บทที่ 3: ฉันจะทำคุณ

สวัสดี...เพื่อนร่วมห้อง

ผมจ้องมองมือของเขาเหมือนมันเป็นวัตถุแปลกปลอมอะไรสักอย่าง ก่อนจะค่อยๆ ไล่สายตาขึ้นไปสบตากับเขา

เพื่อนร่วมห้อง? ผู้ชายที่ผมเห็นเมื่อตอนเย็นในคลับ...กำลังฟีเจอริ่งกับผู้ชายอีกคนในห้องน้ำ...กำลังจะมาเป็น...เพื่อนร่วมห้องของผมเนี่ยนะ?

“นายล้างมือรึยัง”

ให้ตายสิ ไค! นายล้างมือรึยัง? นี่คือสิ่งแรกที่แกคิดออกจริงๆ เหรอวะ?

“แล้วทุกครั้งที่นายเอาผู้หญิง นายต้องลงไปแช่ฟองสบู่รึเปล่าล่ะ” ไนท์ลดมือลงข้างลำตัวแต่เอียงคอจ้องผมตาขวาง

“มะ-ไม่...” โห...สถานการณ์น่าอึดอัดขึ้นมาทันทีเลย

“แล้วทำไมนายถึงคาดหวังให้ฉันทำแบบนั้นล่ะ” คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหันไปลากกระเป๋าเดินทางไปยังอีกฝั่งของห้อง “ย้ายของของนายออกจากเตียงด้วย ฉันจะเอาเตียงนี้”

“เอาฝั่งนี้สิ” ผมเดินไปที่เตียงซึ่งอยู่ใกล้ตัวที่สุดแล้วเก็บเสื้อผ้าที่โยนทิ้งไว้บนนั้นก่อนออกไปคลับ “ผมชอบอยู่ติดหน้าต่างมากกว่า”

ไม่ใช่ว่าการอยู่ติดหน้าต่างมันจะช่วยอะไรได้หรอกนะ เราอยู่กันที่ชั้นหก ต่อให้มีโอกาสได้กระโดดลงไป ผมก็คงร่วงลงไปตายอยู่ดี แต่การอยู่ใกล้หน้าต่างทำให้ผมรู้สึกอึดอัดน้อยลง

“ตามใจ” ไนท์ยักไหล่แล้วเดินไปที่เตียง วางกระเป๋าพิงกำแพงไว้ “ฉันให้เวลานายจัดของก็แล้วกัน ในเมื่อนายคงอยู่คนเดียวมาสักพักแล้ว”

“ก็ไม่เชิง” ผมยักไหล่บ้าง พลางเปิดตู้เสื้อผ้าฝั่งตัวเองเพื่อเอาเสื้อผ้าที่เหลือเข้าไปเก็บ “รุ่นพี่ที่เคยเป็นรูมเมตผมเพิ่งเรียนจบไปเมื่อเดือนที่แล้วเอง ผมยังไม่ทันได้ขยับขยายยึดครองที่ทั้งหมดเลย ตู้เสื้อผ้าฝั่งนายว่างสนิท”

“ดี” เขาตอบแล้วลุกจากเตียงทันทีพร้อมกับวางกระเป๋าเดินทางลงบนนั้น พอเปิดกระเป๋าออก ผมก็เห็นว่าเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาถูกจัดใส่ไม้แขวนกับถุงคลุมเสื้อไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เขาแค่หยิบมันขึ้นมาแขวนบนราวก่อนจะทำแบบเดียวกันกับของในกระเป๋าอีกใบ

ภายในสิบนาที เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาก็ถูกแขวนอย่างเป็นระเบียบบนราว ส่วนของอื่นๆ ที่พับไว้อย่างดีก็ถูกจัดเก็บในลิ้นชัก แต่ของชิ้นสุดท้ายที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋านี่สิที่ทำให้ผมประหลาดใจ เพราะมันคือกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องสำอางทั้งใบ

“นายใช้เครื่องสำอางด้วยเหรอ”

ผมไม่ได้อยากจะสอดรู้สอดเห็นหรอกนะ...แต่ถ้าจะให้แก้ต่าง...คือผมไม่เคยเห็นเพื่อนผู้ชายคนไหนใช้เครื่องสำอางมาก่อนเลย พูดตามตรง...มันค่อนข้างน่าประหลาดใจสำหรับผมมาก

“อืม” ไนท์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำถามของผมเลย “ฉันรับงานนายแบบบ้างเป็นครั้งคราว”

“อ๋อ!”

มิน่าล่ะเขาถึงใช้เครื่องสำอาง แล้วผมก็ไม่ได้แปลกใจเรื่องงานนายแบบเลย หมอนั่นหล่อจัดๆ...ไม่ใช่ว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับผมหรอกนะ ผมก็แค่ชมเขาในใจ...

“แล้วตอนนี้นายมีปัญหากับผู้ชายที่ใช้เครื่องสำอางรึไง”

ผมหันไปหาเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ “ผมไม่มีปัญหา”

“แน่ใจเหรอ” ไนท์เลิกคิ้ว ก่อนจะก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าเตียงของตัวเอง “นายเอาแต่จ้องพวกเราในคลับ แล้วก็ยังไม่เลิกส่งสายตาแบบนี้ให้ฉันเลยตั้งแต่เจอกันที่นี่”

ฉิบหาย! นี่ฉันจ้องเขาขนาดนั้นเลยเหรอวะ?

“ไร้สาระ!” ผมตวาดกลับ พยายามไม่สบตาเขา “ผมไม่ได้จ้อง!”

“ในตึกนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ อยากให้ฉันพาไปดูไหม”

“ฟังนะ...” ฉันถอนหายใจ พลางลูบท้ายทอยตัวเองอย่างหงุดหงิด “ฉันไม่ได้...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ที่คลับนั่นน่ะ แล้วนายเองก็ควรจะระวังตัวมากกว่านี้ ไม่ใช่เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้แบบนั้น! ฉันไม่คิดว่าจะมีใครใช้ห้องน้ำเป็นที่ไว้หาคู่นอนหรอกนะ!”

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกวนประสาทฉันได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลยนะ ฉันไม่อยากจะหยาบคายหรอกนะ แต่เอาจริง...เขาไม่จำเป็นต้องชี้ความผิดพลาดทุกอย่างของฉันแล้วโยนมันใส่หน้าแบบไม่คิดอะไรเลยก็ได้

“นี่เพื่อน ฉันจะพูดกับนายตรงๆ เลยแล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามนี้ซ้ำไปซ้ำมาในอนาคต...ฉันเป็นเกย์ ฉันชอบผู้ชาย” เขาบอกฉันอย่างตรงไปตรงมา “มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันอยากจะป่าวประกาศให้ใครต่อใครรู้หรอกนะ แต่ในเมื่อคืนนี้นายเห็นฉัน...กับคู่ขาในห้องน้ำชาย ฉันก็เลยคิดว่าควรจะเตือนนายไว้ก่อน”

“แล้วฉันก็ไม่ได้แอนตี้เกย์” ฉันยืนยันกับเขา “ฉันอาจจะไม่ได้รู้เรื่องหรือเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคอมมูนิตี้มากนัก แต่ฉันก็ไม่ใช่พวกใจแคบเหมือนกัน เพราะงั้นการที่นายอยู่ที่นี่ไม่ได้กวนใจฉันหรอกนะ...ตราบใดที่นายไม่มาจีบฉันก็พอ”

“จริงดิ ความเข้าใจผิดๆ ที่พวกนายมีเกี่ยวกับคอมมูนิตี้นี่มันน่าทึ่งจริงๆ” ไนท์แค่นเสียง “ฉันไม่ได้เที่ยวไล่จีบผู้ชายทุกคนที่ขวางหน้าหรอกนะ...มันก็เหมือนกับบอกว่าผู้ชายแท้สามารถเอาอะไรก็ได้ที่มีช่องคลอดนั่นแหละ”

เออ...อันนี้เห็นภาพเลย

“แต่ถ้าฉันชอบใคร ฉันก็จะบอกให้ชัดเจน”

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างรวดเร็ว เห็นมุมปากของเขากระตุกยิ้มขึ้นมานิดๆ

นี่ฉันคิดไปเอง...หรือว่าเขากำลังพูดถึงฉันอยู่จริงๆ วะ

ฉันกำลังจะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนั้น ในเมื่อเขาตัดสินใจว่าจะพูดกับฉันตรงๆ แล้ว...แต่แล้วฉันก็เห็นเขาถอดแจ็กเกตออก ก่อนจะดึงเสื้อยืดข้ามศีรษะ เผยให้เห็นแผงอกเป็นลอนแน่น

เชี่ย!

ทำไมจู่ๆ ปากฉันถึงได้แห้งผากแบบนี้ เป็นบ้าอะไรของฉันวะ

เขาหยิบตะกร้าผ้าแบบพับได้ออกมาวางไว้ข้างเตียง ก่อนจะโยนเสื้อผ้าของเขาลงไป...ตลอดเวลานั้นฉันไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้เลย

หุ่นของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าเขาออกกำลังกายมาอย่างดี ที่ผ่านมาฉันคิดว่าในกลุ่มของฉันมีแค่เดวอนคนเดียวที่หุ่นดี แต่พอได้มาเห็นไนท์...ฉันกลับรู้สึกชาวาบแปลกๆ ในช่องท้องซึ่งอธิบายไม่ถูก

“ฉันจะไปอาบน้ำ” เสียงของไนท์ดึงฉันออกจากภวังค์ “หรือนายอยากจะอาบก่อนไหม”

“ไม่เป็นไร” ฉันบอกเขา พลางกลืนน้ำลาย “ฉันจะเปลี่ยนชุดที่นี่”

“ได้”

ไนท์พาดผ้าเช็ดตัวไว้บนบ่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ลังเล

“ทำไมในห้องมันร้อนอย่างนี้วะ” ฉันพึมพำกับตัวเองขณะลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุด

ฉันถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ออก โยนมันลงตะกร้าผ้าของตัวเองแล้วดึงกางเกงขาสั้นมาสวมเพื่อเตรียมตัวนอน ขณะที่กำลังหาเสื้อยืดมาใส่ ฉันก็ได้ยินเสียงผิวปากดังมาจากข้างหลัง ทำเอาฉันสะดุ้งแล้วหันขวับไปเผชิญหน้ากับไนท์ ตอนนี้เขายืนอยู่อีกฝั่งของห้อง พิงกำแพงฝั่งตรงข้ามในสภาพที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว เส้นผมเปียกชุ่มมีหยดน้ำเกาะพราว เขามองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยดวงตาสีเฮเซลคู่นั้น พร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก

“ฉันจัดนายแน่...ถ้านายยอม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป