอามือแตะของเหลวตรงท้องขาขึ้นมาดู หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบ ทรวงอกก็ก็คล้ายจะตีบตันจนรู้สึกหายใจไม่ออก

เลือด...

“ฮึก...”

ร่างเทอะทะหอบหายใจสะอื้น กลัวเหลือเกินว่าลูกจะเป็นอะไรไป แต่จะมีใครที่ไหนมาช่วยเธอได้บ้าง ในเมื่อหนีมาอยู่ในที่ไกลผู้คนเสียอย่างนี้ หัวใจของคนเป็นแม่แทบขาดรอน ๆ ไม่อยากคิดเลยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง อยากให้มันเป็นเพียงความฝัน ตื่นขึ้นมาในอีกวันก็ขอให้ความเจ็บป่วยนั้นหายไป

แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเสียลูกไปใช่ไหม...

“ช่วยด้วย...”

ฟ้างามตะโกนจนสุดแรง หากแต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นช่างแผ่วเบาเหลือเกิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หญิงสาวน้ำตาร่วงผล็อย แต่ก็พยายามแข็งใจพาตัวเองลุกออกจากเก้าอี้ วางมือถือไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ เธอแค่ต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน

และแน่นอนว่าเธอกลัวจนแทบบ้า หัวใจเธอสั่นได้รุนแรงอย่างน่าแปลกใจ พร้อมกันนั้นก็รู้สึกอึดอัด และแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่มเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ

“ช่วยงามด้วย...”

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลผู้คน โอกาสที่จะมีคนผ่านไปมาแล้วได้ยินเสียงเธอนั้นถือว่าน้อยนัก

“ช่วย... งาม... เฮือก”

นาทีนั้น... ใครบางคนเปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน ฟ้างามตกใจเข้าไปอีกเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร ขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวเพราะความวิงเวียน ท้องไส้เธอก็ปั่นป่วนไปหมด

“หมอ...”

เจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรและใบหน้าคมสันแบบแขกขาวผสมเอเชียคนนี้ คือตะวัน ทิพากร นายแพทย์หนุ่มจากตระกูลร่ำรวย ทายาทโรงพยาบาลและเครือธุรกิจเพื่อสุขภาพชื่อดังอย่างทีเอสเอ็มเอส (TSMS ; The sun medical service) ที่น้อยคนจะไม่รู้จัก

เขาคือพ่อของลูกในท้องและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกล

“แปลกใจหรือเปล่าที่เห็นฉัน”

ตะวันเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่การมาของเขามันไม่ได้สลักสำคัญเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้และชีวิตลูกน้อยในครรภ์เลยสักนิด

“ช่วย... ด้วย”

ฟ้างามคลานเข้าไปจับเท้าของคนที่ยืนกอดอกมองเธอด้วยแววตาเรียบนิ่ง ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีหมอคนไหนที่นิ่งเฉยกับความเป็นความตายตรงหน้าได้เท่าเขาอีกหรือไม่ ซ้ำร้ายในแววตาของเขา เธอก็มองไม่เห็นสิ่งไหนนอกจากความเฉยเมย

“จะเอาอะไรมาแลก”

ฟ้างามไม่คิดว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะออกมาจากปากตะวัน หัวใจเขาทำด้วยอะไรกัน ทำไมถึงเลือดเย็นได้ขนาดนี้... เขาไม่คิดว่าเด็กในท้องเป็นลูก ก็ไม่เป็นไร แต่จะไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกอย่างน้อยก็ในฐานะหมอเชียวหรือ

“หมอ... สงสาร... งะ... งามนะ”

มือเท้าของเธอเย็น และชารู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างน้อยโอนเอนเข้าไปหาเขา มือบางคว้าท่อนแขนใหญ่ได้ แต่ชายหนุ่มไม่คิดจะช่วยประคองเอาไว้ ฟ้างามเลยค่อย ๆ ร่วงลงไปกองกับพื้นแทบเท้าเขา เธอหายใจไม่ออก รู้สึกกลัวเหมือนตัวเองกำลังจะตาย

รอยยิ้มของตะวันที่ไม่มีใครรู้ว่าถูกปั้นให้เย็นชานั้นเผยออกมาในนาทีที่เห็นฟ้างามพยายามหอบหายใจ ตะวันรู้ว่าเรื่องนี้หากช้าเพียงเสี้ยวนาทีอาจจะไม่ทันการณ์

แต่เขารู้จักฟ้างามดี... รู้ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร

“ใครว่าฉันไม่สงสาร”

ปากว่าสงสาร แต่การกระทำกลับสวนทาง ฟ้างามสะอื้นไห้ในขณะที่ร่างกายปวดร้าวทรมานไม่ต่างจากหัวใจที่แหลกสลายซ้ำแล้วซ้ำอีก

ไม่เคยถูกรักว่าเจ็บเหลือเกินแล้ว แต่การที่เขาเฉยเมยต่อความเป็นความตายของเธอและลูกมันสาหัสยิ่งกว่า เสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็รู้สึกถึงความอุ่นจัดอันแผ่ซ่านของเลือดที่ไหลออกมาจากกลางหว่างขา

ตะวันเองก็ใช่จะสุขใจ กรามแกร่งขบกันแน่นเพื่อข่มความรู้สึกร้อนรุ่มใจ ต้องการที่จะมั่นใจเสียก่อนว่าเขาจะมีชัยชนะเหนือเธอนับตั้งแต่วินาทีนี้ไป

“เธอจะต้องกลับไปอยู่บ้านทิพากรกับฉัน”

“งาม... อึก...”

ความตกใจทำให้ตะวันร้องเสียงหลงเมื่อเห็นฟ้างามตาเหลือกลาน มือและเท้าของเธอหงิกงอ พร้อมกับที่ร่างกายชักเกร็ง เลือดสีแดงสดที่เขาเพิ่งเห็นว่ามันไหลออกมาตามปลีน่องขาวก็ทำให้หัวใจเขาต้องเผชิญกับความกลัว

“งาม!”

บทถัดไป