บทที่ 6 ข้ากลัวนางเจ็บ
ไทเฮาที่มาพร้อมกับนางกำนัลอาวุโสสามคนเช่นเดิม
เดินเข้าไปในห้องที่เรียกว่าห้องหอ
“ชินหวางอ๋องถวายพระพรไทเฮาทรงพระเจริญพันปี”
“เสิ่นซีหรูถวายพระพรไทเฮาทรงพระเจริญพันปี” ทำท่าจะลุกแต่ชินหวางอ๋องยกมือห้ามไว้
“อืมมมวันนี้ยังอยู่ที่นี่ด้วยกันได้” พยักหน้าให้กับนางกำนัลที่เดินไปที่แท่นบรรทมซีหรูที่ถูกบังคับให้นอนห่มผ้าอยู่บนนั้น
ไทเฮายิ้ม เมื่อเห็นซีหรูบนแท่นบรรทม เสี่ยวไป๋รีบพยุงซีหรูให้ลุกขึ้น
นางกำนัลอาวุโสรีบไปรื้อดูที่แท่นบรรทม
ดึงผ้าปูเปื้อนเลือดส่งให้กับไทเฮา ที่ยืนยิ้มสมใจ
“เสด็จย่าเห็นแล้วใช่ไหม ต่อไปก็วางใจหลานได้แล้วใช่ไหม” ไทเฮาเตอเหอส่ายหน้าไปมาคว้ามือชินหวางอ๋องขึ้นมา ไล่สายตาไปแต่ละนิ้วแล้วบีบนิ้วกลางของชินหวางอ๋องที่มีรอยมีดสั้นทิ่มแทงจนเลีอดไหลซึมออกมา ใช้ผ้าปูที่นอนซับเลือดไว้
“หลอกลวงเบื้องสูงต้องโดนอะไรดี ข้ายังนึกไม่ออกพวกเจ้านำผ้าปูไปตรวจสอบรอยเลือด”
“เสด็จย่าให้ความเป็นธรรมกับหลานด้วย”
“แน่นอน ยังไม่กล้าปรักปรำอ๋องน้อยชินหวางอ๋องแต่จะนำเอารอยเลือดนี่ไปตรวจสอบ…พวกเจ้ากลับได้แล้วพรุ่งนี้จึงมาใหม่”
ชินหวางอ๋องประสานมือ ซีหรูย่อกายลงช้าๆ
“เสิ่นซีหรูเจ้าอย่าเพิ่งยอมแพ้นะ” ไทเฮาเตอเหอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ไทเฮาไปแล้ว ชินหวางอ๋องถอนหายใจยาวหาใช่โล่งอกแต่ยิ่งหนักใจ
เสี่ยวอูวิ่งเข้ามาข้างในเพื่อมาดูผลงานและแผนการว่าลุล่วงหรือไม่
เสี่ยวไป๋พยุงซีหรูไปยังสำรับอาหาร
“สำเร็จไหมพ่ะย่ะค่ะ” เสี่ยวอูป้องปากถาม
“ไม่สำเร็จ”
“อ้าวทำไมพ่ะย่ะค่ะวางแผนมาเสียดิบดีทำไมแผนล่ม”
“ก็เสด็จย่าดันรู้ว่า นั่นไม่ใช่….เลือดนาง”
“แล้วทำไมไม่เอาเลือดพระชายารองเล่าขอรับ เลือดแค่หยดสองหยดจะเป็นไรไป” ซีหรูก้มหน้า รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างที่สุด
“ข้ากลัวว่านางจะเจ็บ…ไม่สิกลัวว่านางจะไม่ยินยอม” ซีหรูเดินไปทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้
“อย่าเพิ่งกิน มาช่วยกันคิดก่อน” เสียงชินหวางตวาดดังๆ
เสี่ยวไป๋ถอนหายใจยาวตบที่หลังมือของซีหรูเบาๆ
“พระชายาเพคะวันนี้ห้องเครื่องทำเครื่องเสวยที่พระชายาชอบมีทั้งผัดโป๊ยเซียนทั้งขนมผักกาด” เสี่ยวไป๋พยายามเบี่ยงเบนความสนใจส่งตะเกียบให้กับซีหรู
“ข้าบอกให้มานี่มาช่วยกันวางแผน” ซีหรูรับเอาตะเกียบคีบขนมผักกาดเคี้ยวงับๆ
“ไม่ได้ยินหรือไร เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้” เดินมาหยุดตรงหน้า ซีหรูที่คาบขนมผักกาดไว้แก้มป่อง ดวงตาที่โผล่มาข้างเดียวกลมใส
“รอก่อนได้ไหมข้าหิวจะแย่แค่ต้องรอไทเฮาตรวจแท่นนอนข้าก็หิวแทบตายแล้ว” เคี้ยวไปพูดไป ซีหรูยอมกินนับว่าเป็นช่วงเวลาที่นางมีความสุขที่สุดแล้ว
“อั๊กๆๆๆ” สำลักขนม ชินหวางอ๋องคว้าถ้วยน้ำส่งให้อย่างลืมตัวเพราะเอาแต่จ้องตากลมใสของซีหรู ที่รับเอาน้ำมากระดกลงคออึกใหญ่
ชินหวางอ๋อง ทรุดกายนั่งลงตรงข้ามกับซีหรู
“เสี่ยวอูยกเครื่องเสวย” เสี่ยวอูทำสีหน้างงๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องเครื่อง
“ก็ต้องแบบนี้แหละเจ้าค่ะไม่กินอย่างไรสมองจะแล่น” เสี่ยวไป๋ตักข้าวเลื่อนไปวางตรงหน้าชินหวางอ๋อง
เสี่ยวอูกลับเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในจวนที่ถือเครื่องเสวยชุดใหญ่เข้ามาวาง
“ทำไมต้องเป็นชุดใหญ่”
“ก็ ก็ ก็ท่านอ๋องกับพระชายาเสวยด้วยกันก็ต้องชุดใหญ่” ชินหวางอ๋องส่ายหน้าไปมา
“ทดสอบพิษ” เสี่ยวอูหยิบตะเกียบทดสอบพิษในอาหาร
“เดี๋ยว เจ้าทดสอบพิษในอาหารของพระชายาหรือยัง”
“ยะยะยะยัง ไม่ได้ทดสอบเลยขอรับ”
“แล้วให้ชายารองกินเข้าไปได้อย่างไร”
“ท่านอ๋องไม่เคยพูดเรื่องนี้ไม่เคยห่วงเรื่องนี้นี่..ขอรับ สองสามวันที่พระชายามาอยู่มากินที่นี่ก็ไม่เคยจะได้…ทดสอบพิษ”
“ต่อไปจะต้องทดสอบพิษทุกครั้ง หากนางมาต้องพิษที่จวนของข้าคนจะค่อนแคะนินทาว่าข้าวางยาชายารองเพื่อแต่งชายาเอก”
ซีหรูกับเสี่ยวไป๋ถอนหายใจพร้อมกัน
ซีหรูวางตะเกียบเดินถือเอาจานขนมผักกาดออกจากห้องไป
“ไร้มารยาท” ซีหรูหลับตาไล่ความเจ็บปวดในใจกับเสียงดังที่ไล่หลังมา
“หากยังคิดว่าเป็นคนอื่นก็ไม่ควรร่วมเสวย ข้าเองก็ต้องฝืนใจที่จะต้องกินอะไรร่วมโต๊ะกับคนที่เป็นเหมือนคนแปลกหน้า”
“เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องในฐานะชายารองข้าจะชอบหรือไม่ก็ต้องร่วมโต๊ะ”
ซีหรูหันกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ทว่าก้มหน้ามอง อาหารตรงหน้าไม่ยอมกินอะไร
ชินหวางอ๋องคีบเครื่องเสวยใส่ปากช้าๆ อย่างคนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มารดาที่เป็นถึงองค์หญิงแค้วนฉิน เรื่องมารยาทก็คงสั่งสมกันมา
“ไม่หิวแล้วหรือ” ซีหรูยังนั่งนิ่ง
“เสี่ยวไป๋ยกขนมหวาน”
“เสี่ยวไป๋ไม่ต้องยกเผื่อข้า”
“เจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋ยิ้มให้กับซีหรู
“วันพรุ่งนี้จะต้องใช้เลือดพระชายารองขอรับ ท่านอ๋องลองเจรจา” เสี่ยวอูกระซิบเบาๆ
“เจ้ายินดีมอบเลือดของเจ้าให้ข้าไหมในวันพรุ่งนี้ เพื่อแผนการของข้าลุล่วง” พอพูดไปแล้วกลับรู้สึกผิดไม่น้อย
ซีหรูถอนหายใจยาว
“ก็ดี จะได้ไม่ต้องวุ่นวายให้ไทเฮาเสด็จที่นี่บ่อยๆ ข้าเบื่อที่จะต้องเล่นละครแล้ว ให้แสร้งว่าตั้งครรภ์แล้วให้ท่านแต่งกับชายาเอกไปเสียก็ดีข้าจะได้หย่ากับท่านเสียที”
“เจ้าบังอาจ หลอกลวงเสด็จย่าอย่างนั้นหรือ”
“ข้าตั้งใจช่วยท่านเต็มที่แล้วเราก็หย่ากันเสีย ในปีที่ข้าอายุ20ปีคำสั่งเสียของท่านแม่ให้เดินทางยังสกุลเดิมของท่านแม่เพื่อพบท่านตา ข้ายังอยากจะกระทำตามคำสั่งเสียถึงแม่บิดาข้าจะห้ามไม่ให้ทำตามก็ตาม เช่นนั้นข้าหย่ากับท่านแล้วไปที่สกุลจงเสียใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น เหมือนที่ท่านแม่เคยทำ ก็ไม่ต้องลำบากท่านอ๋องแล้ว”
