บทที่ 2 Chapter 2

“คุณจะทำอะไรฉันก็เชิญหากคุณทำแล้วสบายใจ คุณก็ทำไปถ้าหากมันจะลบล้างความผิดที่ฉันทำกับลูกกับเมียคุณ” คำพูดเชิงท้าท้ายยิ่งทำให้ความแค้นในใจเมฆินทร์โหมกระหน่ำ ยิ่งเห็นหน้ายิ่งแค้น อยากจะฆ่าให้ตายคามือ โยนศพไปให้เสือทั้งสองตัวกิน แค่นี้ก็ไม่มีใครหาศพเจอ เหมือนกับที่เคยทำกับคนชั่วหลายคน

“ปากดีนักนะ ความตายมันน้อยไปสำหรับเธอ ฉันต้องการให้เธอตายทั้งเป็น เธอจะมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ มองคนที่เธอรักย่อยยับด้วยมือของฉัน” มือใหญ่ข้างหนึ่งบีบแก้มทั้งสองข้างของนรินทร์วิภาจนเจ็บร้าว มือเขาเสมือนคีมเหล็กบีบแน่นจนไม่อาจเอ่ยคำพูดใดได้ มือเรียวสวยพยายามดึงมือเขาออกเพราะเริ่มทนไม่ไหวกับความปวดร้าวที่ลุกลามไปทั้งดวงหน้า

“อันเอ็บอะอ่อย” (ฉันเจ็บนะปล่อย)

“แค่นี้เจ็บ เธอจะต้องเจ็บกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า” มือหนาคลายออก ก่อนจะผลักร่างบางลงไปวัดพื้นอย่างแรง โดยไม่นึกว่าเธอจะเจ็บมากเพียงใด ไม่รู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น

“ความผิดของฉัน มาลงที่ฉันคนเดียวได้ไหม อย่าไปทำกับคนอื่น” เวลานี้นรินทร์วิภาเจ็บทั้งแก้มและก้น เธอยันตัวลุกขึ้นยืน มองเมฆินทร์ด้วยสายตาขอร้องอ้อนวอน “ฉันทำผิด ฉันยอมรับผิดทุกอย่าง ได้โปรดอย่าทำร้ายใครอีกเลย มาลงที่ฉันคนเดียวเถอะค่ะ”

“เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองเพราะต่อจากนี้ ฉันจะเป็นคนชี้ชะตาของเธอเอง” ไม่มีการผ่อนปรน ไม่มีการลดโทษแต่อย่างใด เมฆินทร์ตั้งใจทำอะไรแล้ว เขาทำจนสุดทาง ทำจนกว่าพบเจอคำว่า สำเร็จ ยิ่งเรื่องนี้ด้วยแล้ว เขาไม่มีทางหยุดนิ่งแน่

“คุณมันพาล ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพราะฉัน ไม่ใช่คนอื่น แล้วคุณจะไปลงที่คนอื่นได้ยังไง คุณมันพาล แค้นจนไม่สตินึกคิด”

ใบหน้าคมเข้มแดงจัดจากความโกรธแค้นที่ไม่เคยลดทอนลงสักนิดเดียว นรินทร์วิภากล้ามาก กล้าต่อว่าตนทั้งที่ตัวเองผิดเต็มประตู บรรดาลูกน้องของเมฆินทร์พากันสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว การที่เจ้านายของเขาดึงกรงไม้ขึ้นมา ถือว่าปรานีมากแล้ว หากเป็นคนอื่นเจ้านายของเขาจะไม่ลังเลหรือยกกรงไม้ขึ้นมา จะยืนมองดูศัตรูค่อยๆ ถูกเสือกินอย่างเยือกเย็นและสะใจ

เพียะ...เพียะ

ทุกคนที่อยู่รอบตัวเมฆินทร์สีหน้าตกใจ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นเจ้านายทำร้ายผู้หญิงด้วยมือตัวเอง ทว่าทั้งหมดเข้าใจเหตุและผลของการกระทำ หากไม่สุดจริงเมฆินทร์ไม่มีวันทำอย่างนี้แน่นอน

คนถูกตบหน้าถึงกับหน้าชา ความเจ็บปวดร้าวไปทั่วแก้ม สัมผัสรสชาติของเลือดตรงมุมปาก เกิดอาการมึนงงเล็กน้อย แต่แล้วก็ต้องตกใจอีกรอบ เมื่อมือหนากำรอบลำคอออกแรงบีบ

“ปากดีนักนะ ดูสิจะปากเก่งไปได้สักกี่น้ำ” เมฆินทร์พูดเสียงลอดไรฟัน กรามขบกันแน่นจนเป็นสันนูน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น และดูเหมือนจะไม่มีใครหยุดการกระทำของชายหนุ่มได้ “ถ้าไม่อยากตายคามือฉัน อย่าท้าทาย อย่าปากมากชีวิตเธอจะได้ยืนยาว”

น้ำหนักมือเมฆินทร์เพิ่งขึ้นตามแรงโทสะ ใบหน้านรินทร์วิภาเริ่มแดงและแดง เธอหายใจไม่สะดวก ออกซิเจนภายในร่างก็ลดลงทุกขณะ มือสาวจับแขนเขาพยายามดึงให้หลุดจากลำคอตน แต่ดูเหมือนว่า แรงสาวน้อยมากไม่อาจดึงมือเขาออกได้ เมฆินทร์เห็นหน้าเธอแดง เห็นอาการดิ้นรน

“นายครับ พอครับ” วิชัยเดินเข้ามาจับแขนของผู้เป็นนาย ห้ามปรามทันที เขารู้จักและทำงานกับเมฆินทร์มาร่วมยี่สิบปี รู้นิสียเจ้านายยดีกว่าทุกคนในที่นี้ และรู้ด้วยว่า หากไม่ห้ามนรินทร์วิภาตายคือมือเมฆินทร์แน่นอน “ถ้าเธอตายตอนนี้ นายจะไม่ได้แก้แค้นเธอตามตั้งใจนะครับ”

เหมือนเมฆินทร์รู้สึกตัว เขาคลายมือออกจากลำคอระหงที่ปรากฏรอยมืออย่างเห็นได้ชัด

ทันทีที่เมฆินทร์คืนความตายให้ตน นรินทร์วิภายืนหอบสูดอากาศเข้าไปในปอด มือจับคอตัวเอง มองหน้าชายป่าเถื่อนทั้งน้ำตา

“ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายตามลูกเมียของคุณไป ทุกอย่างมันจะได้จบ จะได้สมใจคุณไง”

นรินทร์วิภาพูดออกมาอย่างเหลืออด ไม่มีเจตนาจะท้าทายเขาแต่อย่างใด เธออยากให้เรื่องนี้จบสิ้นเสียที จะด้วยวิธีการใดก็สุดแต่ใจเมฆินทร์

วิชัยส่ายหัวเบา อุตส่าห์ใจกล้าเข้าไปห้ามเจ้านายแล้วเชียว ยังจะกล้าพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดอีก หากเมฆินทร์บ้าดีเดือดบีบคออีกรอบ เขาคงห้ามไม่ได้แล้ว

“ยังจะปากดีอีก อยากลองดีมากใช่ไหม ท้าใครไม่ท้ามาท้าคนอย่างฉัน เธอจะได้เห็นนรกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่แน่นอน ฉันรับรอง”

มือใหญ่คว้าหมับตรงลำคอขาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ลงน้ำหนักมือมากนัก มืออีกข้างจับคอเสื้อเชิ้ตสีชมพูของเธอ ซึ่งตอนนี้มีแต่ฝุ่นจนมองไม่ออกว่าเป็นสีชมพู ก่อนกระชากออกอย่างแรง กระดุมหลุดกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางทันที เผยให้เห็นทรวงอกเต่งตึงหลบซ่อนตัวอยู่ในบราเซียลายลูกไม้

“ใหญ่แบบนี้ไอ้พวกนั้นมันชอบดีนัก รับรองเธอต้องเจอทั้งสวรรค์และนรกในเวลาเดียวกัน”

เมฆินทร์ใจสั่นไหวไม่น้อยยามสายตาเห็นเนินอกนรินทร์วิภา คล้ายกับว่ามีแรงดึงดูดใจห้วงวินาทีหนึ่งคิดว่า อยากซุกไซ้สูดดมความหอมและอวบอิ่ม อยากรู้ว่ากลิ่นกายสาวจะหอมมากแค่ไหน เต้าทรวงคู่นี้หากเขาลงน้ำหนักมือบีบเคล้นคงเด้งรับมือน่าดู ทั้งที่เขาไม่น่าคิดเช่นนี้เพราะเธอคือคนที่พรากชีวิตกวินตา ภรรยาสุดที่รักกับลูกน้อยในครรภ์ไปอย่างไม่มีวันกลับ ความรู้สึกเดียวที่เขามอบให้เธอคือ เกลียดแสนเกลียด

หมายความว่าอย่างไร เมฆินทร์คิดทำอะไร...

ไอ้พวกนั้นคือใคร...

เป็นคำถามวนเวียนในหัว แต่ถึงไม่เข้าใจน่าแปลกที่นรินทร์วิภากลับขนลุก หวาดกลัวกับคำพูดและสีหน้าเมฆินทร์มากเหลือเกิน รู้สึกได้ว่า คงไม่ใช่เรื่องที่ดี

“คุณจะทำอะไร ไอ้พวกนั้นที่คุณพูดหมายถึงใคร” คนอยากรู้ถามเสียงสั่น เมฆินทร์กระตุกยิ้มเลื่อนมือมาจับท่อนแขนเล็ก คนที่รู้ว่าเมฆินทร์หมายถึงใคร มองหน้ากัน สีหน้าและแววตาตกใจ วิธีนี้โหดร้ายสำหรับผู้หญิงมาก พวกเขาไม่คิดว่า เจ้านายตัวเองตัดสินใจทำเรื่องเลวร้ายนี้

“หาผัวให้เธอไง มีทีเดียวเป็นสิบ รับรองสนุกยันเช้า” น้ำเสียงมีความสะใจ แต่สำหรับคนได้รับคำตอบ สีหน้าตกใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าเมฆินทร์แก้แค้นตนด้วยวิธีนี้ ให้เธอโดนเสือขย้ำกินยังดีเสียงกว่า

ไม่มีวัน...นรินทร์วิภาไม่มีวันยอม

เธอสะบัดแขนออกจากมือใหญ่ อีกมือแกะมือเขาออกจากแขน ทว่าทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล มิหนำซ้ำเมฆินทร์ยังลากเธอไปยังสถานที่หนึ่ง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป