บทนำ
บท 1
"คุณแม็ค! มาถึงเมื่อไหร่คะ"
"มาถึงเมื่อไหร่? ถามแปลก ๆ นะป้าสุ ไม่มาถึงวันนี้แล้วจะให้ผมมาถึงวันที่เผาศพคุณแม่เรียบร้อยแล้วรึไง!"
"เอ่อ...ป้าขอโทษที่ถามค่ะคุณแม็ค ป้าแค่ถามเพราะไม่เห็นไข่นุ้ยมันไปรับคุณแม็คค่ะ"
"...ช่างมันเถอะ บอกไอ้นุ้ยเตรียมรถให้ผมด้วย"
"ค่ะคุณแม็ค"
"อ้อ! ผมจะไปแค่คนเดียว ส่วนคนอื่น...ให้หาปัญญาไปเอง"
"เอ่อ แต่..."
"ทำไม? มีปัญหาอะไรกับคำสั่งของผม"
"ไม่...ไม่มีค่ะคุณแม็ค"
ก๊อก ๆ ๆ
"เข้ามาเลยค่ะประตูไม่ได้ล็อก"
"คุณข้าวคะ"
"อ้าวป้าสุเองเหรอคะ ข้าวนึกว่าพี่ขวัญใจ"
"ค่ะคุณข้าว" ฉันหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ ป้าสุเป็นแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้เอง
"มีอะไรรึเปล่าคะ" ฉันถามป้าสุเพราะสีหน้าของป้าแกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อันที่จริงช่วงนี้ก็ไม่มีใครสดใสหรอกค่ะ คนในบ้านกำลังทุกข์เพราะเสาหลักของบ้านท่านได้จากไป แต่สีหน้าป้าสุดูกังวลจนฉันสัมผัสได้ว่ามันมีเรื่องอื่น
"คือว่า..."
"เขามาแล้วใช่ไหมคะ" คงไม่ต้องเดาให้ยากเพราะงานนี้ถ้าเขาไม่มามันก็คงเกินไปหน่อย
"ค่ะ ดูอารมณ์ไม่ดีเลยค่ะคุณข้าว"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะป้าสุที่มาบอกข้าว ป้าสุไปเตรียมตัวเถอะนะคะเราจะได้ไปวัดกัน"
"คือคุณแม็คเธอ...บอกว่าจะไปคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่น..." ฮึ! นิสัยเดิม ๆ
"ก็ให้เขาไปคนเดียวอย่างที่เขาต้องการนั่นล่ะค่ะ ป้าสุไม่ต้องกลัวข้าวจะรู้สึกแย่หรอก" เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะนั่งรถไปกับคนแบบนั้นเหมือนกัน แค่มองหน้ายังยังรู้สึกลำบากใจ
"ค่ะคุณข้าว ถ้างั้นเดี๋ยวป้าให้ไข่นุ้ยมันรีบกลับมารับคุณข้าวนะคะ อย่าไปกับเด็กในบ้านเลยรถมันคับแคบคุณข้าวจะอึดอัด"
"ไม่เป็นไรค่ะป้าสุ เดี๋ยวข้าวไปกับพี่เชนก็ได้ค่ะ ยังไงพี่เชนก็ไปวัดอยู่เเล้ว"
"จะดีเหรอคะ เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีนะคะคุณข้าว" พอบอกจะไปกับพี่เชน พี่ชายข้างบ้านป้าสุก็ทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที
"ใครจะมองไม่ดีคะ มีแค่คนนั้นคนเดียวไม่ใช่รึไง เขาก็ไม่เคยมองข้าวดีอยู่แล้ว ช่างเขาเถอะค่ะ"
"ก็ได้ค่ะคุณข้าว แต่ถ้าเปลี่ยนใจบอกป้านะคะป้าจะได้สั่งไข่นุ้ยมันเลย ป้าไม่อยากให้คุณทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ ยังไงก็..."
"ข้าวสะดวกแบบนี้ค่ะ ป้าสุไปเถอะนะคะเดี๋ยวข้าวจะรีบแต่งตัวแล้ว วันนี้แขกท่าทางจะเยอะข้าวอยากไปดูแลความเรียบร้อยก่อน"
"ได้ค่ะ" ป้าสุรับคำแล้วก็เดินออกไป ส่วนฉันก็รีบแต่งตัว วันนี้นอกจากจะต้องรับแขกในงานศพของคุณป้า ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับอะไรอีก อาจจะพายุทอร์นาโดเลยก็ได้
-สามชั่วโมงต่อมา-
"ทำไมคุณข้าวไม่ไปนั่งฟังสวดข้างหน้าล่ะคะ"
"นั่งตรงนี้นี่แหละพี่ขวัญใจ ข้าวไม่อยากเข้าไปกลัวเจอพายุ" ฉันกระซิบบอกพี่ขวัญใจแม่บ้านอีกคนอย่างรู้กัน เพราะวันนี้เจ้าภาพของงานตัวจริงมาแล้ว ฉันที่เป็นแค่คนอาศัยไม่กล้าไปนั่งตรงนั้นหรอกค่ะ ขืนไปก็ได้โดนด่าว่าเสนอหน้าพอดี
อ้อ! ไม่ใช่แค่ไม่ไปนั่งตรงนั้นนะ แต่ฉันไม่โผล่หน้าไปให้เขาเห็นเลยต่างหาก ตั้งแต่มาถึงงานก็หลบอยู่ข้างหลังศาลาคอยดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ พอถึงเวลาสวดพระอภิธรรมฉันถึงได้แอบมานั่งตรงที่นั่งแถวหลังสุดกับคนในบ้าน
"เดี๋ยวคุณแม็คก็ได้หาเรื่องว่าคุณข้าวไม่ช่วยงานนะคะ"
"ไม่หาเรื่องหรอกค่ะ เขาจะสบายใจมากกว่าที่ไม่เจอหน้าข้าว"
"เฮ้อ! ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์วันต่อ ๆ ไปเลยค่ะคุณข้าว ไม่มีคุณท่านอยู่แล้วใครจะปกป้องคุณข้าว จะให้พี่ ป้าสุ ไอ้นุ้ยเหรอ เฮ้อ! จะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้รบกับคุณแม็คกัน" พี่ขวัญใจบ่นออกมาเบา ๆ ส่วนฉันก็ได้แต่ยิ้มอ่อน
"ฟังพระสวดดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณป้ารู้เข้าจะไม่สบายใจเอานะคะ" เพราะเราสองคนกำลังพูดถึงเรื่องที่คุณป้ากังวลที่สุดในงานศพของท่านเอง เดี๋ยวคนที่จากไปท่านจะไม่สบายใจเอา
ฉันหันกลับไปสนใจแค่สิ่งที่อยู่ข้างหน้า สนใจแค่ผู้มีพระคุณที่ท่านนอนหลับอยู่ในโลงสี่เหลี่ยม ท่านจากไปแล้ว จากไปโดยที่ฉันยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณของท่านเลย
หลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จฉันก็เลี่ยงไปจัดการสั่งงานสำหรับวันพรุ่งนี้ กว่าจะเสร็จแขกในงานก็กลับกันหมดแล้ว เหลือแค่ฉันกับพี่เชนที่อยู่ช่วยงาน พอจัดการอะไรต่าง ๆ เสร็จถึงได้กลับบ้าน
"ขอบคุณพี่เชนมากเลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน ข้าวทำให้พี่เชนต้องกลับดึกเลย"
"ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยจ้ะ พี่ยินดีบริการน้องสาวคนนี้เต็มที่ข้าวก็รู้"
"ยังไงก็ต้องขอบคุณค่ะ เกรงใจจะแย่เพราะที่จริงข้าวกลับแท็กซี่เองก็ได้"
"ใครจะปล่อยให้คนสวยกลับแท็กซี่ได้ลงคอ กลับบ้านกันดีกว่าข้าวจะได้พักผ่อนด้วย"
"ค่ะ"
ฉันเดินไปขึ้นรถกลับบ้านกับพี่เชน พี่เชนเป็นพี่ชายข้างบ้านเรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไปไหนไปกันคบกันแบบพี่ชายน้องสาวที่บริสุทธิ์ใจต่อกันจริง ๆ เวลาลำบากก็มีพี่เชนนี่แหละที่คอยอยู่ข้าง ๆ โดยเฉพาะช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณป้าทรุดหนักฉันก็เหมือนโดนปล่อยให้เคว้งคว้างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่รู้จะร้องไห้กับใครหรือปรึกษาใคร ก็มีพี่เชนนี่ล่ะค่ะที่อยู่ข้าง ๆ คอยปลอบใจทุกครั้ง
พี่เชนมาส่งฉันที่บ้าน พอพี่เขากลับออกไปฉันก็เดินเข้าบ้าน บรรยากาศเงียบเหมือนทุกวันแต่ในความเงียบมันเหมือนมีรังสีชั่วร้ายอะไรบางอย่างแผ่ออกมา
"คุณข้าวคะ"
"อ้าวพี่ขวัญใจ ยังไม่อาบน้ำพักผ่อนอีกเหรอคะ" นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนี่แต่พี่ขวัญใจยังอยู่ชุดเดิมอยู่เลย
"คือ...คุณข้าวไปที่ห้องรับแขกดีกว่าค่ะ" เฮ้อ! เห็นหน้าพี่ขวัญใจฉันก็รู้แล้วว่าจะเจออะไร
พอมาถึงห้องรับแขกคนที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงให้ไม่ต้องเจอหน้ามากที่สุดก็นั่งทำหน้าทะมึงอยู่กลางโซฟาสีทองสุดหรูขนาดใหญ่ ท่านั่งประจำตัวของเขาคือการนั่งไขว้ห้างกอดอกนิด ๆ วางท่าเหมือนนายแบบที่คีพลุคเป็นเจ้าชาย แต่เชื่อเถอะท่านี้สรรค์สร้างเองไม่มีปั้นแต่งหรอก เห็นนั่งแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว ท่านั่งน่าหมั่นไส้เกินมนุษย์
"เห็นพี่ขวัญใจบอกว่าคุณมีเรื่องจะคุยด้วย" พอมาถึงฉันก็ส่งสายตาให้พี่ขวัญใจออกไปแล้วก็เอ่ยปากถามเขาทั้งที่ยังยืนอยู่
"ทักทายกันแบบนี้? นี่เหรอที่คุณแม่ฉันบอกว่าสอนมาดี สอนเองกับมือ แต่ทำไมพอคุณแม่ไม่อยู่ถึงได้..." เขาหยุดพูดแล้วก็มองฉันหัวจรดเท้า จากนั้นก็ไล่จากเท้าขึ้นมาบนหัวก่อนที่จะเหยียดยิ้มมุมปาก
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะคุยกับดิฉันคะ" อยากให้ไหว้ก็ไหว้ แต่ช่วยมีสมองคิดด้วยว่าคนที่อายุน้อยกว่าเขาเจอหน้าแล้วไม่ไหว้ตัวเองมันเพราะอะไร ทำตัวไม่น่าเคารพเองรึเปล่า
"เสแสร้ง" เขามองฉันไหว้แล้วก็เบ้ปากใส่ เออแล้วไงก็เสแสร้งจริง ๆ ไม่ได้อยากไหว้เลยสักนิด แต่ที่ต้องไหว้เพราะเจ้าที่มันแรง ไม่ทำตามแล้วมันจะอาละวาดฟาดงวงฟาดงาน่ารำคาญ
"ตามที่จะสะดวกคิดค่ะ มีอะไรคะไม่มีจะได้ไปนอน ง่วง"
"ปากดี"
"ค่ะ ธุระล่ะคะ จะพูดไหม?"
"ข้าวแกง!" ฮึ! โกรธล่ะสิที่ฉันกล้าต่อปากต่อคำ เมื่อก่อนพูดอะไรฉันเคยเถียงที่ไหน ขนาดด่าว่าฉันเป็นขยะฉันยังไม่เคยต่อปากต่อคำหรือส่งสายตาไม่พอใจใส่เขาเลยสักครั้ง
"คะ?"
"อย่ามาปากเก่งกับฉัน" ฮึ! คนเกรี้ยวกราดอย่างเขาต่อให้ตอนนี้นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าก็โมโหให้กับมารยาทไทยของฉันได้อยู่ดีนั่นแหละ
"ธุระล่ะคะ หรือว่าที่จริงไม่มีอะไรจะคุย อยากเห็นหน้าฉันเหรอคะ"
"ฮึ! ไปขนข้าวของ ๆ เธอกลับไปอยู่ที่เดิมซะยัยก้นครัว!" อ้อเรียกมาบอกเรื่องนี้นี่เอง ฉันได้แต่กรอกตามองบนเพราะรำคาญเขา
"ไม่เก็บค่ะ ไม่ย้ายห้องด้วย"
"เธอไม่มีสิทธิ์นอนที่ตึกใหญ่ อย่าเก่งให้มันมากข้าวแกง เพราะเธอไม่มีคุณแม่คุ้มกะลาหัวแล้วจำใส่สมองไว้"
"จำได้ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องใช้สิทธิ์ของฉันคุ้มกะลาหัวตัวเอง"
"ฮึ! สิทธิ์อะไร? อ้อสิทธิ์เมียของฉันใช่ไหม เกือบลืมไปเลยว่ะว่าฉันมีเมียอยู่ทั้งคน เมียที่ไต่เต้าจากขยะมาเป็นเพชรด้วยการเอาของสกปรกให้ฉันกินเพื่อจับทำผัว!"
บทล่าสุด
#43 บทที่ 43 EP : 43 ... END
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#42 บทที่ 42 EP : 42
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#41 บทที่ 41 EP : 41
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#40 บทที่ 40 EP : 40
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#39 บทที่ 39 EP : 39
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#38 บทที่ 38 EP : 38
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#37 บทที่ 37 EP : 37
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#36 บทที่ 36 EP : 36
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#35 บทที่ 35 EP : 35
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#34 บทที่ 34 EP : 34
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025
คุณอาจชอบ 😍
รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ
ปรเมศ จิรกุล หมอหนุ่มเนื้อหอม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นกับธารธารา อัศวนนท์
ปรเมศตั้งแง่รังเกียจธารธาราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า เพียงเพราะเธอแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เขาเลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศน่ารังเกียจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหมอสาวมาดทอมหัวใจหญิงนั้นจะเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจ และดูเหมือนคำกล่าวที่ว่าเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนทั้งคู่
กระทั่งดวลเหล้ากันจนเมาแบบขาดสติสุดกู่ เขาจึงเผลอปล้ำแม่สาวทอมที่เขาประกาศว่าเกลียดเข้าไส้ หนำซ้ำยังโยนความผิดว่า ‘ความสัมพันธ์บัดซบ’ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยทอมตัวแสบยั่วเขา เมากับเมาเอากันแล้วไง น้ำแตกก็แยกทาง ทว่าพออีกฝ่ายหลบหน้าเขากลับร้อนรนกระวนกระวาย ครั้นทนไม่ไหวหมอหนุ่มจอมยโสก็ต้องคอยราวี และตามหึงหวงเมื่อมีใครคิดจะจีบ ‘เมียทอม’ ของเขา แต่กว่าจะรู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว
โซ่สวาทร้อนรัก
“มันเรื่องของฉัน ตัวฉันของฉันนมก็นมของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ก็สิทธ์ของความเป็นผัวคนแรกของคุณไง นมคุณน่ะเป็นของผม ทั้งตัวคุณก็เป็นของผม...เข้าใจไหม? ”
คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง
ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี
สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
ลิขิตรักนายสุดหื่น
เรื่องย่อ....
“คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…”
“ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…”
“ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…”
“หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…”
“อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้”
“ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
“อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
ขย่มรักมาเฟีย
"ความทรงจำบ้าบออะไรของคุณ ฉันไม่อยากจะทบทวนอะไรทั้งนั้น ออกไปห่างๆฉันเลยนะ...อื้อ...ปล่อยฉันสิ ไอ้มาเฟียบ้า...จะมายุ่งกับฉันทำไมห้ะ!...."
"ไม่ยุ่งกับเมีย...แล้วจะให้ไปยุ่งกับหมาแมวที่ไหนล่ะหึ...ไม่ได้เจอตั้งนาน...คิดถึงดุ้นของผมไหม...อยากจะอม...อยากจะเลียเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า...."
"ไม่....ถ้าคุณเสี้ยนมากนักก็ไปเอากับผู้หญิงของคุณสิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขาเต็มใจทำให้คุณแบบถึงอกถึงใจ คุณจะมาบีบบังคับฉันให้เสียแรงทำไม"
"ก็ผู้หญิงพวกนั้นมันไม่ตื่นเต้นเหมือนกับคุณนิ....ผมชอบใช้แรง...โดยเฉพาะกับคุณ....ชอบเยแรงๆ....ตอกแบบจุกๆ และที่สำคัญผมชอบตอนที่คุณครางเหมือนคนกำลังจะตายตอนที่ผมกำลังเอาคุณ"
"ใครโดนคุณเอาก็ต้องครางเหมือนจะตายกันทั้งนั้นแหละ ใหญ่เกินบ้านเกินเมืองซะขนาดนั้น ไปผู้หญิงเอาพวกนั้นไป อย่ามายุ่งกับฉัน...อื้อ...ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมชอบไล่ให้ผมไปเอาคนอื่นนักหึ....ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะเอาคุณ....ผมชอบหอยฟิตๆของคุณมากกว่า...ผมหลง...ผมคลั่งไคล้...และผมก็อยากจะได้มันอีก...หลายๆครั้ง....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....จนกว่าหอยน้อยๆของคุณมันจะรับไม่ไหว...อืม....ไม่ได้เอามานานแล้ว....คุณให้ใครมาซ้ำรอยผมหรือเปล่า...."
3P อาหมวยโดนอาเฮียใหญ่ทั้งสองจับทำเมีย
เมียขัดดอก
"คุณหมอคะฉันขอร้องล่ะคุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยเถอะนะ" หญิงสาวขอร้องอ้อนวอนถึงขั้นยกมือขึ้นมากราบไหว้
"ทางเราช่วยได้เท่าที่ช่วยจริงๆ" ถ้าเขาทำแบบนั้น โรงพยาบาลของเขาอาจจะถูกฟ้องได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย และมันก็ไม่คุ้มกับการเสี่ยง
"ฉันขอร้องล่ะค่ะ จะให้กราบเท้าฉันก็ยอม"
"คุณอย่าทำแบบนี้เลย"เขารีบพยุงร่างของหญิงสาวที่กำลังจะคุกเข่าลงตรงหน้าให้กลับขึ้นมายืนใหม่อีกครั้ง
"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันเคยเรียนหมอมาค่ะ ฉันคงพอช่วยงานคุณได้ไม่มากก็น้อย" เพราะเธอเคยเรียนมาด้านนี้ก็เลยรู้ว่าใครที่สามารถจะช่วยแม่ของเธอได้ และก็รู้ด้วยว่ามันเสี่ยงมากถ้าจะทำแบบนี้
"คุณก็เคยเรียนหมอมา คุณก็คงจะรู้ผมคงช่วยไม่ได้"
"ถ้าเปลี่ยนจากช่วยงานเป็นเอาร่างกายของฉันแลกเปลี่ยนได้ไหมคะ"
"คุณพูดอะไร"
"ถ้าคุณหมอยอมช่วยผ่าตัดให้แม่ฉันฉันจะยอมมอบร่างกายให้คุณค่ะ" เธอมีคนที่จะมาบริจาคอวัยวะแล้ว เหลือแค่การผ่าตัดเท่านั้น..
BAD FIANCE พันธะรักคู่หมั้นใจร้าย
เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD
หนุ่มหล่อ ลูกชายมาเฟียตระกูลใหญ่ผู้เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาถูกผู้หญิงหลายคนตราหน้าว่าไร้หัวใจ ถึงอย่างนั้นเพราะความหล่อก็ยังมีผู้หญิงอีกมายมายที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับเขา
แต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารังเกียจและไม่อยากเจอหน้าถึงแม้เธอจะพยายามเท่าไรก็ไม่มีวันมีค่าในสายตาของเขา
“อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรือไง ฉันกำลังจะสนองให้เธอเป็นอยู่นี่ไง แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียแต่ง อย่าคิดหวังสูงเกินไป!!”
มิลิน
เธอถูกคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งแต่เด็กรังเกียจเพียงเพราะเขาคิดว่าแม่เธอคือเมียน้อยของพ่อเขา ถึงแม้เขาจะไม่สนใจใยดีอะไรเธอเลย แต่เธอก็ยังรักเขาหมดหัวใจ
ทั้งที่คิดว่าหากยอมยกร่างกายให้เขาแล้วจะได้ความรักกลับคืนมา แต่สุดท้ายก็ได้เพียงความเกลียดชัง
อุ้มท้องหนี สามีคลั่ง!
ฉันเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ฉันสามารถให้กำเนิดลูกคนนี้และเลี้ยงดูเขาให้เติบโตขึ้นมาได้ด้วยตัวคนเดียว!
ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจดำ หลังจากหย่ากันไป อดีตสามีก็มาสำนึกผิด คุกเข่าอ้อนวอนขอคืนดี แต่ฉันก็ปฏิเสธไปอย่างเลือดเย็น!
ฉันเป็นผู้หญิงที่เจ้าคิดเจ้าแค้น ชู้รักของสามีฉัน...นังเมียน้อยนั่น ฉันจะทำให้นางต้องชดใช้อย่างสาสม...
(ขอแนะนำสุดยอดนิยายที่ทำเอาฉันติดงอมแงม อ่านรวดเดียวสามวันสามคืนจนวางไม่ลง สนุกเข้มข้นจนหยุดไม่ได้ ห้ามพลาดเด็ดขาด! ชื่อเรื่องคือ 《แต่งเข้าบ้านเศรษฐี อดีตสามีคลั่งรัก》 ไปที่ช่องค้นหาแล้วพิมพ์ชื่อเรื่องได้เลย)
คืนเดียว...ที่หัวใจถูกขโมยโดยซีอีโอ
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันรีบแต่งตัวและหนีออกมา แต่กลับต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อไปถึงบริษัทแล้วพบว่าผู้ชายที่ฉันนอนด้วยเมื่อคืนกลับเป็น CEO คนใหม่...
(ขอแนะนำนิยายสนุกๆ ที่ทำเอาฉันติดงอมแงม อ่านรวดเดียวสามวันสามคืนจนวางไม่ลงเลยค่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามสุดๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด ชื่อเรื่องคือ 《โอกาสครั้งที่สอง: แต่งงานกับมหาเศรษฐี》 สามารถค้นหาชื่อเรื่องนี้ได้ในช่องค้นหาเลยค่ะ)
เพอร์เฟค บาสทาร์ด
"ไปตายซะ, ไอ้ลูกหมา!" ฉันตะโกนกลับ, พยายามดิ้นให้หลุด
"พูดมา!" เขาคำราม, ใช้มือข้างหนึ่งจับคางของฉัน
"นายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงง่ายเหรอ?"
"งั้นก็ไม่ใช่สินะ?"
"ไปลงนรกซะ!"
"ดี, นั่นแหละที่ฉันอยากได้ยิน," เขาพูด, ยกเสื้อสีดำของฉันขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง, เผยให้เห็นหน้าอกของฉันและทำให้ร่างกายของฉันเต็มไปด้วยอะดรีนาลีน
"นายทำบ้าอะไรเนี่ย?" ฉันหอบหายใจขณะที่เขาจ้องมองหน้าอกของฉันด้วยรอยยิ้มพอใจ
เขาใช้นิ้วลูบไปที่รอยที่เขาทิ้งไว้ใต้หัวนมของฉัน
ไอ้สารเลวกำลังชื่นชมรอยที่เขาทำไว้บนตัวฉันเหรอ?
"เอาขามาพันรอบตัวฉัน," เขาสั่ง
เขาก้มลงพอที่จะเอาหน้าอกของฉันเข้าปาก, ดูดหัวนมอย่างแรง ฉันกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นเสียงครางขณะที่เขากัดลง, ทำให้ฉันแอ่นหน้าอกเข้าหาเขา
"ฉันจะปล่อยมือเธอ; อย่าคิดจะหยุดฉันเชียว"
ไอ้สารเลว, หยิ่งยโส, และน่าหลงใหลอย่างที่สุด, ชายประเภทที่เอลลี่สาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก แต่เมื่อพี่ชายของเพื่อนกลับมาที่เมือง, เธอก็พบว่าตัวเองใกล้จะยอมแพ้ต่อความปรารถนาที่รุนแรงที่สุดของเธอ
เธอน่ารำคาญ, ฉลาด, เซ็กซี่, บ้าสุดๆ, และเธอกำลังทำให้อีธาน มอร์แกนคลั่งไคล้เช่นกัน
สิ่งที่เริ่มต้นเป็นเกมง่ายๆ ตอนนี้กลับทรมานเขา เขาไม่สามารถเอาเธอออกจากหัวได้, แต่เขาจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในหัวใจของเขาอีก
แม้ว่าทั้งคู่จะต่อสู้สุดกำลังกับแรงดึงดูดที่ร้อนแรงนี้, พวกเขาจะสามารถต้านทานได้หรือไม่?
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้













